บอมบ์และต่างกับความประทับใจที่ University of Reading

  • Share this:

วันนี้ Hands On เข้ามาคุยกับน้องต่างและน้องบอม์ ที่ University of Reading
น้องต่าง: นักเรียนสาขา MSc Food Economics and Marketing
น้องบอมบ์: นักเรียนสาขา MSc Entrepreneurship and Management

ให้น้องแนะนำตัวกันหน่อยนะคะ

น้องต่าง: สวัสดีค่ะชื่อต่างนะคะ ตอนปริญญาตรีต่างเรียน Food and Science รู้สึกว่าด้านอุตสาหกรรมอาหารเนี่ยถ้ามีความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์อย่างเดียวมันจะไม่ค่อยกว้างเลยอยากรู้ด้านที่เป็น Economics and Marketing ด้วยก็เลยเลือกที่จะเรียนหลักสูตรนี้ ตอนเลือกมหาวิทยาลัยก็ดู Ranking ของ Agriculture School ที่ Reading ก็ติดอันดับท็อปของโลกและคอร์สเรียนก็ค่อนข้างตรงกับที่อยากจะเรียนเลยเลือกมาที่นี่

น้องบอมบ์: บอมบ์ก็เรียน Business มาตั้งแต่ปริญญาตรี ไม่อยากเป็นลูกจ้างคนอื่นเขาเลยก็เลยตัดสินใจมาเรียน Entrepreneurship เพราะอยากมีความรู้เพื่อที่จะได้เปิดทำธุรกิจของตัวเองครับ

ทำไมถึงเลือกมาเรียนต่อที่ University of Reading

น้องต่าง: เพราะว่า Reading มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับทั้งในอังกฤษ ในไทยและทั่วโลก ที่ตั้งของมหาวิทยาลัยอยู่ใกล้ London สะดวกสบายค่ะ

น้องบอมบ์: นอกจากชื่อเสียงกับที่ตั้งของ Reading แล้วมันก็จะยังมีเรื่องของการใช้ชีวิต ถ้าเราไปอยู่พวกที่อื่นเราอาจจะต้องเรียนหนักแต่ที่ Reading เราอยู่ในที่ที่มีชื่อเสียงแต่ในขณะเดียวกันเราได้ใช้ชีวิตนั่นคือสิ่งที่สำคัญครับ คือประสบการณ์

ถามถึงการเตรียมตัวก่อนมาเรียนต่อ UK

น้องต่าง: เตรียมตัวไม่นาน มีพี่ที่ Hands on คอยแนะนำแต่ละขั้นตอนให้แต่ว่าส่วนใหญ่คือเตรียมใจมากกว่าเดี๋ยวเราต้องมาอยู่ต่างที่นะแล้วก็ต้องเปิดรับวัฒนธรรมใหม่ๆ คือต้องรู้จักที่จะคิด เราจะวางตัวอย่างไงจะทำอะไร ต้องรับผิดชอบตัวเอง

น้องบอมบ์: ของบอมบ์จะนานนิดนึงครับ เพราะว่าตอนนั้นทำงานอยู่ แล้วตอนแรกๆภาษาอังกฤษ Henley Business School เขา Require 7 แต่บอมบ์ยังได้ประมาณ 6-6.5 แล้วบอมบ์จะลาออกมาเพื่อสอบ Pre-sessional ไม่ทัน ก็เลยต้องทำงานไปอีก 1 ปีเพื่อที่จะมาเรียนต่อ Pre-sessional แล้วก็พี่ Counsellor จาก Hands On คือพี่ตู่ดูแลดีมากพี่ตู่ก็แบบคอยเอาข้อมูลมาให้ตลอด คอยตามว่าทำวีซ่าหรือยังทำนู่นนี่นั่นหรือยังก็เลยประทับใจ

ต้องเตรียมตัวด้านภาษาอังกฤษมาไหมคะ

น้องต่าง: โดยส่วนตัวต่างเป็นคนชอบภาษาอังกฤษอยู่แล้ว ชอบพูดมาก สนุกแต่ว่าอาจจะมีบางคนที่ไม่ค่อยถนัดด้านนี้ ก็อยากแนะนำว่าเราต้องรู้สึกสนุกกับสิ่งที่จะทำก่อน อย่างเช่นดู YouTube เพื่อฝึกภาษาค่ะ เริ่มจากง่ายๆ ก่อนเพราะว่า จริงๆ แล้วเวลาสอบภาษาอังกฤษอย่าง IELTS มันไม่ได้ใช้แค่ยื่นตอนสมัครเรียน แต่ว่าการที่เราเข้ามาเรียนเราต้องอ่านเอกสารอะไรเยอะแยะมากมาย ซึ่งเราต้องพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ

แล้วพอมาเรียนจริงๆ Reading เป็นอย่างที่คิดไว้ไหมคะ

น้องบอมบ์: ใน Course เป็นการเรียน Entrepreneur สำหรับ Consultant ครับ ส่วน Module อื่นมันจะมีความเฉพาะตัวของมัน อย่างเช่น Business ก็เป็นตัวบังคับของ Entrepreneur กับ Management ซึ่งสำคัญกับธุรกิจในปัจจุบันด้วยเหมือนกัน

น้องต่าง: ตอนแรกต่างคิดว่าคอร์สจะหนักไปทาง Marketing มากกว่าแต่กลายเป็นว่าหนักทั้ง Economics และ Marketing เลยเลยจะหนักหน่อยเรียนยากและใช้เวลาเรียนแค่ 1 ปี มันก็จะค่อนข้างอัดงานจะมาติดๆกันเลยต้องจัดสรรเวลาให้ดี

การใช้ชีวิตนักเรียนไทยในอังกฤษเป็นยังไงบ้าง

น้องต่าง: ที่นี่ทุกคนจะพยายามตอบคำถาม พยายามแสดงความคิดเห็น แล้วก็ไม่อายที่จะบอกว่าตัวเองไม่รู้อะไรแต่ว่านักเรียนไทยค่อนข้างจะอยู่ในกรอบคือจะฟังสิ่งที่อาจารย์พูดซะมากกว่าไม่ค่อยกล้าถามอะไรมาก เวลาที่เขาบอกไปว่าไม่รู้ก็จะกลัวว่าเพื่อนอาจจะคิดว่าเราไม่เก่งหรือเปล่า คือจะแตกต่างกันตรงนี้ค่ะ

น้องบอมบ์: ที่ไทยกับที่นี่มันต่างกันในเรื่องของการเรียนการสอนของไทยเราเป็นผู้นั่งรับสาร เรานั่ง อาจารย์สอนให้เราฟัง เราจด แต่ว่าที่นี่ความรู้ส่วนใหญ่เราจะได้มาจากการที่เรา Discuss ในห้อง ความรู้หาใน Wikipedia ก็ได้ แต่ว่าการที่เราเรียนแล้วมา Discuss กัน มันทำให้เกิดไอเดียใหม่ๆความรู้ใหม่ๆ แล้วจะรู้สึกฉลาดที่สุดเลยคือช่วงที่เรานั่งเขียน Essay เพราะเราต้องนั่งอ่านหนังสือหลายเล่มมาก ช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่เรารู้สึกฉลาดที่สุดแล้ว

อย่างนี้ปรับตัวเยอะไหมคะ

น้องต่าง: ก็พยายามถามมากขึ้นและไม่อายที่จะพูดเพราะว่าเราเห็นเพื่อนทำ เราจะเริ่มกล้ามากขึ้นแล้วก็ตัวอาจารย์เองเขาจะพยายามถามแต่ละคนว่าคิดอะไรยังไงเพื่อที่จะได้ให้ทุกคนผ่อนคลาย จะได้เรียนสนุกมากขึ้น

น้องบอมบ์: ต้องอ่านหนังสือบ่อยขึ้นเพราะปกติไม่ชอบอ่านหนังสือ แต่มาเรียนที่นี่ความรู้เราต้องไปหาอ่านเอง ต้องปรับตัวเยอะขึ้น เวลาเขียน Essay ของที่ไทยเราสามารถ Copy Paste วาง ของที่นี่เอาของหลายๆ เล่มมาต่อกันแล้วก็คนละ Phrase กันเพื่อที่เอาไปตรวจแล้วให้มันโชว์ Similarity ต่ำที่สุด

*อธิบายเพิ่มเติม วิธีการเขียน Essay ของที่ UK จะไม่สามารถ Copy งานของคนอื่นมาได้ และจะมีการตรวจด้วย เป็นการตรวจแบบที่น้องๆต้องส่ง Essay ของเราเข้าสู่ระบบออนไลน์ แล้วระบบออนไลน์ก็จะสแกนทุกอย่าง เขาก็จะบอกมาเลยว่า Copy มากี่เปอร์เซ็นต์ มาจากที่ไหนบ้างอาจารย์ในห้องก็จะเป็นคนกำหนดว่าขั้นต่ำจะต้องไม่เกินกี่เปอร์เซ็นต์*

เล่าถึงคอร์สเรียนกับบรรยากาศในห้องเรียนกันบ้าง

น้องต่าง: คอร์สเรียนของต่างคือ Food Economics and Marketing หลักๆ แล้วเรียนเหมือนเศรษฐศาสตร์บวกกับมาร์เก็ตติ้งแต่ว่าจะเจาะในเฉพาะตลาดของอาหารเท่านั้น ก็คือได้ความรู้เรื่อง Food Retailing, Manufacturing แล้วก็มีเรื่อง Policy ทั้งหลายที่เราจะต้องเรียนรู้ บรรยากาศในห้องเรียนจะค่อนข้างแข่งขันสูงแต่ว่าการที่มีเพื่อนมาจากหลายเชื้อชาติมันก็จะสนุกหน่อยเวลาที่มันมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นมา แล้วทำให้เราเข้าใจผิดบางทีมันก็สนุก แล้วก็อาจารย์จะพยายามสอนแบบเน้น Discussion ก็จะทำให้ทุกคนได้ตอบคำถามได้แสดงความคิดเห็น

น้องบอมบ์: ในห้องบอมบ์ อาจารย์เขาจะพยายามกระตุ้นให้ทุกคนพูดออกมาแต่ว่าด้วยความที่เป็นเด็กไทยเราก็ไม่พูด ใน Course ของเรามีเด็กไทยน่าจะเยอะที่สุด รองมาคืออินเดีย และก็จีนเพราะฉะนั้นตามสไตล์เด็กเอเชียครับ “เงียบ”  แต่ว่าจริงๆแล้วอาจารย์เขาพยายามกระตุ้นให้พูดออกมามันทำให้เราได้ไอเดีย แล้วจริงๆไอเดียมันดีมาก ถ้าเกิดห้องเงียบเกินไปอาจารย์เขาก็จะมองแล้ว เราก็จะมองกันเองว่า ตอบสิ ตอบสิ

 

แล้ววิธีให้คะแนนละคะ โหดไหมคะ

น้องบอมบ์: โหดมากกกก…ที่นี่ถึงจะเต็ม 100 ที่นี่มากกว่า 70 คือ Distinction ส่วนใหญ่ก็จะกองกันอยู่ที่ Pass กับ Merit ก็คือประมาณ 50-69 ครับ

น้องต่าง: โหดมากค่ะ คนเรียนน้อยอาจารย์เลยค่อนข้างเข้มนิดหนึ่งแล้วก็เวลาตรวจงานอาจารย์แต่ละคนก็จะมีมาตรฐานการตรวจงานไม่เหมือนกันคือบางทีเราทำงานมาตรฐานเดิมแต่ว่าอาจารย์คนละคนกันคะแนนก็จะได้ไม่เท่ากัน

ในห้องมีกี่คนคะ
น้องต่าง: ประมาณ 15 คน น้อยมาก

น้องบอมบ์: ประมาณ 40 คนครับ เยอะมากแล้วกิจกรรมระหว่างเรียนละคะ

นอกจากในห้องเรียน กิจกรรมมีอะไรบ้างคะ

น้องต่าง: เที่ยวระเบิดค่ะ ก็เวลาเรามีวันหยุดก็จะดูว่าเวลาว่างมีประมาณกี่วันมีงานส่งไหม ถ้ามีส่งก็รีบเคลียร์ให้เสร็จก่อนเลย แล้วก็ไปแล้วค่ะ ไม่อยู่

น้องบอมบ์: ถ้าพอมีเวลาบอมบ์ก็จะเอาไปทำงานพิเศษ ไปเที่ยวบ้างพอสมควรแต่ส่วนใหญ่เวลาไปเที่ยวไปเช้า-เย็นกลับไม่อยากเสียค่าที่พักเพิ่ม

เรื่องค่าครองชีพของที่ Reading เป็นไงบ้างคะ

น้องบอมบ์: คือจริงๆมันก็ถือว่าถูกกว่าที่คิด ถ้าเราไม่ทำอาหาร เราซื้อของเยอะแยะมันก็จะสูงมาก เพราะทุกอย่างคือแพง ออกไปข้างนอกอย่างต่ำก็ 15-20 ปอนด์แล้ว แต่ถ้าเราทำอาหารเองอาทิตย์หนึ่งก็จะประมาณ 20ปอนด์ ก็ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตของเราด้วย

น้องบอมบ์เล่าเรื่องการทำงาน Part-time นิดนึง เผื่อน้องๆคนไหนสนใจ

น้องบอมบ์: ส่วนใหญ่จะเป็นแนวร้านอาหารที่เขาจะรับเด็กไทยแล้วเขาจะให้อาหารมาด้วยเพราะฉะนั้นจะได้กินอาหารฟรี เราก็จะเก็บมา 1 กล่องกินได้ 2 มื้อหุงข้าวอย่างเดียว แล้วก็เขาจะแล้วแต่ที่ แต่ของที่นี้ร้านที่บอมบ์ทำเขาจะให้เป็น Tips ก็ 35 ปอนด์บวก Tips ซึ่งกะหารๆกัน เวลาตอนเย็นก็คือจะประมาณ เลิกเรียน 4โมง 5 โมง ก็จะไปทำงาน ไปกินข้าวก่อน แล้วก็ลูกค้าหมดก็จะได้เลิกซึ่งบางทีลูกค้ามานั่งยัน 5 ทุ่มครึ่งก็ แต่ถ้ามีคนน้อยเขาก็ไม่ให้เลิกก่อน 5 ทุ่มต้องเลิกตรงเวลา 4 ทุ่มครึ่ง

มาถึงเรื่องประโยชน์ที่ได้จากการเรียนที่นี่ละคะ

น้องต่าง: ได้ความรู้ ความเข้าใจด้าน Food, Economics and Marketing มากขึ้นค่ะรวมถึงพวก Food Retailing, Food Manufacturing แล้วก็ Policy issue ทั้งหลายค่ะตอนเรียนที่ไทยอาจารย์เขาอาจจะเน้นไปเฉพาะในประเทศไทยอย่างเดียวแต่พอได้มาเรียนที่นี่ก็จะได้แบบ International คือได้ทั่วโลกก็จะได้ในมุมที่กว้างกว่า

น้องบอมบ์: ความรู้มันหาจากที่ไหนก็ได้แหละแต่สิ่งที่เราได้มาจากที่นี่คือประสบการณ์เราได้เพื่อน เราได้ Connection ได้ Friendship บอมบ์มีเพื่อนสนิทเป็นคนอังกฤษเองก็มีเป็นคนจีนก็เยอะแล้วบอมบ์คิดว่าตรงนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากในการที่จะใช้ชีวิตในอนาคตต่อไป

คิดว่าเรามีการพัฒนาด้านไหนบ้างคะ

น้องต่าง: ที่ต่างรู้สึกได้ชัดเลยคือ เรื่องความเป็นผู้นำมากขึ้นเพราะบางสถานการณ์มันบังคับให้เราต้องคิด ต้องพูด และต้องลงมือทำเลยไม่ใช่รอใครมาสั่ง เราจะมี Leadership เพิ่มขึ้น แล้วก็มีเรื่องการทำงานร่วมกับผู้อื่น เพราะว่าเวลาเรียนงานกลุ่มมันก็จะค่อนข้างเยอะปกติแล้วเป็นคนที่ชอบทำงานคนเดียวแต่ว่าพอมีงานกลุ่มเข้ามาเยอะๆมันก็ต้องปรับตัวและต้องคุยกับเพื่อนให้เข้าใจกัน

น้องบอมบ์: ของบอมบ์จะได้เรื่องการบริหารเวลา เพราะเวลาของคนหนึ่งก็มี 24ชั่วโมงเท่ากัน แต่ว่าเราจะบริหารเวลายังไงให้เราได้เรียน ได้ทำงาน ได้ใช้ชีวิตและส่งงานอาจารย์ให้ทัน เพราะฉะนั้นตรงนี้สำคัญสำหรับบอมบ์

แล้วน้องสองคนคาดหวังและวางแผนอนาคตไว้อย่างไรบ้างคะ

น้องบอมบ์: อยากจะเป็นทำ Brand ของตัวเองในอนาคตอยากเป็นเจ้าของกิจการ ใครสนใจติดต่อได้นะครับเป็นเครื่องสำอางก็ได้ เราต้องใช้ทุกโอกาสให้เป็นประโยชน์ 555

น้องต่าง: จริงๆ ต่างยังสนุกกับการเรียนอยู่ อยากเรียนต่อเป็น Ph.D.แต่ถ้าโอกาสยังไม่มีก็คงต้องหางานทำที่เกี่ยวกับในอุตสาหกรรมอาหารแล้วก็คงหาสายงานที่เหมาะกับความรู้ที่เราเรียนมา

อยากถามความประทับใจที่มีกับมหาวิทยาลัย

น้องต่าง: ชอบเพื่อนที่นี่ ไม่ว่าจะอายุเท่าไรมาจากที่ไหนทุกคนจะช่วยกันเรียนไม่มีใครหวงความรู้จะแชร์กันหมด จะช่วยกันดึงขึ้นไปเวลาเรียนคือจะนัดกลุ่มกันติวเลยถ้ามีปัญหาอะไรอาจารย์ทุกท่านก็พร้อมที่จะช่วยเสมอ

น้องบอมบ์: ของบอมบ์ก็จะเป็นเรื่องเพื่อนเหมือนกันครับเพราะว่าเพื่อนที่นี่คือดีมากจริงๆ อย่างที่ต่างบอกไปคือเขาจะช่วยๆกันเพื่อนที่นี่เขาจะคอยช่วยกันคะแนนที่นี่จะไม่เป็นเหมือนของที่ไทยที่ต้องแย่งกันเสมอ เพราะฉะนั้นคนที่เก่งเขาก็พยายามจะช่วยคนที่อ่อนก็เรียกได้ว่าเพื่อนเป็นความประทับใจจบออกไปต้องคิดถึงกันแน่ๆ

คำถามสุดท้าย thank you message มีอะไรอยากฝากถึงใครเป็นพิเศษ

น้องต่าง: อยากขอบคุณทางครอบครัวนะคะคุณแม่ที่คอยสนับสนุนมาตลอดไม่เคยขัดขวางสิ่งที่ต่างเลือกและก็อยากขอบคุณพี่ๆที่ Hands on โดยเฉพาะพี่น้ำที่ช่วยแนะนำต่างทุกขั้นตอนรวมถึงการสมัครที่มีปัญหาเยอะมากแต่พี่น้ำก็ไม่เคยทิ้งต่างเลยและพยายามหาทางออกให้จนวินาทีสุดท้ายมาถึงที่นี่ก็ติดต่อมาถามว่าเป็นอย่างไง ก็ประทับใจมากและขอบคุณมากค่ะ

น้องบอมบ์: ต้องกราบขอบพระคุณพ่อ คือจริงๆไม่ได้อยากเรียนต่อแต่พ่อบังคับมาทำให้บอมบ์ได้เจอประสบการณ์แบบนี้ ได้มีชีวิตแบบนี้ ไม่งั้นก็คงไม่ได้มี Moment นี้และต้องขอบคุณ Hands on ครับที่ทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยนี้และไปรับสมัครที่กรุงเทพประทับใจมากตอนนั้นและพี่ตู่ดูแลดีมากครับจริงๆ

วันนี้ได้ฟังประสบการณ์จากพี่ๆ หลากหลายแง่มุมกันเลยทีเดียวนะคะ น้องๆ คนไหนสนใจเรียนต่อที่ University of Reading สอบถามข้อมูลเพื่อเตรียมตัวเรียนต่อ UK ได้ที่ www.hands-on.co.th/enquiry

 

ดูวีดีโอสัมภาษณ์บอมบ์และน้องต่างได้ที่ : https://youtu.be/Xe6eBhLI4X4

Enquiry Form

Please provide the following information and we will aim to respond within 48 hours:

Your details
Please enter your first name.
Please enter your last name.
Please enter a valid email address.
Please enter your phone number.
Please select a country you want to study.
Please select a year you want to study.
Please select your preferred branch.

* All fields required (in English)

  • Share this: