English Afternoon Tea
หลายคนคงสงสัยว่าทำไมต้อง English Afternoon Tea แล้วมี Japanese หรือ Thai Afternoon Tea มั้ย? แล้วทำไมการจิบชายามบ่ายของที่อังกฤษต้องมีขนมเล็กๆ กระจุ๊ง กระจิ๊ง วางเป็นชั้นๆ อย่างน่ารักเต็มไปหมด คำถามเหล่านี้อาจผุดขึ้นมาไวมากในหัวเราตอนนี้เลยก็ว่าได้ เพราะคนส่วนใหญ่จะรู้จักว่าชาคืออะไร แต่น้อยคนนักที่จะรู้ประวัติความเป็นมาและวิธีการดื่มชาที่ถูกต้อง เดี๋ยววันนี้เราจะมาตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับ English Afternoon Tea นี้ไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ
“ชา” จัดว่าเป็นเครื่องดื่มที่นิยมมากที่สุดในสหราชอาณาจักร โดยเฉลี่ยแล้วคนอังกฤษดื่มชากันวันละประมาณ 5-6 แก้วต่อวัน ซึ่งธรรมเนียมการจิบชายามบ่ายของประเทศอังกฤษนั้น เริ่มมาตั้งแต่สมัยยุค 1840 เนื่องจากในสมัยนั้นเวลาอาหารของคนอังกฤษจะมีอยู่แค่ 2 เวลา คือ มื้อเช้ากับมื้อค่ำ โดยคนอังกฤษจะทานมื้อค่ำกันประมาณ 2-3 ทุ่มเลยทีเดียว เมื่อเวลาอาหารห่างไกลกันขนาดนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอะไรจะเกิดขึ้น……. ใช่เลย หิวสิคะ!!! สาวๆ แบบดัสเชสแอนนา ดัสเชสลำดับที่ 7 แห่งเบดฟอร์ด (Duchess of Bedford) จึงเกิดอาการเซ็งและมีคำสั่งให้มีการตั้งโต๊ะชา โดยมีสโคน แซนวิช และเค้กเพื่อเสิร์ฟให้ระหว่างวัน เพื่อคลายความหิวโหยที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ดัสเชสก็เริ่มเชิญเพื่อนฝูงมาร่วมดื่มชาและทานขนมพร้อมกับตั้งวงเม้าท์มอยไปด้วยกัน จนกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบต่อกันมา ซึ่งในช่วงนั้นธรรมเนียมการจิบชายามบ่ายจะเป็นที่นิยมเฉพาะพวกคนชนชั้นสูงและขุนนางเป็นส่วนใหญ่ เพราะใบชาสมัยนั้นมีราคาสูงและหายากมาก
Afternoon Tea นั้นจะเสิร์ฟพร้อมขนมหวานที่จัดเรียงเป็นชั้นๆ เอาไว้ให้เราถ่ายรูปลง Instagram เฮ้ย! เพื่อทานคู่กับชานั่นเอง โดยชั้นบนสุดมักจะเป็นสโคน ตามมาด้วยแซนวิชขนาดพอดีคำและชั้นล่างสุดจะเป็นขนมหวานต่างๆ เช่น เค้ก การจัดเรียงขนมแบบนี้ไม่ใช่ว่าอยากทานชิ้นไหนก่อนก็หยิบมาทานได้เลยนะคะ เพราะมันจะไม่ถูกหลักการทานที่ถูกต้อง ถ้าตามสไตล์อังกฤษแล้วจะเริ่มทานจากชั้นบนสุดก่อนแล้วค่อยๆ ไล่ลงมาชั้นล่าง โดยเมื่อทานแต่ละชั้นหมดก็ให้เอาถาดรองชั้นออกด้วยนะคะ
ในอังกฤษนั้นชายังถือว่าเป็นเครื่องดื่มที่ให้ความรู้สึกพิเศษ การทานขนมหวานชิ้นเล็กๆ พร้อมจิบและสูดกลิ่นหอมอุ่นๆ ของชานั้นให้ความรู้สึกที่สุนทรีย์และผ่อนคลายเป็นอย่างดี นอกจากนี้ชายังให้ประโยชน์แก่ร่างกายมากมายเลยนะคะ เพราะชาถือเป็นเครื่องดื่มจากธรรมชาติที่ช่วยบำรุงร่างกาย ลดระดับน้ำตาล, ความดัน, คลอเลสเตอรอลในเลือด และยังทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าอีกด้วย ฟังเรื่องราวของชามาเยอะแล้ว ถ้าว่างน้องๆ ก็ลองเปลี่ยนแนวจากการออกไป hangout เป็นชวนเพื่อนๆ ออกไปหาร้านนั่งจิบชายามบ่ายสไตล์ผู้ดีอังกฤษกันดูนะคะ