เที่ยวเมือง Glasgow เมืองที่ใหญ่ที่สุดใน Scotland

  • Share this:

กลับมาพบกันอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์นะครับ ก่อนอื่นเลยก็ขอกล่าวคำว่าสวัสดีกันก่อน เป็นยังไงกันบ้างครับกับวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ก็หวังว่าจะสมหวังในความรักกันทุกคนนะครับ ส่วนอีกเทศกาลสำคัญในเดือนกุมภาพันธ์ที่กำลังจะมาถึงนี้ซึ่งก็คือวันตรุษจีน ผมก็อยากจะถือโอกกาสนี้อวยพรเพื่อนๆทุกคนขอให้พอเจอแต่สิ่งดีๆ รับอั่งเปาซองโตๆกันทั่วหน้านะครับ เปลี่ยนจากเรื่องเทศกาลมาคุยเรื่องดินฟ้าอากาศกันบ้างดีกว่าครับ ผมเดาว่าที่เมืองไทยตอนนี้คงเริ่มจะร้อนอีกแล้วเพราะเขยิบเข้าใกล้หน้าร้อน เข้าไปทุกที ยังไงก็ดูแลสุขภาพกันดีๆ นะครับ ส่วนที่นี่อากาศก็เริ่มอุ่นขึ้นนิดหน่อยแต่ก็ยังถือว่าหนาวอยู่ดี ใครมีแผนการจะเดินทางมาช่วงนี้ก็เตรียมเสื้อกันให้อุ่นๆ เข้าไว้นะครับ

สำหรับคราวนี้ก็ตามที่ได้ทิ้งท้ายไว้ในฉบับที่แล้วว่าผมจะพาเพื่อนๆ ไปลุยสกอตต์แลนด์กัน เราก็จะไปเที่ยวเมือง Glasgow กันก่อนส่วนฉบับหน้าตั้งใจไว้ว่าจะเขียนเรื่องตอนที่ไป Edinburgh อีกเมืองในสกอตแลนด์นะครับ 

glasgow_city

ก่อนอื่นเลยก็ขอกล่าวถึงเมือง Glasgow กันก่อนนะครับ ตามแผนที่แล้วเมือง Glasgow เนี่ยอยู่ทางตอนเหนือของเกาะบริเตนใหญ่ (ซึ่งประกอบไปด้วย อังกฤษ เวลส์ และ สกอตต์แลนด์) พูดให้เห็นภาพมากขึ้นก็คือ Glasgow เนี่ยอยู่ทางตอนใต้ของสกอตต์แลนด์ โดยตั้งอยู่ในระนาบเดียวกับ Edinburgh (Glasgow อยู่ทางตะวันตกส่วน Edinburgh อยู่ทางตะวันออก) เหนือขึ้นไปก็จะเป็นบริเวณที่เรียกรวมๆกันว่าไฮแลนด์ซึ่งก็เป็นอีกแหล่งท่อง เที่ยวที่มีชื่อเสียงของทางสกอตต์แลนด์ ไว้ถ้ามีโอกาสผมจะมาเขียนเรื่องของไฮแลนด์ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันครับ กลับมาที่ Glasgow กันต่อครับ Glasgow ก็เป็นเมืองท่าที่เก่าแก่และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสกอตต์แลนด์จนได้รับ การขนานนามว่าเป็น “The Second City of British Empire” แต่อย่างไรก็ตาม Glasgow ไม่ใช่เมืองหลวงของ สกอตต์แลนด์ตามที่หลายๆ คนเข้าใจนะครับ (เมืองหลวงของสกอต์แลนด์ คือ Edinburgh) ด้วยความที่เป็นเมืองใหญ่และเมืองที่เก่าแก่ ตึกรามบ้านช่องส่วนใหญ่ของเมืองนี้ก็จะออกแนวเป็นสถาปัตยกรรมเก่าๆ ซะเป็นส่วนใหญ่ และก็จะมีของที่เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่แซมมาประปรายนะครับ

สำหรับทริปนี้ก็เป็นทริป 3 วัน 2 คือ Glasgow-Edinburgh ที่ผมไปมาในช่วง 22-24 สิงหาคมนู่น ซึ่งตรงกับวันหยุดธนาคารของที่นี่พอดี สำหรับการเดินทางคราวนี้ผมก็ใช้บริการของรถไฟอีกครั้งครับ คราวนี้นั่งจากสถานี Manchester Piccadilly มาลงที่สถานี Glasgow Central ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงนิดๆ ราคาค่าตั๋วอยู่ที่ 19.8 ปอนด์ซึ่งผมจองผ่านเว็บ Nationalrail ล่วงหน้าประมาณ 3 สัปดาห์ (รวมส่วนลดจากบัตร railcard แล้ว) พอมาถึงเมือง Glasgow ความรู้สึกแรกเลยก็คือว่ามันเป็นเมืองใหญ่ที่ไม่ได้แออัดเหมือนอย่าง London สถานที่แรกที่ผมไปเยี่ยมเยียนก็คือ Glasgow City Chamber กับ George Square ซึ่งถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ ตัว city chamber เนี่ยตั้งอยู่บน George Square สำหรับ Glasgow City Chamber เนี่ยก็เป็นอาคารที่เป็นสำนักงานใหญ่ของ City Council ประจำเมือง ตัวอาคารก็เป็นสถาปัตยกรรมแบบ Victorian ซึ่งถ้าเรามองจาก George Square เข้าไปก็จะได้ภาพที่สวยงาม นับว่าเป็น Landmark ที่แนะนำให้มาถ่ายภาพกัน

glasgow_george_square

เสร็จ จากทั้งสองที่แล้วผมก็ไป Check-in ที่ Adelaide Hotel ซึ่งต้องเดินออกจากตัว City Centre มาประมาณ 15 นาทีได้ การเดินในตัวเมืองก็เป็นอะไรที่ออกจะกินแรงหน่อยๆ เพราะ Glasgow เนี่ยตั้งอยู่บนเขาทำให้เราต้องเดินขึ้นลงเนินอยู่ตลอดเวลา 15 นาทีบนเนินนี่ก็เหนื่อยใช่เล่นนะครับ แฮ่แฮ่ สำหรับโรงแรมก็จองออนไลน์มาในราคา 30 ปอนด์ ออกจะแพงไปนิดแต่มีอาหารเช้าให้ก็ถือว่าโอเคพอรับได้สำหรับคนงบน้อยแบบผม ซึ่งอาหารเช้าก็ไม่มีอะไรมาก มีขนมปังให้ 2 แผ่น อาหารเช้าซีเรียล แล้วก็ชา (เดินขึ้นลงเนินอีก 15 นาทีก็หมดแล้ว ฮาฮา)

หลังจาก Check-in เอาของเข้าห้องเรียบร้อยก็เดินทางต่อไปยังริมแม่น้ำ Clyde แม่น้ำประจำเมือง Glasgow เพื่อไปชม The Arc Clyde กับ Amadillo เจ้า Arc Clyde เนี่ยเป็นชื่อของสะพานข้ามแม่น้ำ Clyde ที่แลดู Modern สวยงามมาก คือมันเป็นสะพานเคเบิลที่มีเสาค้ำเพียงเสาเดียวตลอดสะพาน อธิบายแบบนี้ไม่เห็นภาพแน่เลย เอาเป็นว่าดูภาพประกอบด้านล่างเอานะครับ ส่วนตัวแล้วที่อังกฤษนี่มีสะพานที่สร้างแนวๆ นี้หลายสะพานเหมือนกัน แต่สำหรับผมแล้วที่นี่สวยที่สุดครับ 

glasgow_attraction

ส่วน เจ้า Amadillo เนี่ยเป็นชื่อของอาคารที่ใช้เป็นศูนย์ประชุมเอาไว้รองรับกิจกรรมต่างๆ จุดเด่นของที่นี่ก็คือมันถูกออกแบบให้เหมือนตัว Amadillo แต่ผมดูมุมไหนมันก็เหมือน Sydney Opera House มากๆ เลย ฮาฮา (แต่อย่าไปพูดแบบนี้กับคนท้องถิ่นนาเดี๋ยวเค้าจะโกรธเอา เค้าบอกนี่มันตัว Amadillo ชัดๆ) สองที่นี่ก็เป็นอีกสถานที่ถ่ายรูปที่สวยงามของเมือง Glasgow เช่นกัน 

ส่วนวันที่สองก่อนจะเดินทางต่อไปยัง Edinburgh ผมก็แวะไปเยี่ยม The University of Glasgow ซึ่งอยู่นอกเมืองออกมา 

glasgow_university

การ เดินทางก็ใช้ Tube จาก City Centre มาลงที่ สถานี Hillhead ซึ่ง Tube ที่นี่ก็นั่งไม่ยากเพราะวิ่งเป็นวงกลมเส้นเดียวไปทุกสถานี แต่ต้องดูดีๆ นิดนึงไม่งั้นต้องนั่งอ้อมกันยาว พอมาถึงตัวมหาลัยก็ต้องบอกว่าดูสวยมากๆ ให้อารมณ์แบบมหาลัยเก่าแก่ของอังกฤษ ตัว Campus ส่วนใหญ่จะดูเก่าแก่ขลังยังกะ Harry Potterมาก เห็นแล้วอยากเรียนขึ้นมาทันทีเลย (University of Manchester ไม่ยักกะจะมีแบบนี้ ส่วนใหญ่จะดูเป็นตึกใหม่ๆ ไม่ Harry Potter เอาซะเลย) ที่นี่ก็ดีอย่างตรงที่เราก็เข้าไปเดินเล่นได้ตามสบาย อยากไปถ่ายรูปตรงไหนก็ไม่มีใครห้าม อาจจะเป็นเพราะตัวมหาลัยเองไม่ได้โด่งดังอะไรแขกเขรื่อที่มาเลยไม่เยอะเท่า ไหร่แต่ถ้ามีเวลาก็แนะนำให้ลองแวะไปดูครับเพราะว่ามันสวยเลยแหละ 

glasgow_map

วันนี้ผมก็ขอบอกลาเพื่อนๆ และเมือง Glasgow ไว้เท่านี้นะครับ อาทิตย์หน้าเรายังอยู่กันที่สกอตต์แลนด์เหมือนเดิมแต่คราวนี้เราจะเปลี่ยน บรรยากาศไปยังเมืองที่ได้รับการยกย่องว่าสวยในลำดับต้นๆ ของยุโรปเลยทีเดียว ยังไงอย่าลืมติดตามอ่านนะครับ จนกว่าจะพบกันใหม่ บ๊ายบาย

Enquiry Form

Please provide the following information and we will aim to respond within 48 hours:

Your details
Please enter your first name.
Please enter your last name.
Please enter a valid email address.
Please enter your phone number.
Please select a country you want to study.
Please select a year you want to study.
Please select your preferred branch.

* All fields required (in English)

  • Share this: