“ฝนเรียนบัญชี แล้วก็ทำ audit มา ก็เลยรู้สึกว่าอยากลองเปลี่ยนดูบ้าง อย่างตอนที่เรียนบัญชีก็เคยเรียน finance มาแค่ไม่กี่ตัว เราก็เลยรู้สึกว่าตอนนั้นโอเค ก็เลยอยากลองศึกษาอย่างจริงจัง แล้วก็มาเจอกับคอร์ส International Securities, Investment & Banking ของ ICMA ที่ University of Reading สนุกนะคะ คอร์สนี้เปิดโอกาสให้เราเลือกวิชาที่เราอยากเรียนได้หลากหลาย อิสระมากค่ะ” – ฝน MSc International Securities, Investment & Banking
แนะนำตัวหน่อยค่ะ
สวัสดีค่ะ ชื่อฝน เรียนอยู่ ISIB มันย่อมาจาก International Securities, Investment & Banking ของ ICMA ที่ University of Reading ค่ะ
ทำไมถึงเลือกเรียนคอร์สนี้
คือฝนเรียนบัญชีมา แล้วก็ทำ audit มา ก็เลยรู้สึกว่าอยากลองเปลี่ยนดูบ้าง อย่างตอนที่เรียนบัญชีก็เคยเรียน finance มาแค่ไม่กี่ตัว เราก็เลยรู้สึกว่าตอนนั้นโอเค ก็เลยอยากลองศึกษาอย่างจริงจัง บวกกับที่บ้านสนับสนุนด้วยก็เลยลองมาเรียนดูค่ะ ซึ่งเทอมแรกก็ยังโอเคนะ แต่เทอมนี้หนักแล้วแหล่ะ (ยิ้ม)
พี่ๆ ที่ Hands On ดูแลอย่างไรบ้าง
พี่พลอย พระราม 2 ดูแลดีค่ะ คือฝนสนิทกับพี่พลอยตั้งแต่ตอนเรียนภาษาแล้ว ตอนนั้นรู้จัก Hands On เพราะว่าสาขาพระราม 2 อยู่ใกล้บ้านค่ะ ก็ลองเข้าไปปรึกษาดูเจอพี่อ๊อตโต้กับพี่พลอยได้ลองคุยกัน คือคุยกันมาตลอดว่าฝนวางแผนที่จะเรียนแบบนี้ๆ เหมือนเค้าก็จะคอยช่วยแนะนำคอยเลือก คอยสแกนให้เรา และปล่อยให้เราตัดสินใจเองในตอนท้าย เรียกได้ว่าดูแลเราดีตั้งแต่ตอนนั้นเลย
พอมาถึงเข้า ป.โท ช่วงนั้นฝนทำงานไปด้วย เพราะฉะนั้นเราไม่สามารถเตรียมตัวได้เต็มที่อยู่แล้ว คือถ้าไม่ได้พี่พลอยช่วยก็คงไม่มีเวลาอยู่แล้ว เค้าก็ช่วยให้เราประหยัดเวลาไปได้เยอะเลย หลักๆ ก็ช่วยเราดูเรื่องเอกสารว่าจะต้องเตรียมขอวีซ่ายังไง statement จำนวนเงินที่ต้องเตรียม การเตรียมตัวก่อนเดินทาง pre-departure อะไรแบบนี้ค่ะ ก็คือช่วยหมดทุกด้าน (ยิ้ม)
สนใจเรียนต่อ University of Reading ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเรียนต่อและคำปรึกษาฟรี คลิก
International Securities, Investment & Banking
ตอนแรกเลือกคอร์ส Investment Management ทำไมถึงเปลี่ยนคอร์ส International Securities, Investment & Banking
หลักๆ เลยคือเรื่องของเนื้อหาที่มีความคล้ายกันค่ะ จากการเทียบ module กัน จริงๆ เทอมแรกเราจะเรียนเหมือนกันหมดเลยแต่มันจะต่างกันที่เทอม 2 กับเทอม 3
ฝนเริ่มคุยกับรุ่นพี่นักเรียนไทยที่เรียนอยู่ที่ University of Reading ช่วงที่มาเรียน pre-sessional ถึงรายละเอียดต่างๆ ของ 2 คอร์สนี้ก็ได้คำแนะนำมาว่า Investment Management จะเป็นวิชาบังคับเรียน current topic หรืออะไรก็ตามที่เอาไว้สอบ CFA ซึ่ง Topic เหล่านี้เราสามารถศึกษาเอาเองนอกเวลาได้
แต่ International Securities, Investment & Banking หรือ ISIB จะมีวิชาเลือกให้เราเยอะกว่าในเทอมที่สองค่ะ ไม่มี compulsory course เลย ทุกอย่างจะเป็น optional 4 ตัว มันทำให้เรามีอิสระ สามารถเลือกเรียนวิชาที่เราสนใจจริงๆ ได้ อีกอย่างค่าเทอมก็จะถูกลงด้วยเพราะเค้าจะไม่บังคับเราสอบ CFA มันก็เลยทำให้เราสนใจ อีกอย่างที่เด่นกว่าคือ ISIB เทอม 3 เรามีสิทธิ์ที่จะเลือกว่าจะทำ work placement ที่นี่ก็ได้ แต่ว่าเราต้องหางานเอง มันก็เลยทำให้เราสนใจก็เลยเปลี่ยนมาเป็น ISIB ค่ะ
พอมาเรียน International Securities, Investment & Banking แล้วชอบไหมคะ?
ก็โอเคนะ พอเทียบกับคนที่เรียน IM จะดูค่อนข้างเครียดกว่าเรา เพราะเค้ามีตัวบังคับทุกอย่างเลย แต่เราไม่มีตัวบังคับ มันก็ขึ้นอยู่กับเรา อย่างเทอมสองนี้ ฝนเลือกเรียน Portfolio management, Behavior finance, Market risk แล้วก็ Fixed income ค่ะ
ส่วนตัวฝนเอง ชอบนะคะ โดยเฉพาะวิชา Fixed Income เพราะฝนเรียนบัญชีมาก่อน ก็เลยมีพื้นฐานทางด้านบัญชีค่อนข้างมาก แล้ววิชานี้เป็นวิชาเดียวที่ใช้พื้นฐานบัญชี มันเลยทำให้เรารู้สึกมั่นใจวิชานี้มากกว่าวิชาอื่น วิชาอื่นมันค่อนข้างใหม่ก็เลยเหมือนต้องใช้เวลาค่อนข้างมากในการทำความเข้าใจ
อีกอย่างฝนก็สมัครสอบ CFA เหมือนกันกับเพื่อนๆ ที่เรียน IM เพราะฉะนั้นก็กดดันนิดนึงกับเทอมนี้เพราะว่าจะต้องอ่านหนังสือด้วย เรียนด้วยค่ะ
University of Reading
ทำไมถึงเลือกเรียนที่ University of Reading
คือเคยตั้งใจจะเรียน Imperial แล้วเค้า require เป็น First honor แต่เกรดเราไม่ได้ถึงขนาดนั้น และจากที่คุยกับหลายๆ คนเค้าก็บอกว่าสภาพแวดล้อมมันจะกดดันนะเพราะจะมีแต่คนเก่ง เราเลยมองมหาวิทยาลัยอื่นๆ ดูว่ามีที่ไหนบ้าง
ฝนก็ลองปรึกษาทั้งรุ่นพี่ที่จบ Reading เค้าก็บอกว่าที่นี่ก็โอเคนะ แล้วก็ไม่ได้ไกลจากลอนดอนด้วย เพราะฉะนั้นก็จะได้ทั้ง environment คนไทยด้วย แล้ว location ก็ได้ ก็เลยเลือกที่นี่ค่ะ
Henley Business School คณะบริหารธุรกิจจาก University of Reading 1 ใน 90 มหาวิทยาลัยในโลกที่ได้รับการรับรองหลักสูตรแบบ Triple accredited
Pre-sessional Course
ก็จะมีเรียนภาษาอังกฤษ ฝึก 4 ทักษะเลย มันก็ค่อนข้างเข้มข้น แล้วก็มีฝึกการทำข้อสอบด้วย ฝึก lecture ด้วย เหมือนเป็นการเตรียมตัวก่อนที่จะเรียนโทจริงๆ แล้วก็จะได้เพื่อนด้วยค่ะ ไม่ใช่แค่คนไทย เราก็จะได้เพื่อนคนจีนด้วย ต่างชาติ แล้วอย่างพอตอนแยกมาเรียนโทแล้ว ใน ICMA แทบจะเจอคนต่างชาติน้อยมาก เพราะฉะนั้นเราจะไม่ได้ฝึกภาษาเลย แต่อย่างตอนเรียนพรีคือมันฝึกได้จริงๆ
แนะนำให้มาเรียนพรี ตอนเรียนพรีสนุกกว่าตอนเรียนโทมากกก คือมันดีกว่ามากๆ
สนใจเรียนต่อ University of Reading ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเรียนต่อและคำปรึกษาฟรี คลิก
ในห้องเรียนคนไทยเยอะมั้ยคะ?
เยอะค่ะ คืออย่างของ ICMA มันจะเป็น section ใหญ่ เราจะเรียนห้องรวมซึ่งห้องนึงก็ประมาณ 100 คน คนไทยก็ประมาณ 10-20 คนแล้ว ที่เหลือเป็นคนต่างชาติก็จริงแต่ตอน lecture เราก็ไม่ได้มานั่งคุยกัน ไม่ได้ทำงานกลุ่มกับคนต่างชาติ ส่วนใหญ่ก็เลือกจับกลุ่มกับคนไทยเพราะคุยงานง่ายกว่า เลยรู้สึกว่าเรียน ICMA ไม่ค่อยมีเพื่อนต่างชาติเท่าไหร่ แต่คือโดยรวมก็โอเคนะ
สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ของมหาวิทยาลัย
คือ University of Reading เนี่ย มี Henley Business School เป็นคณะที่เกี่ยวกับธุรกิจทั้งหมดค่ะ ส่วนสาขา Finance ก็แยกออกมาเป็น ICMA
สำหรับฝนนะ ก็ที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวก คือเหมือนมหาวิทยาลัยเตรียมเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ต่างๆ ให้นักศึกษา อย่าง ICMA ก็จะมีห้อง Bloomberg คือเค้าก็จะมีห้อง trading ซึ่งก็ได้ใช้งาน คือห้องนี้ใช้เรียนจริงๆ ด้วย แต่ถ้าว่าเราอยากได้ห้องทำงานแล้วห้องมันว่างพอดี เราก็สามารถเข้าไปใช้ได้เลยค่ะ ก็ช่วยให้เราหาข้อมูลได้ง่ายขึ้นเยอะเลย เพราะ Bloomberg ก็จะมีทุกอย่างสำหรับสาย Finance เนอะ
มีกิจกรรมอื่นๆ นอกเหนือจากการเรียนอีกมั้ย?
ที่นี่ก็มี club มี society เยอะนะ คือถ้าเราสนใจก็เข้าร่วมได้ แต่อย่างฝนไม่ได้สมัครอะไรเลยแต่ก็มีเพื่อนที่เล่นกีฬาของมหาวิทยาลัย เช่น ชมรม hocky, tennis, badminton อย่างคนที่เรียนสาย finance แบบนี้ บางคนก็สนใจพวก invest, entrepreneur, marketing มันก็เหมือนเป็นการรวมคนที่ชอบอย่างเดียวกันเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดกัน
แล้วโดยรวมชอบไหมคะ?
ชอบนะ อย่างที่เล่าไปทั้งหมด ฝนก็ enjoy กับการเรียนที่นี่ อาจจะมีติดนิดเดียวตรงที่ฝนยังไม่ค่อยชอบที่มันเป็น section ใหญ่เกินไป เลยทำให้เราหลุดโฟกัสค่อนข้างบ่อย พอมันเป็นร้อยคน พอคนโน้นเสียงดัง คนนี้เสียงดัง มันก็จะเสียสมาธิค่อนข้างง่าย คือจะเคยชินกับการเรียน section เล็กๆ แล้วให้เราตั้งใจเรียนได้ง่ายกว่า คือต้องปรับตัวค่อนข้างเยอะ
Reading และการใช้ชีวิตในอังกฤษ
Reading
ก็ Reading เป็นเมืองเล็กแหล่ะ แต่ก็อยู่ได้ มันก็มีทุกอย่าง เรื่องความเป็นอยู่ก็สบายค่ะ แต่ถ้าจะชอปปิ้งก็อาจจะต้องเข้าลอนดอนซึ่งใกล้มากค่ะ อย่างรถไฟหรือรถบัสไปลอนดอนก็ใช้เวลาแค่ประมาณ 20-30 นาทีเอง
การใช้ชีวิตในอังกฤษระหว่างช่วงเรียนภาษากับปริญญาโท
ฝนเคยมาเรียนคอร์สภาษา 2 เดือนครึ่งค่ะ ตอนเรียนภาษามันฟรีมาก คือฝนเรียน General English มันเรียนแค่ครึ่งวันเพราะฉะนั้นจะใช้เวลาเที่ยวค่อนข้างมาก แต่พอมาเรียนโทก็จะไม่ค่อยได้เที่ยวเท่าไหร่ ก็ได้เที่ยวบ้างแต่มันจะมีความรู้สึกว่าเหมือนมีภาระเพราะมีงานที่ต้องทำ ทั้งงานกลุ่มหรือมีสอบ เราก็เลยจะใช้เวลากับการเรียนมากกว่า แล้วอย่างฝนก็ทำ part time ด้วย มันก็เลยต้องแบ่งเวลามากกว่าคนอื่นด้วยค่ะ
ทำ Part time อะไรคะ เล่าให้ฟังหน่อย
ทำร้านอาหารไทยค่ะ ก็เป็นเด็กเสิรฟ์ เหนื่อยแต่สนุกแล้วก็ได้เจอสังคมคนไทยที่เค้าอยู่ที่นี่ ก็เหมือนมีผู้ใหญ่ที่นี่ที่เราปรึกษาได้ ได้อาหารไทยห่อกลับบ้านด้วยค่ะ (ยิ้ม)
สำหรับน้องๆ ที่กำลังจะมาเรียนต่อ ก็อยากให้ดูเวลาของตัวเองก่อนที่เราจะตัดสินใจว่าจะทำงาน part-time ดูว่าจะจัดการกับเวลาของตัวเองได้มั้ย อย่างฝนช่วงแรกก็มีปัญหาบ้างว่าติดสอบกับทำงานพร้อมกัน การทำงานเราก็ต้องรับผิดชอบ ก็ต้องแบ่งเวลาให้ได้ก็เลยอยากให้ดูตัวเองมากกว่าว่าตัวเองไหวแค่ไหน
มีข้อแนะนำอะไรสำหรับน้องๆ ที่สนใจจะมาเรียนที่อังกฤษมั้ย?
ก็แค่เตรียมตัวให้ดีก็พอ เตรียมตัวเรื่องการปรับตัวทั้งเรื่องเวลา สังคม ภาษาก็ดี จริงๆ skill แค่พูดได้กับฟังได้ก็พอ เรื่องเขียนกับอ่านมาฝึกเอาก็ได้ แต่ก็รู้สึกว่าถ้าเตรียมมาก่อนก็จะดีกว่า
สำหรับคอร์ส จาก International Securities, Investment & Banking ก็ดีนะคะ มีตัวเลือกที่ให้เรียนค่อนข้างเยอะ ก็ถ้าอยากมาเรียนก็แนะนำให้ดูก่อนว่ามี module ที่เราสนใจมั้ย
สนใจเรียนต่อ University of Reading ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเรียนต่อและคำปรึกษาจากพี่ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทย ฟรี คลิก