ทำไมต้องเรียนภาษาอังกฤษในต่างประเทศ?
มีเด็กไทยจำนวนมากที่ประสบปัญหากับการเรียนภาษาอังกฤษ มีส่วนน้อยที่สามารถพูดฟังอ่านเขียนภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว กลับกันทักษะทางภาษาอังกฤษเป็นที่ต้องการสูงมาก ทำให้หลายคนพยายามพัฒนาทักษะนี้ ซึ่งการเรียนภาษาต่างประเทศนั้น ไม่ว่าจะเป็นภาษาอะไรก็ตาม นอกจากการเรียนหลักไวยากรณ์หรือการท่องคำศัพท์แล้ว การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอหรือการนำมาประยุกต์ใช้จริงในชีวิตประจำวันสำคัญไม่แพ้กันเลย และในชีวิตประจำวัน ถ้าเราเรียนอยู่ที่ไทย โอกาสที่จะได้ใช้ภาษาต่างประเทศมีน้อยนิด
การเรียนภาษาที่ต่างประเทศจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่อยากจะพัฒนาทักษะภาษาต่างประเทศแบบก้าวกระโดดเพื่อนำไปต่อยอดในอนาคต พร้อมกับได้ประสบการณ์เปิดโลกที่กว้างมากขึ้น มาดูเรื่องที่เราควรเริ่มคิดและพิจารณากัน
“เรียนภาษาประเทศไหนเหมาะกับเราที่สุด”
แต่ละประเทศมีไลฟ์สไตล์ ความเป็นอยู่ สังคม และบรรยากาศที่แตกต่างกัน ก่อนที่เราจะเลือกประเทศที่จะไปเรียนต่อนั้น ควรวิเคราะห์และศึกษาบ้านเขาอย่างถี่ถ้วนในทุกแง่ และเอามาเปรียบเทียบกัน หากเราเลือกประเทศที่ชอบเราอาจจะไม่ได้คำนึงถึงความเหมาะสมเวลาเราไปใช้ชีวิตที่นั่น หากเราเลือกประเทศที่เหมาะสมกับเราจะทำให้เราปรับตัวได้ง่ายมากขึ้น และสภาพความเป็นอยู่เราจะไม่ลำบากนัก
1. เรียนภาษาที่สหราชอาณาจักร (UK) 🇬🇧
เรียนภาษาจากเจ้าของภาษา ที่เป็น British English ภาษาอังกฤษแบบต้นฉบับ มีสถาปัตยกรรมอาคารบ้านเมืองจะมีความเก่าแก่ มีสถานที่ทางประวัติศาสตร์เยอะ มีพิพิธภัณฑ์คุณภาพให้เดินชมเพียบ มีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ มีโอกาสท่องเที่ยวในหลากหลายเมืองที่มีชื่อเสียงด้านต่าง ๆ ที่สำคัญสามารถเดินทางไปประเทศอื่น ๆ ในยุโรปได้สะดวกอีกด้วย
2. เรียนภาษาที่ออสเตรเลีย (Australia) 🇦🇺
เมืองอบอุ่นที่มีทุกฤดูให้สัมผัสได้ในวันเดียว ร้อน-หนาว-ฝนตก แต่โดยรวมคือปรับตัวใช้ชีวิตได้ง่าย บรรยากาศในเมืองมีทั้งตึกเก่าและใหม่ผสมกัน มีชายหาดเยอะมาก แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติมากมายพร้อมให้สำรวจและดื่มด่ำ มีผู้คนหลากหลายสัญชาติให้การต้อนรับอย่างเป็นมิตร โอกาสเจอคนเอเชียจะเยอะกว่าประเทศอื่น ๆ เวลาต่างจากที่ไทยแค่ 4-5 ชั่วโมง ติดต่อเพื่อน ๆ หรือครอบครัวในเวลาที่ไม่ต่างกันมากนัก
3. เรียนภาษาที่สหรัฐอเมริกา (USA) 🇺🇸
ประเทศใหญ่ที่โด่งดังในโลก บรรยากาศแต่ละเมืองแต่ละรัฐต่างก็มีเอกลักษณ์ ด้วยความที่เป็นผู้นำทางเศรษฐกิจเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก การใช้ชีวิตที่นี่จึงทั้งมีความทันสมัยและนำเทรนด์เสมอ และยังได้เรียนภาษาอังกฤษแบบอเมริกันซึ่งเป็นสำเนียง American English ที่เราคุ้นเคย ผู้คนมีความหลากหลายสูงมาก ค่าครองชีพค่อนข้างแพงกว่าประเทศอื่น ๆ แต่ประสบการณ์ที่ได้รับคุ้มค่าแน่นอน
4. เรียนภาษาที่นิวซีแลนด์ (New Zealand) 🇦🇺
เป็นประเทศที่โดดเด่นเรื่องความปลอดภัยสูงสำหรับนักเรียนต่างชาติ มีวิวธรรมชาติที่สวยงาม ให้ความสงบมากกว่าประเทศอื่น ๆ ผู้คนน่ารักเป็นมิตร เพราะเขาให้ความสำคัญกับนักเรียนต่างชาติ และความเท่าเทียมทางเพศ การท่องเที่ยวในประเทศก็สามารถไปแต่ละที่ได้สะดวกและทั่วถึง
5. เรียนภาษาที่แคนาดา (Canada) 🇨🇦
ประเทศที่อยู่ทางตอนเหนือของอเมริกา หลักสูตรและการสอนมีความทันสมัย ความทันสมัยและความคึกคักในเมืองใกล้เคียงกับไลฟ์สไตล์ของสหรัฐอเมริกา มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม มีชื่อเสียงด้านความ และมีแหล่งธรรมชาติที่สวยงาม แม้จะมีค่าครองชีพที่สูงแต่คุณภาพชีวิตที่นั่นครบจบทุกความต้องการ
6. เรียนภาษาที่สิงคโปร์ (Singapore) 🇸🇬
ประเทศที่อยู่ไม่ไกลจากไทย เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่คิดถึงบ้าน อยากบินไปกลับบ่อย ๆ บ้านเมืองจะวุ่นวายน้อยกว่าเมืองใหญ่ในประเทศอื่น ๆ ผู้คนค่อนข้างมีระเบียบวินัยสูง ความปลอดภัยก็สูงมากด้วยกฎหมายที่เคร่งครัด การเรียนภาษาในประเทศสิงคโปร์ จึงนับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อยไปกว่าประเทศอื่น ๆ เลย
*นอกจากนี้ทาง Hands On ยังมี Destination เรียนคอร์สภาษาอีกหลายแห่ง เช่น ที่ไอร์แลนด์ มอลตา และ ดูไบ เป็นต้น สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อผู้เชี่ยวชาญของ Hands On ได้เลย เพียงกรอกฟอร์มด้านล่าง
“ค่าใช้จ่ายสำหรับการเรียนภาษา ต้องใช้งบเท่าไหร่?”
เบื้องต้นค่าใช้จ่ายรวมทุกอย่างจะเริ่มต้นที่เดือนละ 100,000 บาท ราคานี้สามารถใช้คำนวณคร่าว ๆ ได้ เช่น ถ้าเราอยากไป 3 เดือน ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 300,000 บาท เป็นต้น เห็นตัวเลขแบบนี้อย่าพึ่งตกใจ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเมืองและที่พักที่เราเลือก และตัวเลขนี้ไม่ใช่ตัวเลขที่ตายตัวเพราะหลาย ๆ ครั้งค่าใช้จ่ายพวกนี้เราสามารถควบคุมมันได้ หากอยากให้ค่าใช้จ่ายถูกลง เราก็มีคำแนะนำมาให้
1. เลือกไปเรียนต่อเมืองเล็ก ๆ ประหยัดกว่า
จะช่วยประหยัดไปได้ทั้งค่าเรียน ค่าที่พัก และค่าครองชีพเลย เพราะราคาค่าเรียนในแต่ละเมืองแต่ละสาขาของทางสถาบันจะไม่เท่ากัน และแน่นอนเมืองเล็ก ๆ ค่าที่พักย่อมราคาถูกกว่าในเมืองใหญ่ ๆ แทบประหยัดไปได้เป็นหลักหมื่นต่อเดือนเลย
2. เลือกเรียนสถาบันที่มีโปรโมชั่นส่วนลดเยอะที่สุด
แต่ละสถาบันต่างแข่งขันกันออกโปรโมชั่นมาตลอด เช่น ส่วนลดค่าเรียน, ฟรีค่าสมัครเรียน, แถมสัปดาห์เรียนฟรี เป็นต้น ตรงนี้แหละที่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับน้อง ๆ เราสามารถเลือกได้เลยว่างบเราเหมาะกับโปรโมชั่นของสถาบันไหนที่สุด
3. ยิ่งเรียนนาน ค่าเรียนยิ่งถูก!
อันนี้เป็นข้อมูลที่หลายคนอาจไม่รู้ เพราะค่าเรียนทุกสถาบันจะคิดเป็นราคาต่อสัปดาห์ เช่น ถ้าเราเลือกเรียน 1-4 สัปดาห์ ค่าเรียนจะอยู่ที่สัปดาห์ละ 10,xxx บาท แต่ถ้าเราเรียนสัปดาห์ที่ 5 หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบัน ค่าเรียนจะลดลงมาเหลือสัปดาห์ละ 9,xxx บาท เป็นต้น
“ไม่เก่งภาษา จะเรียนไหวไหม?”
“เพราะไม่เก่ง เราจึงไปเรียนเพื่อให้เก่ง” คำนึงไว้เสมอว่าการไปเรียนต่อต่างประเทศเป็นการก้าวสู่การพัฒนาที่ยิ่งใหญ่ สถาบันการศึกษาถูกสร้างมาเพื่อทำให้คนไม่เก่ง เก่งขึ้นได้ บางที่ถึงไม่มีพื้นฐานเขาก็พร้อมจะปูให้กับเรา และก็ไม่ต้องอายเพื่อนเพราะก่อนเรียนทางสถาบันจะมีแบบทดสอบวัดระดับภาษาเพื่อจัดห้องเรียนที่เหมาะสมกับเราให้ และจะจัดห้องเป็นกลุ่มเล็ก ขึ้นอยู่กับเลเวลและวิชาเรียนด้วย มีตั้งแต่ 8-16 คน น้อง ๆ จะได้เจอกับเพื่อนต่างชาติที่มาเรียนภาษาเหมือนกัน และมีระดับภาษาที่ไม่ต่างกันมาก ทำให้เวลาเรียนเพื่อน ๆ จะพยายามช่วยกันเรียน แรก ๆ อาจจะยากหน่อย แต่เมื่อเวลาผ่านไป เราจะปรับตัวได้
โดยข้อนี้ ทีมงาน Hands On ขอให้น้อง ๆ ทำการบ้านเพิ่มเติม ศึกษาดูรายละเอียดของคอร์สให้เรามั่นใจว่า คอร์สนี้ตรงกับความต้องการของเราแล้วใช่มั้ย เพราะคอร์สภาษาก็มีหลายรูปแบบ และมีจุดประสงค์การเรียนที่ต่างกัน ถ้าใครอยากพัฒนาภาษาอังกฤษอย่างค่อยเป็นค่อยไป สะสมความมั่นใจไปพร้อม ๆ กับทักษะการใช้ภาษา คอร์ส General English ถือว่าเหมาะสมสำหรับการเรียนของเรา แต่ถ้าน้อง ๆ ต้องการเก่งภาษาไว ๆ อยากมีพัฒนาการแบบก้าวกระโดด การเลือกเรียน Intensive English ก็จะตอบโจทย์ยิ่งกว่า หรือถ้าใครไม่ชัวร์ว่ามีคอร์สไหนให้เลือกบ้าง ก็สามารถติดต่อมาปรึกษาพี่ Hands On ได้เลย
ตัวอย่างรูปแบบคอร์สเรียนภาษาอังกฤษ
- General English
- Intensive English
- English for Academic Purpose (EAP)
- Exam Preparation
- Business English
เป็นต้น
“ไปเรียนต่างประเทศพักที่ไหนดี?”
“Host Family หรือ หอพักนักเรียนที่ไหนดีกว่ากัน?” บอกเลยว่าดีทั้งคู่ แต่การตัดสินใจเลือกขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และความต้องการของเราและผู้ปกครอง
Host Family จะได้ซึมซับและเรียนรู้บรรยากาศของครอบครัวชาวต่างชาติเฉพาะเจาะจงแล้วแต่ประเทศที่เราเลือกไป มีวัฒนธรรมความเป็นอยู่กันอย่างไร เราจะมีเวลาพูดคุยกับ Host Family ในช่วงเช้า ช่วงอาหารเย็น และในวันหยุดสุดสัปดาห์ โดย Host Family จะเตรียมอาหารเช้าและเย็นให้ อย่างไรก็ตามแต่ละบ้านก็จะมีกฎที่เราต้องปฏิบัติตาม ยกตัวอย่างเช่น ต้องกลับบ้านตรงเวลาหรือไม่ดึกจนเกินไป, หากจะไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ จะต้องแจ้งให้ Host family ทราบก่อน ประหนึ่งเหมือนเราเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว ซึ่งต้องปรับตัวให้เข้ากันเป็นเรื่องที่ต้องพบเจอ
หอพักนักเรียน จะมอบอิสระในการใช้ชีวิตให้น้อง ๆ มากขึ้น แลกมาด้วยการจะต้องดูแลตัวเองที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะเราต้องรับผิดชอบตัวเองเป็นหลัก และไม่ต้องกลัวว่าจะเหงาเพราะจะได้เจอและพูดคุยกับนักเรียนต่างชาติที่มาเรียนภาษาเช่นเดียวกับเรา และหอพักมักจะอยู่ใกล้โรงเรียน บางที่สามารถเดินไปเรียนได้เลยใน 5 นาที โดยห้องนอนของหอพักจะมีหลายประเภท ทั้งแบบแชร์ส่วนกลางหรือเป็นห้องสตูดิโอมีทุกอย่างครบ ขึ้นอยู่กับที่พักของแต่ละสถาบัน และแต่ละประเทศที่น้อง ๆ เลือกเรียน โดยที่พักของนักเรียนภาษาส่วนใหญ่ที่จะมีคนต่อคิวเยอะ หากน้อง ๆ ต้องการความแน่นอนเรื่องการสมัครเรียน พร้อมหอพักนักเรียนใกล้สถาบัน ปรึกษาพี่ Hands On ได้เลย เพื่อการประสานงานที่รวดเร็ว และการติดตามผลกับสถาบันเรียนภาษาที่แม่นยำ
“การสมัครเข้าไปเรียนยากลำบากไหม?”
การสมัครไปเรียนภาษาน้อง ๆ สามารถยื่นสมัครเรียนด้วยตัวเองได้ น้อง ๆ จะต้องดำเนินเรื่องทุกอย่างเอง และเตรียมเอกสารต่าง ๆ เองทั้งหมด หากใครรู้สึกว่ามันยุ่งยากพี่ ๆ ก็มีทางออกให้ น้อง ๆ สมารถสมัครผ่าน Hands On ซึ่งเป็นเอเจนซี่ของสถาบันภาษาโดยตรง เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 19 ปี พี่ ๆ จะคอยช่วยหาข้อมูลให้ เตรียมเอกสาร ประสานงานกับทางสถาบันให้ โดยทุกขั้นตอนเป็นบริการฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
Hands On Education Consultants มี contract กับทางสถาบันสอนภาษาที่ต่างประเทศมากกว่า 50 สถาบัน เป็นตัวแทนมากกว่า 7 ประเทศ มีตัวเลือกให้น้อง ๆ เลือกเยอะมาก และเราเป็นตัวแทนให้สถาบันที่มีคุณภาพและผ่านการรับรองโดยกระทรวงการศึกษาแล้วเท่านั้น ที่สำคัญสมัครผ่าน Hands On ค่าเรียนถูกกว่าไปสมัครเองอีก เพราะเราจะตรวจเช็ก อัปเดตโปรโมชั่น และการยกเว้นค่าสมัครเรียนของแต่ละสถาบันเรียนภาษามาให้น้อง ๆ แล้ว รับรองว่าน้อง ๆ ไม่ผิดหวังแน่นอน และพี่ ๆ จะแนะนำตามความต้องการของน้อง ๆ เป็นหลัก ไม่มีเชียร์ขายที่ไหนเป็นพิเศษ