อยู่ที่ York กินอะไรดี?
ถึง York จะเป็นเมืองเล็ก แต่ก็มีร้านอาหารและร้านน้ำชาขนมหวานที่น่าสนใจหลายแห่งมากเลยค่ะ จะกินให้อร่อยก็ดีหรือจะไปถ่ายรูปสวย ๆ ก็ได้
เราขอเริ่มต้นที่ร้านซึ่งมีชื่อเดียวกับเมืองก่อนเลยแล้วกัน ใครมาที่นี่ก็ควรจะลองสักครั้ง ร้านเล็กๆ ที่ชื่อว่า The York Roast Co. ค่ะ
ที่นี่เปิดมาเกือบยี่สิบปีแล้ว เป็นธุรกิจในครอบครัวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของยอร์ก เมนูที่สุดยอดที่สุดของร้านคือ Yorkshire Pudding ที่ห่อไส้ไว้ข้างในค่ะ โดยเจ้าพุดดิ้งนี้ถือเป็นขนมปังกึ่งขนมอบแบบหนึ่ง เนื้อแป้งจะนุ่มเหนียว ที่ร้านจะทำให้แบนและใหญ่เป็นพิเศษ จะได้ห่อไส้ต่างๆ ไว้ได้ เช่น ไก่งวง เนื้ออบ จากนั้นก็ราดด้วยซอสเกรวี่ อร่อยจนต้องยกสองนิ้วให้ ถึงจะเป็นคนที่ไม่ชินกับอาหารทางยุโรปก็กินได้ไม่มีปัญหา สามารถห่อใส่กระดาษและเดินกินไปรอบ ๆ ระหว่างชมเมืองได้ด้วย ราคาจะอยู่ประมาณไม่เกินสิบปอนด์ กินอิ่มไปหนึ่งมื้อเลยค่ะ
ร้านที่สองคือ Betty Tea Room ซึ่งเป็นร้านเก่าแก่ที่มีประวัติมานานกว่าหนึ่งร้อยปีแล้วค่ะ ร้านนี้ถูกเปิดเป็นแห่งแรกที่ Harrogate โดยเชฟอบขนมชาวสวิสเซอร์แลนด์ ก่อนจะขยายสาขาออกไปทั่วภูมิภาค Yorkshire ส่วนสาขาที่ York เปิดในปี 1937 ค่ะ ซึ่งผ่านมานานขนาดนี้แล้วก็ยังมีลูกค้ามาจิบชากินขนมอยู่ตลอด แค่นี้ก็น่าจะการันตีความอร่อยของ Betty ได้แล้ว เมนูที่มีชื่อเสียงที่สุดของ Betty ก็คือชุดน้ำชายามบ่าย ประกอบด้วยสโคน แยมสตอว์เบอร์รี่ คล็อตเตดครีม และชาร้อนๆ อีกหนึ่งกา หรือถ้าใครอยากแวะมากินอาหารเช้าเบา ๆ ที่ Betty ก็มีอาหารเช้าแบบอังกฤษดั้งเดิมให้เลือกเต็มไปหมด แต่ยังไงแนะนำว่าควรมาวันธรรมดานะคะ เพราะวันหยุดคนเยอะมาก! มาก!
ถ้าใครติดใจธรรมเนียมการดื่มชายามบ่ายที่อังกฤษ ร้านที่สามที่เราจะแนะนำชื่อว่า Cafe21 ค่ะ ร้านแห่งนี้ตั้งอยู่ชั้นหนึ่งของห้างสรรพสินค้าชื่อ Fenwick จะเสิร์ฟน้ำชายามบ่ายสำหรับตั้งแต่บ่ายสองโมงเป็นต้นไปของทุกๆ วัน (สามารถจองที่นั่งได้ผ่านทางไบโอในอินสตาแกรมของร้าน) และขนมหวานที่เสิร์ฟก็จะเปลี่ยนไปตามเทศกาลด้วยนะ แต่โดยหลักแล้วจะเป็นแซนด์วิช สโคน และขนมหวาน แต่ไส้แซนด์วิชอาจจะเปลี่ยนไป หรือขนมหวานอาจจะเปลี่ยนจากมาการองเป็นคุกกี้ ราคาค่อนข้างแพง ชุดละ 50 ปอนด์สำหรับสองคน ค่อนข้างแพงเลยค่ะ แต่ให้ปริมาณเยอะมาก เรากับเพื่อนสองคนเตรียมตัวไปโดยไม่กินข้าวเที่ยง ยังกินไม่หมดยอมแพ้ใส่ห่อกลับมาที่หอเลยค่ะ
ร้านที่สี่ชื่อว่า Rise เป็นร้านอาหารเช้าใกล้ ๆ กับหอของเราค่ะ มีลูกค้าแน่นร้านตั้งแต่เช้าตรู่ เรากับเพื่อนไม่ค่อยแน่ใจว่าเป็นเพราะพนักงานในร้านหน้าตาดีหรือเปล่า (แค่ก ๆ) แต่อาหารก็อร่อยนะ ส่วนใหญ่จะเป็นเมนูไข่ ไข่ลวก ไข่ออมเล็ต หรือถ้าใครรักสุขภาพอยากกินกราโนล่ากับโยเกิร์ตก็มีเหมือนกัน เพื่อนเราชอบเมนูสเต็กเนื้อและไข่ลวกมาก บอกว่าเนื้อย่างมาสุกกำลังดี ไม่แพ้ร้านสเต็กเฉพาะทางเลยทั้งที่ราคาแค่สิบสามปอนด์เท่านั้น ส่วนเรากินไข่ลวกแซลม่อนรมควันบนโทสต์ อันนี้ก็ประมาณสิบปอนด์ค่ะ
ร้านสุดท้ายที่เราจะแนะนำมีเหตุการณ์ที่ประทับใจมาก ๆ สำหรับเราด้วย ร้านนี้คือ Double Dutch Pancake House ปกติถ้าเรากินแพนเค้กที่ไทย แพนเค้กก็จะนุ่ม ๆ ฟู ๆ ใช่ไหมล่ะ แต่ที่ร้านนี้เขาจะทำแผ่นเค้กให้บางกรอบเหมือนแป้งโรตี มีหน้าทั้งเบค่อนแฮมทั้งกล้วยและมาร์ชเมลโล่ สารพัดจะให้เลือก ราดด้วยน้ำเชื่อมเมเปิ้ลแล้วอร่อยมาก วันนั้นเรากับเพื่อนไปแล้วนั่งที่โต๊ะชั้นหนึ่ง ตอนที่กำลังรอกินก็มีครอบครัวหนึ่งมาด้วยกันสามคนพร้อมกับรถเข็นเด็ก แต่ที่นั่งชั้นล่างไม่มีแล้ว เหลือแค่ที่นั่งชั้นสอง แต่จะให้ขนรถเข็นเด็กขึ้นชั้นสองก็ไม่ไหวเพราะบันไดแคบมาก เรากับเพื่อนเลยเสนอว่าเราจะย้ายโต๊ะให้ ครอบครัวนั้นก็ดีใจมากและบอกว่าจะจ่ายบิลโต๊ะเราให้ เราก็แบบ เฮ้ย มันแค่ย้ายโต๊ะเอง ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก เกี่ยงกันไปเกี่ยงกันมา สุดท้ายทางร้านก็ก้าวออกมาเป็นฮีโร่โดยเสนอส่วนลด 10% ให้โต๊ะเรา จากที่แพนเค้กชิ้นละเก้าปอนด์เลยเหลือแปดปอนด์เศษๆ
เราประทับใจเรื่องนี้มาก หนึ่งคือคนที่นี่นิสัยน่ารักมาก ขี้เกรงใจไม่แพ้คนไทยเลย สองคือจริง ๆ ทางร้านไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้เลย แต่เขาก็ยังเสนอส่วนลดให้เรา ถ้าใครมีโอกาสก็แวะเวียนมาได้ และถ้ามีโอกาสทำความดีก็ไม่ต้องอาย!