สวัสดีครับ กลับมาพบกับ ผม “สรร” อีกครั้ง วันนี้ผมก็จะพาทุกท่านไปรู้จักกับเมือง เลสเตอร์ (Leicester) เมืองขนาดกลางที่เหมาะแก่การเรียนรู้และได้ประสบการณ์ดีๆ กลับไปเพื่อหล่อหลอมตัวเราให้กลับไปเป็นคนที่พร้อมกว่าเดิมในทุกๆ ด้าน
เลสเตอร์ห่างจากกรุงลอนดอนประมาณ 165 กิโลเมตรครับ ถ้านั่งรถก็ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆถึง ชั่วโมงกว่าๆ ขึ้นอยู่กับช่วงเวลารถติดครับ โดยอีกหนึ่งเมืองใหญ่ใกล้เลสเตอร์ก็คือ เบอร์มิ่งแฮม (Birmingham) ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการที่นักเรียนไทยจะมาลงที่สนามบินนี้ได้ นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางไปช้อปปิ้งได้สะดวกอีกด้วย เพราะเบอร์มิ่งแฮม คือเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศอังกฤษเลยก็ว่าได้ ที่เลสเตอร์มีทั้งรถไฟและรถบัสที่พร้อมเดินทางไปทั่วประเทศเหมือนเมืองใหญ่ๆ อื่นๆ ครับ เพราะงั้นหายห่วงได้เลย
เมืองแห่งนี้เป็นที่รู้จักและคุ้นเคยของคนไทยอย่างมากในช่วงหลายปีหลัง เนื่องจากกลุ่มบริษัท King Power ได้กลายเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอล เลสเตอร์ ซิตี้ พร้อมสร้างความสุขให้ชาวเมืองอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2016 จนทำให้ผู้คนในเมืองนี้หลงรักและชื่นชมคนไทย พร้อมให้กับต้อนรับชาวเอเชียเป็นอย่างดี เรียกได้ว่า อยู่มาตั้งนานแต่ผมไม่เคยโดนเหยียดเลยครับ
และอย่างที่เราทราบกันว่าดีว่าที่เมืองแห่งนี้ มีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงอยู่ 2 สถาบัน คือ UOL หรือ University of Leicester และ De Montfort University จึงเป็นเมืองที่มีนักเรียนนักศึกษาชื่นชอบกัน โดยสำหรับเด็กไทยนั้น จากการสำรวจพบว่า สถิติตัวเลขของนักเรียนไทยนั้นมาเรียนที่ เลสเตอร์ มากขึ้นทุกปี ซึ่งในเรื่องของเนื้อหาและหลักสูตรนั้น ทุกท่านสามารถปรึกษากับพี่ๆ Hands On ได้เลยนะครับ
เลสเตอร์ จะมีใจกลางเมืองที่มีห้างสรรพสินค้าใหญ่ รวมไปถึงร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ อยู่รอบถนนคนเดิน มีซุปเปอร์มาร์เก็ตที่หลากหลาย โดยทั้งหมดเราสามารถเดินไปด้วยเท้าเปล่า เพราะระยะทางไม่ห่างกันจนเกินไปครับ ซึ่งในเมืองก็มีร้านเอเชีย ร้านจีน ที่มักจะมีสินค้า อาหารและวัตถุดิบจากประเทศไทยมาขายอยู่เสมอ ทำให้ไม่ต้องกลัวอดแน่ๆ
สำหรับนักเรียนที่ต้องการฝึกประสบการณ์หางาน หาเพื่อน(และแน่นอนว่า หาเงิน) ที่ เลสเตอร์ มีสโมสรกีฬาถึง 3 ทีม ทั้ง “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้, “เดอะ ไทเกอร์” เลสเตอร์ ไทเกอร์ ทีมรักบี้ชื่อดังของอังกฤษ และ “ไรเดอร์” เลสเตอร์ ไรเดอร์ ทีมบาสเก็ตบอลชื่อดัง ซึ่งจะทำให้เรามีโอกาสได้เข้าไปทำงานที่แฟนสโตร์หรือร้านอาหารในวันแข่งขัน เช่นเดียวกับ ร้านอาหารต่างๆ ในเมืองที่ต้องการพนักงานพาร์ทไทม์มาช่วยงานเช่นกัน
ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองนั้น อาจจะมีไม่มาก แต่หากเราลองเปิดอินเทอร์เน็ต แล้วค้นหาแล้วละก็ มันก็พอมีหลายๆ อย่างให้เราทำ แต่แน่นอนว่า สถาปัตยกรรมฉบับยุโรปย่อมมีอาคารสวยๆ ตึกสวยๆ ให้เราได้ถ่ายรูปอยู่เสมอ ดังนั้น เลสเตอร์ ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ส่วนเรื่องดื่มๆ เที่ยวๆ อยากรู้ หลังไมค์มาละกันนะครับผม ฮ่าๆ
อีกข้อที่สำคัญคือด้วยความที่อยู่ใจกลางของประเทศ ทำให้เราสามารถเดินทางลงใต้เพื่อไปเที่ยวลอนดอน (London), บาธ (Bath) หรือสโตนเฮนจ์ (Stonehenge) ได้ไม่ยาก หรือจะขึ้นเหนือเพื่อไปสัมผัสประสบการณ์แฟนบอลที่ แมนเชสเตอร์ (Manchester) หรือ ลิเวอร์พูล (Liverpool) ได้ไม่ลำบาก เช่นเดียวกับเลยไปถึงสก็อตแลนด์เลย
ผมชื่นชอบเลสเตอร์นะครับเพราะที่นี่เป็นเมืองที่สงบ มีแหล่งธรรมชาติที่เราสามารถเดินไปแจกอาหารให้แก่ฝูงหงส์ ฝูงเป็ดหรือฝูงห่าน ได้ตลอดเวลา หรือจะเดินริมน้ำ เพื่อสัมผัสชีวิตที่ไม่ต้องเร่งรีบ ส่วน อากาศก็ชิวๆ หน้าหนาวก็ไม่หนาวมากเท่ากับฝั่งทางเหนือ หน้าร้อนก็ไม่ร้อนหนักขนาดทางใต้ เรียกว่า เป็นความพอดีที่ลงตัวในทุกจังหวะของชีวิต (ยิ่งกว่าโฆษณาอีกนะครับ 555+)
ลองมาสัมผัสด้วยตัวเอง และวันหนึ่ง คุณจะหลงรัก เลสเตอร์…(: