ปัจจุบันนี้เด็กไทยส่วนใหญ่นิยมไปเรียนต่อต่างประเทศมากขึ้น แต่ประเทศอังกฤษก็ยังเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับนักเรียนไทยด้วยเหตุผล ดังนี้
1. มาตรฐานและระบบการศึกษาของอังกฤษเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก
จากการจัดอันดับระบบการศึกษาในระดับอุดมศึกษาของ QS Higher Education System Strength Rankings 2016 พบว่าประเทศอังกฤษได้รับการจัดอันดับติด 1 ใน 5 ของโลก จากการประเมินภาพรวมของความเข้มแข็งของระบบการศึกษาและผลงานของมหาวิทยาลัย
2. ความน่าเชื่อถือ
เนื่องจากมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ในอังกฤษมีอายุเก่าแก่ตั้งแต่ 50-100 ปีขึ้นไป ทำให้มีการสั่งสมศิลปวิทยาการและคลังความรู้ในสาขาต่างๆ มาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลายาวนาน ทำให้นักศึกษาได้รับความรู้ที่กว้างขวางและหลากหลาย นอกจากนี้ความสัมพันธ์ที่ดีอันยาวนานและความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของนักเรียนไทยในอังกฤษ ทำให้นักเรียนที่จบการศึกษาจากประเทศอังกฤษมี connection ที่ดีและมีผลต่อการทำงานหลังจบการศึกษาเป็นอย่างมาก
3. ระยะเวลาและค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าประเทศอื่นๆ
การเรียนต่อที่อังกฤษในระดับปริญญาตรีใช้เวลาเพียง 3 ปี (ประเทศอื่นๆ ประมาณ 4 ปี) ส่วนระดับปริญญาโทใช้เวลาเพียง 1 ปี (ประเทศอื่นๆ 2-3 ปี) ด้วยระยะเวลาการเรียนที่น้อยกว่า และระบบการเรียนการสอนแบบเข้มข้นทำให้นักเรียนอังกฤษได้บริหารเวลาอย่างคุ้มค่าที่สุดทั้งการเรียนและการใช้ชีวิต นอกจากนี้ จากเหตุการณ์ Brexit ที่ทำให้ค่าเงินปอนด์ลดลงทำให้ค่าใช้จ่ายในการศึกษาและค่าครองชีพลดลง ซึ่งนับว่าเป็นประโยชน์โดยตรงสำหรับนักเรียนที่ตัดสินใจเรียนต่อที่อังกฤษในช่วงเวลานี้
เป้าหมายของนักเรียนไทยที่ไปเรียนต่ออังกฤษ
จากการสอบถามข้อมูลของนักเรียนจาก Hands On Education Consultants พบว่าเป้าหมายหลักๆ ของการเรียนต่ออังกฤษคือ
- เพื่อนำความรู้มาบริหารธุรกิจของครอบครัว
- เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าทำงานที่บริษัทขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย
- เพื่อเข้าทำงานในบริษัทชั้นนำข้ามชาติ Multinational Company
- นักเรียนทุนจากหน่วยงานและองค์กรณ์ต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน
- ศึกษาต่อเพื่อทำงานในต่างประเทศ แม้จะมีจำนวนไม่มากนักแต่ก็มีอัตราเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ จากกการสำรวจนักเรียนที่ใช้บริการของ Hands On Education Consultants ในปี 2016 พบว่ามหาวิทยาลัยที่เด็กไทยนิยมไปเรียนต่อคือ University of Leeds, University of Southampton, University of Reading, University of Exeter และ King’s College London
ส่วนสาขาที่นิยมเรียนกันมาก 5 อันดับแรกได้แก่
1) International Business/Management
2) Marketing/Advertising
3) Finance
4) Entrepreneurship
5) Law
หากคุณเป็นหนึ่งคนที่สนใจเรียนต่อที่อังกฤษ ไม่ควรพลาดงานนี้ The UK Study Exhibition 2016
งานใหญ่ประจำปีที่มีมหาวิทยาลัยจากอังกฤษ สก็อตแลนด์ เวลส์และไอร์แลนด์เข้าร่วมมากกว่า 75 สถาบัน
พร้อมทั้งสัมมนาดีๆ เพื่อการเรียนต่อในสาขา Medicine, Marketing, Business, Finance และ Law รวมถึงเทคนิคการเขียน SoP (Statement of Purpose) เพื่อพิชิตใจมหาวิทยาลัยชั้นนำจากอังกฤษ และเทคนิคการทำข้อสอบ IELTS ให้ได้คะแนนดี
วันเวลา: วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน 2559 เวลา 14:00 – 20:00
สถานที่: Sofitel Bangkok Sukhumvit Hotel
ชมคลิปบรรยากาศงาน UK Study Exhibition ที่ผ่านมาได้ที่นี่
หัวข้อและรายละเอียดการสัมมนา
- Study Medicine in the UK delivered by MPW
- Study Marketing in the UK delivered by the University of Reading
- Study Business in the UK delivered by the University of Surrey
- Study Finance in the UK delivered by Lancaster University
- Writing an SOP to get into a top University by King’s College London
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมายภายในงาน เช่น
- IELTS Techniques โดยผู้เชี่ยวชาญจาก British Council
- IELTS Mock Up Test โดยทีมงาน Wall Street English
- Counselling Corner สอบถามข้อมูลการเรียนต่อที่อังกฤษจากผู้เชี่ยวชาญที่เรียนจบจากอังกฤษโดยตรง
- SoP Clinic ให้คำแนะนำช่วยตรวจทาน Statement of Purpose จากเจ้าของภาษา
วันและเวลา |
วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน 2559 เวลา 14:00 – 20:00 |
สถานที่และการเดินทาง |
โรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพ สุขุมวิท ชั้น 7 BTS: สถานีอโศก ทางออก 5 หรือ สถานีนานา ทางออก 3 |
ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน |