รีวิวสาขา Food Economics จาก The University of Reading
“อาหารและทรัพยากรมันมีไม่พอ.. ประเทศไทยเรามีพืชผักผลไม้มากมายที่เราผลิตได้ เพราะฉะนั้นคณะที่เกี่ยวกับการเกษตรกรรมและ Food Science เช่น สาขา Food Economics ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจและตอบโจทย์ความต้องการของโลก” – แพรว PhD Agricultural and Food Economics, University of Reading
แนะนำตัวให้เรารู้จักหน่อยค่ะ
สวัสดีค่ะ ชื่อ พรจันทร์ พิณพาทย์ (แพรว) ตอนนี้เรียน PhD Agricultural and Food Economics
ก่อนหน้านี้ ปริญญาโทก็เรียนที่นี่ สาขา MSc. Food Security and Development ทั้งสองคอร์สนี้อยู่ภายใต้คณะ School of Agriculture, Policy, and Development ที่ University of Reading
เล่าถึงคอร์สเรียนให้ฟังหน่อยค่ะ
สำหรับที่แพรวเรียนนะคะ จะเป็นการบูรณาการระหว่างหลายๆ สาขาวิชาค่ะ ทางด้านทั้งเศรษฐศาสตร์, การเกษตร, สังคมศาสตร์และทางด้านอาหารเข้ามาอยู่ในคณะนี้
ซึ่งสิ่งที่แพรวเรียน ค้นคว้า อยู่ตอนนี้เป็นการเน้นทั้งทางด้านวิชาการและการนำไปใช้ เพื่อจะเอามาเป็นหัวข้อวิชา Applied Economics คณะที่แพรวอยู่ไม่ใช่แค่เศรษฐศาสตร์ Food Science หรือ Social Science อย่างเดียว แต่จะเป็นการบูรณาการหมดเลย
แพรวว่าการเรียนปริญญาเอกของที่นี่ จุดเด่นเลยคือการที่มหาวิทยาลัยเปิดโอกาสให้เราบูรณาการ ผสมผสานความรู้จากหลากหลายสาขาวิชาเข้าด้วยกัน เพื่อนตอบโจทย์หัวข้องานวิจัยของเราได้
FACT;
- อันดับ 6 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก สาขา Agriculture & Forestry จาก QS World Ranking ประจำปี 2018
- อันดับ 5 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในสหราชอาณาจักร สาขา Food Science (Food & Beverage Studies และ Nutrition) จาก The Complete University Guide ประจำปี 2018
แพรวจบปริญญาโทที่นี่ด้วย เรียน Food Security and Development นะคะ ซึ่งตอนนั้นจะเรียนทั้ง Climate Change, เกษตรกรรม, ทฤษฎีทางด้านการเกษตร, ทฤษฎีการพัฒนาชุมชน, การพัฒนาความเป็นอยู่ของคนเพื่อให้ตอบโจทย์ความเป็นไปในโลกใบนี้ เพราะตอนนี้ UN ก็มีประเด็นที่เรารู้กันว่าประชากรกำลังจะล้นโลก แต่ว่าอาหารและทรัพยากรมันมีไม่พอทีนี้เราจะรู้แค่ทางเศรษฐศาสตร์หรือการผลิตอาหารอย่างเดียวมันก็ไม่ครอบคลุม คณะของแพรวก็จะสอนนักเรียนทุกอย่างที่จะทำให้มีอาหารกินพอเพียง เพื่อความมั่งคงในระยะยาว
University of Reading
นอกจากจะเรียนในคณะตัวเองแล้ว Reading ยังเปิดโอกาสให้นักเรียน โดยเฉพาะปริญญาตรีและโทไปลงเรียนวิชาอื่นๆ ของคณะอื่นๆ ได้ด้วย เพราะฉะนั้นจะไม่ใช่แค่การเรียนในคณะ
ถ้าน้องๆ หรือเพื่อนๆ สนใจ Business หรือ Marketing เราก็สามารถไปลงเรียนไปนั่งเรียนวิชาของคณะอื่นๆ ได้ เพราะว่าจริงๆ แล้วพอเข้ามาเรียนมาเป็นนักเรียนของที่นี่ เราเป็นนักเรียนของมหาวิทยาลัย เราสามารถไปลงเรียนวิชาอื่นๆ ได้ด้วย
พาทัวร์ห้อง Lab Sensory Science
อันนี้พิเศษสุดเลยค่ะ พามาห้อง Lab Sensory Science ห้องนี้ใช้ในการเรียนการสอนของคณะ Food Science หรือ Food Bioscience ที่ University of Reading ค่ะ
ห้องนี้ใช้สำหรับ Evaluate หรือว่าประเมินผลทาง Sensory ก็คือลองชิมทดสอบและลองมองอาหารดูว่ามีความชอบ และความแตกต่างยังไงระหว่างผลิตภัณฑ์ สำหรับน้องๆ ที่อยากมาเรียนต่อสาขาวิชานี้ ต้องบอกว่าห้องแลปของที่นี่ครบครัน ถือเป็น Sensory Science Centre ที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษค่ะ
FACT; ศูนย์ Sensory Science เป็นการร่วมมือกันระหว่าง The University of Reading และ MMR Research Worldwide Ltd.
กิจกรรมอื่นๆ ของมหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยเพิ่งมี scheme ใหม่เป็น campus job คือเปิดโอกาสให้นักเรียนหางานในมหาวิทยาลัยโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นงานผู้ช่วยนักวิจัย ทำงานโรงอาหาร คาเฟ่เป็นคนเก็บเงิน หรือว่าเป็นแอดมินตามแผนกต่างๆ ที่เค้าอยากได้นักเรียนมาช่วยงาน งานง่ายๆ เช่น งาน spreadsheet งานออฟฟิศทั่วๆ ไป copy paste ถ่ายเอกสาร เติมกาแฟ หาเงินเล็กๆ น้อยๆ กัน
HO: What is your impression of the University?
จริงๆ ชอบมหาวิทยาลัยนี้หลายอย่างมาก อย่างแรกที่แพรวดูคือ ranking สาขาที่แพรวจะเรียนเนี่ย การที่เค้าอยู่ Rank ที่สูง หมายถึงเค้ามีความพร้อมทางด้านวิชาการ เครื่องไม้เครื่องมือและบุคลากร ซึ่งพอมาถึงแล้วมันก็ใช่ตามที่เราคิด อีกอย่างคือเค้ามีการเทรนนิ่งอบรม อย่างแพรวเรียนปริญญาเอก เค้าก็จะมีอบรมของบัณฑิตวิทยาลัย ซึ่งมีการอบรมทางด้านการเขียน Thesis ทางด้านการใช้ชีวิตระหว่างเรากับ supervisor การอยู่ในสภาพแวดล้อมสังคมที่แตกต่างจากบ้านเกิด การทำโปสเตอร์วิชาการ มีทุกอย่างพร้อม
อีกอย่างคือ เค้ามี Free Academic English Class หรือ In-sessional English ที่มหาวิทยาลัยอื่นเรียกกัน ซึ่งมีการสอนเขียนภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ Speaking การพูด Presentation หน้าห้อง อีกอย่างคือ Location แพรวชอบ Reading เพราะว่านั่งรถไฟมาแค่ 27 นาทีจาก London Paddington ถ้าสมมุติว่าเราเหงาเราอยากได้แสงสี เราก็ซื้อตั๋วรถไฟนั่งไป 27-30 นาทีก็ถึง
ขณะเดียวกันใน Reading เองก็มีทุกอย่างครบ ในโรงอาหารมีพนักงานเอเชียและอินเดียพร้อมที่จะทำอาหารหลากหลายให้เราได้ทาน มีพี่พนักงานคนไทยทำ stir fried noodle รสชาติไทยๆ ให้เรากิน มีร้านเอเชียขายในมหาวิทยาลัยเลยซื้อได้ครบ ไม่ว่าจะเป็นปลาร้า น้ำจิ้มไก่ก็มีพร้อม แล้วก็มีร้านชานมไข่มุกด้วย อันนี้แพรวบอกครอบคลุมตั้งแต่วิชาการไปถึงการใช้ชีวิตเลย
HO: What would you say to others who are interested in studying here?
อยากจะแนะนำให้น้องๆ รู้จักตัวเองก่อนว่าสนใจและชอบอะไร จะได้ Scope Down ลงมาว่าควรจะเรียนคณะไหน อยากให้รู้ว่าที่ Reading มีคณะอื่นๆ ด้วยนอกจากทางด้าน Business อย่างเดียว อยากให้สนใจว่าอย่างประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม มีพืชผักผลไม้มากมายที่เราสามารถผลิตได้ เพราะฉะนั้นคณะที่เกี่ยวกับทางด้านเกษตรกรรมและ Food Science ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่จะสามารถบูรณาการเข้ากับ Business ได้
สนใจเรียนต่อ University of Reading สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลหรือสมัครเรียนได้ที่ Hands On ตัวแทนอย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น คลิก