ขึ้นชื่อว่าเด็กนอกหลายๆ คนต้องผ่านประสบการณ์การทำงานพาร์ทไทม์ในช่วงเวลาเรียนกัน มาบ้างไม่มากก็น้อย เพราะฉะนั้นวันนี้จะมาชวนเพื่อนๆ คนไหน ใครที่อยากเรียนไปด้วย ทำงานพาร์ทไทม์ไปด้วย แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง? เรามีขั้นตอนง่ายๆ ในการเตรียมตัวก่อนทำงานพาร์ทไทม์กันค่ะ แต่ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่า ใครที่สามารถทำพาร์ทไทม์ได้บ้าง? ก็มาเริ่มจากเช็คประเภท Visa ที่เราได้รับกันมาก่อนว่าใครได้ Visa อะไรกันบ้าง?
• เริ่มจาก “Student Visitor Visa” สำหรับนักเรียนที่ลงเรียนคอร์สภาษาระยะสั้น ทั้งคนที่เรียนหลักสูตรไม่เกิน 6 เดือน และเพื่อนๆ ที่เรียนหลักสูตรไม่เกิน 11 เดือน ซึ่งเราต้องขอแสดงความเสียใจกับเพื่อนๆ ที่ได้ Visa ประเภทนี้ด้วย เพราะไม่สามารถทำงานได้โดยเด็ดขาดเลยจ้า
• ส่วนประเภทที่ 2 คือ “Tier 4 Student Visa” เป็นวีซ่าสำหรับนักเรียนมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ป.ตรีหรือป.โท และรวมไปถึงก๊วนเรียน Pre-sessional ต้อง ชูป้ายไฟแสดงความยินดี เพราะเด็กกลุ่มนี้นี้ทำงานพารท์ไทม์ได้จ้า แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถทำงานได้แบบบ้าระห่ำกระหน่ำโลกขนาดนั้น แต่ขึ้นอยู่กับชนิดของคอร์สที่เราเลือกเรียนด้วย ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ตามระดับชั้นที่เราตั้งขำๆ แต่ชั่วโมงทำงานแบบจริงจังดังนี้
o ระดับชั้นแพลตตินัม – แบกหามภาคค่ำหรือจะทำวันหยุด โดยประเภทนี้รับชั่วโมงทำงานไปเลย 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งระดับเกิดมาสำหรับหมู่คณะชาวมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นทั้งคอร์สรุ่นน้องป.ตรี และคอร์สรุ่นพี่ป.โท
o ระดับชั้นโกลด์ – ทำงานโปรๆ ชั่วโมงโชว์ไม่มาก ประเภทนี้รับชั่วโมงทำงานน้อยหน่อย แค่10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งระดับนี้เกิดมาเพื่อก๊วนนักเรียน Pre-sessional หรือคอร์สเรียนภาษากับโรงเรียนรัฐบาล
เมื่อเราทราบแล้วว่า Visa ของเราเป็นแบบไหน ประเภทไหนที่สามารถทำงานได้ ก็มาเริ่มลงมือสมัครงานพาร์ทไทม์กันได้เลย เชื่อว่างานยอดฮิตของนักเรียนไทยในอังกฤษหลายๆ คนต้องเริ่มต้นกันที่ร้านอาหารไทย หรือถ้าไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหนก็สามารถตรงไปสมัครได้ที่ Job Center ของทางมหาวิทยาลัยก็ได้ อย่าง University of Leeds ของเราจะเรียกว่า Leeds University Union เรียกติดปากกันว่า “Student Union” จะเข้าไปปรึกษากับคุณเจ้าหน้าที่ หรือจะเข้าไปดูกันได้ที่ www.luu.org.uk/jobs/search/ ก็ได้นะจ๊ะ
หน้าตาเว็บเป็นแบบนี้
ที่นี่ Student Union นะจ๊ะ ทุกปัญหาปรึกษา Student Union Source : https://www.facebook.com/leedsuniversityunion
คิดว่าทุกยูน่าจะมีแต่ชื่อที่เรียกก็อาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละยู แล้วทางยูจะช่วยค้นหางานมากมายที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่อย่าลืมว่าตัวเองอยู่ระดับไหน ทำได้กี่ชั่วโมง เพราะที่นี่เค้าซีเรียสกันมากๆ เหมือนกัน ต้องระวังชั่วโมงการทำงานที่เราสามารถทำได้ให้ถูกต้องให้มากๆ เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมาภายหลัง เพราะไม่ใช่แค่ที่ทำงานที่เราไปทำจะมีปัญหาเท่านั้น แต่ตัวเราเองอาจจะกลายเป็นปัญหาระดับชาติถูกส่งกลับบ้านไม่รู้ด้วยนะเออ
มาถึงขั้นตอนสมัครงาน สิ่งแรกที่ต้องเตรียม คือ “Resume” หรือ “CV” นั่นเอง จัดเตรียมมาให้พร้อมจากไทยเพื่อความสะดวกสบายในการสมัครงาน สามารถ Walk-in เข้าไปยื่นตามร้านได้ทันที หรือบางร้านก็สามารถไปกรอกใบสมัครได้ด้วยตัวเองเช่นกัน ส่วนตัวเราเองก็เลือกเดิน Walk-in ไปสมัครตามร้านเลย มีร้านอาหารไทยตรงไหนในเมืองก็ตระเวนเดินไปสมัครมันทุกที่ที่เรารู้ อย่างที่ Leeds มีอยู่ประมาณ 5 – 6 ร้านใหญ่ๆ (ที่เรารู้นะ ลองๆ search ดูได้ มีเยอะเลย เดี๋ยวหาว่าเราโฆษณาแฝง ฮาๆ) ซึ่งสิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับการสมัคร สำคัญยิ่งกว่า CV คือ “เบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ติดต่อในอังกฤษ” เมื่อได้งานปุ๊บจะได้ไม่พลาดในการติดต่อปั๊บนั่นเอง
สิ่งที่สองที่สำคัญมากๆ คือ NI Card (National Insurance) หลายคนอาจจะงงว่ามันคืออะไร? ไม่ต้องสงสัยเพราะตอนแรกเราก็งงเช่นกัน หลังจากที่เราเดินเข้าไปสมัครในร้านอาหารไทยแห่งแรกหนึ่งด้วยความมั่นใจ ถามชื่อเสียงเรียงนามกันซักพัก พี่ผู้จัดการร้านก็ไม่รอช้า ถามมาเลยว่า “แล้วนี่มาสมัครมีเลข NI รึยัง?” เราทำหน้าเอ๋อตอบกลับแบบไม่ต้องให้พี่เค้าถามอะไรต่อ และก็ตามด้วยการเปิดคอร์สอธิบายเรื่อง NI Card กันเลยว่า NI คือ National Insurance เพราะการทำงานในอังกฤษทุกคนต้องมีเลขเพื่อใช้อ้างอิงเมื่อคุณทำการติดต่อกับ ทางรัฐบาล มันก็เปรียบเสมือนเลขบัญชีส่วนบุคคลที่ใช้เรียกเก็บภาษี
ซึ่งถ้าเราไม่มี National Insurance ในการทำงานจะถือเป็นความผิดร้ายแรงกันเลยทีเดียว โดยการขอเลข NI ก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่โทรศัพท์ไปยัง Job Centre หมายเลข 0345 600 0643 ในวันจันทร์ ถึง วันศุกร์ เวลา 8.00 -17.00 (แนะนำให้โทรช่วงกลางวัน เพราะถ้าช่วงเย็นคุณเจ้าหน้าที่จะรีบกลับบ้าน จะกระวนกระวายไม่ค่อยมีสมาธิในการสัมภาษณ์และตอบข้อสงสัยนักเรียนแบบเราๆ เท่าไหร่ แหะๆ) โทรไปปุ๊บจะเป็นเสียงอัตโนมัติเพื่อให้เราติดต่อตามเรื่องที่เราต้องการ ก็ลองฟังดูเนอะว่ากดอะไร ทำยังไงก็ได้ให้คุยกับคุณเจ้าหน้าที่ให้ได้ โดยคุณเจ้าหน้าที่ก็จะทำการสัมภาษณ์ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 5 นาทีเท่านั้นเอง (ยกเว้นใครมีคำถามสงสัย หรือฟังไม่เข้าใจก็ทวนถามกันใหม่ได้ตามความสบายเลยจ้า)
ซึ่งคุณเจ้าหน้าที่จะถามประวัติส่วนตัว ชื่อ-นามสกุล ประเภทของ Visa สาเหตุที่คุณต้องการเลข National Insurance และ ที่อยู่ในอังกฤษ อันนี้ระวังให้ดีเลยนะ ชื่อ-นามสกุลอาจจะสะกดผิดกันได้ (ตามประสาประชากรสัญชาติไทยที่ทั้งชื่อและนามสกุลย๊าวยาวอย่างพวกเรา) แต่ที่อยู่ที่ทวนซ้ำกันให้ดีๆ ปกติเวลาถามที่อยู่ของคนอังกฤษก็มักจะเริ่มจากรหัสไปรษณีย์ แล้วเค้าก็จะสามารถเลือกจากระบบได้เลย แต่เพราะบางทีที่อยู่ของเราบางที่อาจจะยังไม่อัพเดทในระบบ ก็ต้องทวนและแจ้งคุณเจ้าหน้าที่ให้ดีนะจ๊ะ
เมื่อจบการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ปั๊บ คุณเจ้าหน้าที่เค้าก็จะให้เลข National Insurance มาก่อน และเราก็สามารถนำเลขนี้ไปสมัครงาน หรือเอาแจ้งกับผู้จ้างงานได้เลย
หน้าตาแบบฟอร์ม NI
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะส่งแบบฟอร์มกลับมาให้ภายใน 10 วัน (แต่ของเราแค่ 3 วันก็มาถึงแล้ว) เพื่อให้เรากรอกข้อมูลต่างๆ พร้อมลิสต์รายการเอกสารที่จำเป็น ซึ่งแบบการกรอกแบบฟอร์ม NI card จะต้องกรอกข้อความให้สมบูรณ์ทุกช่องที่เค้าบอกนะคะ เพราะมันจะมีบางช่องที่เด็กไทยอย่างเราไม่ต้องกรอก อ่านกันให้ดีๆ แล้วกันโน๊ะ และที่สำคัญจะต้องเซ็นชื่อลงบนแบบฟอร์มด้วยปากกาสีดำเท่านั้น!!!!
กรอก เสร็จแล้วก็แนบเอกสารสำเนา Passport, สำเนา Visa แล้วส่งกลับภายในวันที่กำหนดตามจดหมายที่แนบไว้ด้วยนะ แล้วหลังจากนั้นก็รอไปเลยจ้า เพราะเค้าบอกว่า เราจะได้รับบัตรพลาสติกแสดงเลข National Insurance ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 12 สัปดาห์นับจากวันที่ยื่นสมัคร แต่บางครั้งอาจจะมีการติดต่อจากคุณเจ้าหน้าที่กลับมาในกรณีที่เค้าต้องการ หลักฐานอะไรเพิ่มเติม เพราะงั้นเราก็รอกันไปเลยยาวๆ จ้า จนได้บัตรมาครอบครอง เย้!!
หน้าตา NI Card เป็นแบบนี้
อัน นี้เป็นการ์ดของคนอื่นเอามาให้ดูกันจ้า และสิ่งสุดท้ายที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ แรงกายและความมุ่งมั่น แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะทำงานอย่างเต็มที่ แบ่งเวลาทั้งเรื่องเรียน ทั้งเรื่องงานให้เป็น เท่านี้เราก็จะสามารถไปสมัครงานพาร์ทไทม์ได้อย่างสบายใจแล้วค่ะ ปิดท้ายด้วยภาพบรรยากาศในครัวที่เราทำงานกับตำแหน่งเด็กล้างจานสมัครเล่น บรรยากาศห้องครัว
รีบถ่ายมาก เพราะเดี๋ยวโดนหาว่าอู้งาน ฮ่าๆ
ยังไงก็ขอให้ทุกคนได้ทำงานพาร์ทไทม์ที่สนุกกันทุกคนนะคะ ฝึกความอดทน ฝึกประสบการณ์ แถมมีเงินเก็บเอาไว้ไปเที่ยวอีกด้วย สู้ๆ นะคะทุกคน