เหตุผลที่ควรไปเรียนต่อที่ประเทศแคนาดา 🇨🇦
ข้อดีที่ทำให้แคนาดาน่าไปเรียนต่อไม่แพ้อเมริกาและประเทศใด มีความเหมือนและแตกต่างอย่างไรบ้าง มาดูกัน
📙 แคนาดา หนึ่งในเจ้าของระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก
แคนาดาเป็นประเทศที่มีระดับคุณภาพการศึกษาสูง เพราะทางรัฐบาลของประเทศแคนาดาให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษามาก มาตรฐานการศึกษาของแคนาดาเป็นที่ยอมรับในระดับโลก นักศึกษาต่างชาติที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยของแคนาดา จึงประสบความสำเร็จและก้าวหน้าในหน้าที่การงานจากมาตรฐานการศึกษาที่สูงและประสบการณ์มากมายที่ได้ฝึกฝนทักษะในระหว่างนั้น แคนาดาได้สร้างชื่อเสียงด้านการศึกษาจากการวัดผลในโครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ (Programme for International Student Assessment) หรือ PISA ได้จัดให้แคนาดาอยู่ในกลุ่ม 10 ประเทศที่เยาวชนมีผลการเรียนเป็นเลิศ
ปัจจัยสำคัญในความสำเร็จด้านการศึกษาของแคนาดาคือการยึดหลักคิดใน “ความเสมอภาค” ของทุกคน ซึ่งแนวคิดนี้คือประเด็นสำคัญ ที่ช่วยสนับสนุนให้นักศึกษาชาวต่างชาติจากทั่วโลกได้เข้ามาเป็นสมาชิกนักเรียนของแคนาดา และส่งผลให้นักเรียนจากทั่วโลกได้ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ง่ายและมีความมั่นใจ และประสบความสำเร็จในการเรียนด้วย
📙 มาตรฐานการสอนของคณาจารย์
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้แคนาดาประสบความสำเร็จทางด้านการศึกษาก็คือความสามารถของตัวอาจารย์ผู้สอนที่ให้ความรู้กับนักเรียน ผู้ที่จะมาทำอาชีพครูผู้สอนที่แคนาดาได้ต้องผ่านการคัดกรองมาเป็นอย่างดี โดยแต่ละเมืองจะมีรูปแบบการประเมินผลของตนเอง อย่างเช่น ในบางเมืองมีการวัดผลที่ผู้สอนต้องผ่านการประเมินทั้งด้านความรู้ในการสอนสาขาวิชานั้น การสอนในภาคปฏิบัติและการปรับตัวกับสังคมแห่งการเรียนรู้ และการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมและพัฒนาศาสตร์ความรู้ของตนในฐานะของผู้สอน เป็นต้น อาจารย์ของเมืองนั้นจะต้องผ่านหลักสูตรที่กำหนดโดยก่อนเพื่อให้ได้ใบประกาศนียบัตรเพื่อใช้แสดงตนเป็นผู้สอนของเมืองนั้น สถาบันการศึกษาของประเทศแคนาดาจึงขึ้นชื่อในการรักษามาตรฐานคุณภาพการศึกษามาก เพราะแต่ละสถาบันจะไม่รับอาจารย์ที่ไม่ผ่านการรับรองจากหลักสูตรผู้สอนในประเทศมาเป็นอาจารย์ของสถาบัน และในแต่ละเมืองมีความเคร่งครัดที่ต่างกันไป เพราะอาจารย์พูดสอนต้องสอบประเมินผลใหม่เมื่อจะย้ายไปสอนในอีกเมือง
📙 ระบบการเรียนการสอนสองภาษา
ประเทศแคนาดามีระบบการเรียนการสอนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โดยผู้เรียนจะต้องเข้าเรียนในชั้นเรียนด้วยภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรก (ESL) และเข้าชั้นเรียนในภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่สอง (FSL) เพราะว่าประเทศแคนาดามี 2 ภาษาราชการ ได้แก่ ภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส และเนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ของประชากรกว่า 59% และมีภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาแม่ของประชากรกว่า 23% นอกจากนั้นกว่า 18% ของประชากรแคนาดามีมากกว่าหนึ่งภาษาแม่ ขึ้นอยู่กับประเทศสัญชาติเดิมของผู้อพยพที่ได้เดินทางเข้าไปยังประเทศแคนาดา ภาษาอื่นที่เป็นที่นิยมในประเทศแคนาดา ได้แก่ ภาษาจีน ภาษาสเปน ภาษาอารบิก และภาษาตากาล็อก เป็นต้น นักเรียนต่างชาติที่เข้าระบบการศึกษาของแคนาดาจึงมีทางเลือกในการเรียนต่อที่จะได้ฝึกทั้งภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส
📙 มาตรฐานชีวิตที่ดีและมีคุณภาพ
แคนาดาประเทศที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รวมพื้นที่ทั้งหมดราว 9,984,670 ตารางกิโลเมตร แต่มีประชากรทั้งหมดเพียงแค่ประมาณ 36 ล้านคนเท่านั้น โดยประกอบไปด้วยประชากรที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรมสูง คนในประเทศแคนาดาจึงมีนิสัยเป็นกันเอง เป็นมิตร ให้เกียรติและเคารพผู้อื่น เพราะเขาให้ความสำคัญกับความแตกต่างทางความคิดและที่มาของแต่ละบุคคล องค์การสหประชาชาติได้ยกให้แคนาดาเป็นประเทศที่น่าอยู่เหมาะแก่การดำรงชีพมากที่สุดในโลก การสำรวจนี้ได้ประเมินคุณภาพชีวิตใน 174 ประเทศ และใช้องค์ประกอบชี้บ่งมากกว่า 200 อย่าง แคนาดาได้ถูกจัดอยู่ในอันดับสูงในด้านการศึกษา และระดับอายุเฉลี่ยสูง มีอัตราอาชญากรรมและการก่อความรุนแรงอยู่ในระดับต่ำ
📙 การเติบโตของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
แคนาดาเป็นประเทศเดียวในกลุ่ม G8 ที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เพราะแคนาดามีนโยบายที่เปิดการค้าเสรีและโปร่งใสมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก และเป็นประเทศที่พึ่งพิงการค้ากับต่างประเทศเป็นหลัก โดยสัดส่วนการค้าต่อ GDP สูงถึงร้อยละ 45 สำหรับการส่งออก และร้อยละ 40 สำหรับการนำเข้า รูปแบบการค้าและการลงทุนของแคนาดาจะพึ่งพิงกับสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก อีกทั้งยังมีการจัดทำข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (North American Free Trade Agreement: NAFTA) ซึ่งยิ่งช่วยเสริมมูลค่าการค้าระหว่าง 2 ประเทศให้มากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นการเริ่มต้นเข้าไปศึกษาต่อในประเทศแคนาดา อาจนำพาไปสู่โอกาสทองทางการทำงานในอนาคตก็เป็นได้
📙 ประสบการณ์ใช้ชีวิตจริงและได้ทำงานพาร์ทไทม์จริง
แคนาดาเป็นประเทศที่มอบโอกาสให้ผู้ไปเยือน ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดหรือ จะไปเรียนต่อ และอื่น ๆ ผู้ที่ได้ไปสัมผัสการใช้ชีวิตที่แคนาดาอย่างเต็มที่ จะได้แสดงออกถึงความเป็นตัวเองและทางความคิดของตนกับผู้อื่นได้อย่างเท่าเทียมกัน และในระหว่างที่ใช้ชีวิตในประเทศแคนาดานั้น นักศึกษาสามารถทำงานในระหว่างเรียนได้อย่างถูกกฎหมาย ไม่ว่าจะทำงานพิเศษในมหาวิทยาลัย หรือทำงานนอกมหาวิทยาลัย แค่เพียงต้องควบคุมเวลาทำงานในแต่ลำสัปดาห์ให้ไม่เกิน 20 ชั่วโมงเท่านั้นเอง เพื่อให้นักศึกษาได้มีเวลาโฟกัสกับการเรียนเพียงพอ