หนึ่งในสิ่งที่นักเรียนที่กำลังจะไปเรียนต่อต่างแดนกังวลมากที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องที่อยู่อาศัย ไปแล้วจะไปอยู่ที่ไหน อยู่กับใคร ยังไงดี หนึ่งในทางเลือกที่ดูน่าอุ่นใจคงเป็นการอยู่หอของมหาวิทยาลัยแบบ on campus เนอะ เราเองก็เริ่มต้นแบบนี้และเชื่อว่าหลายๆคนคงพิจารณาทางเลือกนี้เหมือนกัน(เราคิดเอง ไม่อิงสถิติ 55)
อย่างที่รู้ๆ ช่วงก่อนเปิดภาคเรียน จะมีการเรียน pre-sessional course เพื่อปรับพื้นฐานภาษาอังกฤษ เราเองก็ไปเรียนอยู่ 8 สัปดาห์ ช่วงที่ไปเรียน pre-sessional course เนี่ยเราอยู่หอพักที่ทางมหาวิทยาลัยจัดไว้ให้ จองห้อง จ่ายตังค์ไว้ตั้งแต่ก่อนไปเลย โล่งใจไปหนึ่งระดับ ไปถึงมีที่อยู่แน่ๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทางด้วยเพราะหออยู่ในตัวมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว เดินไปเรียนได้เลย สบ๊ายย
ห้องที่เราได้เป็นห้อง single room อยู่คนเดียว มีเตียง ตู้ โต๊ะ และอ่างล้างหน้าให้ ส่วนห้องน้ำและห้องครัวต้องแชร์กับคนอื่นๆ ก่อนไปเราก็นั่งส่องรูป ส่องแล้ว ส่องอีก ห้องเล็กไปนิดแต่ก็ดูสะอาด ห้องน้ำ ห้องครัวดูโอเค แต่แอบหนักใจเบาๆ เพราะไม่เคยอยู่หอรวมแบบต้องแชร์ห้องน้ำกับคนแปลกหน้ามาก่อน
พอไปถึงมหาวิทยาลัย ขนข้าวขนของเข้าหอ เออ ห้องมันเล็กจริงๆ แต่ก็ไม่เป็นไร เราเอาไว้นอนอย่างเดียว เรียนก็เกือบทั้งวัน เวลาว่างเอาไปขลุกอยู่ที่อื่น หมดวันพอดี เพราะฉะนั้นขนาดห้องในช่วงของการเรียน pre ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเราเลย (ยังไม่ถึงฤดูช้อปปิ้งไง สมบัติยังไม่เยอะ พออยู่ไปสักพักเจอป้าย sales โจมตี ถ้าเลือกอยู่ในโกดังได้ ก็จะเลือกโกดังค่ะ )
ห้องน้อยกลอยใจของเรา ปัจจุบันโดนทุบทิ้งไปแล้ว เข้าวัยเกษียณ
ก่อนไป เราคิดว่าเราจะกินแซนด์วิชได้ทุกวัน ไม่ต้องใช้ห้องครัว การแชร์ห้องครัวนี่ไม่น่ามีผลกระทบอะไรกับชีวิตมาก แต่พอเอาเข้าจริงๆ โหยข้าวมากคุณ ข้าววว ชั้นต้องการข้าววว!!! ก็เลยต้องเข้าไปแย่งพื้นที่กับเค้าหน่อย และอย่าลืมว่านี่เป็นช่วงเวลาแห่ง pre-sessional course เพราะฉะนั้นคนที่แชร์หอร่วมกับเราส่วนใหญ่เอเชียทั้งนั้น อาหารเอเชียใช้เวลาทำนานไหมคะ? นานน แล้วตีกันแย่งครัวไหมคะ? ตี 555555 แต่มันก็แบบขำๆอ้ะ ถ้าครัวเต็ม ก็ต้องรอ ถ้าหิวมากๆก็โผล่หน้าไปให้คนที่ใช้ครัวอยู่เห็นบ่อยๆ หรือไม่งั้นก็นั่งรอเลย ใช้สายตาวิงวอนกดดัน จงสบตาข้าา ข้าหิวว ..
เราชอบการแชร์ห้องครัวนะ ถึงบางครั้งต้องทนหิวนานหน่อย แต่มันทำให้เราได้รู้จักคนเยอะขึ้น เราได้เพื่อนเยอะมากจากการแย่งครัวกันใช้เนี่ยแหละ ชวนเค้ากินข้าวบ้าง ขอเค้ากินบ้าง อร่อยแบบนานาชาติ ข้อควรระวังที่เราพึงระลึกไว้เตือนตนเวลาอยู่ในครัวพร้อมเพื่อนคือบางคนเค้านิยมใช้ไฟแรงๆในการทำอาหารแล้วควันมันเยอะ พอควันเยอะเป็นไงคะ สัญญาณเตือนไฟไหม้ดังวนไปจ้า อยู่ที่นู่นถ้าสัญญาณดังเราต้องวิ่งออกจากตึกทันที แล้วอีกแค่หนึ่งอึดใจจะมีเจ้าหน้าที่มาเช็ค จริงจังมาก เราจะนั่งรอสัญญาณมันดับเองแบบเบลอๆมิได้ ต้องวิ่ง นี่ไปอยู่แปบเดียว ได้วิ่งลงตึกเพราะเพื่อนคนเดิมทำอาหาร 3 รอบ สนุกสนาน ออกกำลังกายกันไป เพราะฉะนั้นคำแนะนำในการเข้าครัวกับเชฟกระทะเหล็กทั้งหลายคือ ใส่รองเท้าไว้ เผื่อต้องวิ่ง
อีกเรื่อง ปัญหาเบสิคของการแชร์ครัวคืออาหารในตู้เย็นชอบวาร์ป ซื้อไข่เมื่อวาน จะกินวันนี้ รู้ตัวอีกทีไข่หายไปแล้ว! ! ! เห้ย! ไข่วาร์ปป!! ไม่ต้องตกใจแรง ของเราหาย ของคนอื่นก็หาย ตู้เย็นชอบมีผีสิง วิธีแก้เคล็ดเบื้องต้นคือรวบรวมของทั้งหมดที่เป็นของเราใส่ถุง มัดปากถุงให้แน่น แล้วเขียนชื่อตัวโตๆ เพื่อนบางคนเขียนคาถาสาปแช่งไว้ข้างถุงด้วย ของก็หายบ้าง ไม่หายบ้างแล้วแต่ความขลังของคาถา บอกแล้วว่าอยู่แบบเอื้ออาทร อะไรเอื้อกันได้ ก็ต้องเอื้อๆกันไป (เหรออ)
นี่ห้องครัว เตาเยอะแยะ แบ่งๆกันใช้
ส่วนการแชร์ห้องน้ำ บอกเลยว่า สะพรึง!!! สะพรึง!! และ สะพรึง!!! ไปหลายตลบ แต่เราก็ต้องทำความเข้าใจ จูนความคิดตัวเอง คนเราต่างที่มา ต่างความคิด ต่างวัฒนธรรม ต่างวิถีการอาบน้ำ ต่างทักษะการใช้ชักโครก ต่างโน่น ต่างนี่ ต่างนั่น ต่างอะไรก็ว่ากันไป คนเรามันแตกต่างกันอยู่แล้ว เลือกที่จะมาเรียนต่างประเทศก็ต้องเปิดใจยอมรับความแตกต่างเนาะ ชั้นโอเครรรร แกรรร ฮืออ อีกอย่างอยู่แค่แปบเดียวไง ศรีทนได้ แต่ถ้าต้องเจอแบบนี้ตลอดปี ตลอดไป ศรีก็มิมั่นใจค่าา (เรื่องอย่างงี้แล้วแต่ดวงด้วย ห้องน้ำที่เพื่อนเราต้องแชร์ก็สะอาดดี ไม่มีเรื่องเซอร์ไพรซ์อะไรเลย)
เล่าไปเล่ามา ทำไมเราเล่าแต่ปัญหา? เอ๊ะ สรุปการอยู่หอในมันดีมั้ย? 55555 จริงๆการอยู่หอในมันดีมากเลยนะ นับเป็นช่วงที่เราประทับใจที่สุดในการไปเรียนที่นู่นเลย แต่เราอยากเล่าปัญหาที่เราเจอเพราะเราคิดว่าหลายๆคนอาจมีความกังวลว่าจะเจอปัญหาพวกนี้เหมือนที่เราเคยกังวลก่อนไป ซึ่งพอไปถึงแล้วก็เจอจริงๆ อ้าว 5555 แต่มันเล็กน้อยมากเลยไง แล้วมันก็ทำให้ขำทุกทีที่เรามองย้อนกลับไป กลายเป็นความทรงจำดีๆไปซะงั้น
ย่อหน้าสุดท้ายขอรวบรวมความดีงามของการอยู่หอ on campus แบบเอื้ออาทรของเราซะหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวจะว่าพูดแต่เรื่องแย่ๆ XD อย่างแรกคือความสะดวกในการเดินทางไปเรียน ตื่นมา อาบน้ำแปรงฟันแวะซื้อกาแฟแล้วเดินเข้าห้องเรียนได้เลย ไม่มีเลท ไม่มีสาย ถ้าตื่นทัน อย่างที่สอง ได้เพื่อนเยอะมากแล้วสนิทกันเร็วด้วยเพราะเจอหน้ากันแทบจะตลอดเวลา เดินสวนกันไปมา ตีกันแย่งครัวอยู่ในนั้นแหละ แล้วบางคนก็กลายมาเป็นเพื่อนแท้ด้วยเพราะมันต้องถ้อยที ถ้อยอาศัย ช่วยเหลือเกื้อกูลกันแทบจะ 24/7เน๊าะ อย่างที่สาม อยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกล้านแปดของมหาวิทยาลัย เช่น ห้องสมุด ยิม สระว่ายน้ำ โรงหนัง สนามกีฬา เป็นต้น อย่างที่สี่ ความปลอดภัย อยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยยังไงก็มีเจ้าหน้าที่อยู่ใกล้ๆ และอย่างที่ห้า ไม่ต้องปวดหัวเรื่องการทำเรื่องจ่ายค่าน้ำค่าไฟด้วยตัวเอง
ทั้งนี้ทั้งนั้นหอ on campus มีหลายแบบหลายราคา แบบที่ไม่ต้องแชร์อะไรกับใคร แบบไฮโซมากมายเลยก็มี หลายๆมหาวิทยาลัยก็มีหอแบบ off campus ไว้บริการนักศึกษาด้วย (คือมหาวิทยาลัยดูแล แต่ไม่ได้ตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ตัวมหาวิทยาลัย) ลองเช็คในเว็บมหาวิทยาลัยดู แต่อยู่แบบเรานี่ก็สนุกจริงๆนะ J