Hands On Education Consultants

ประสบการณ์ครั้งแรกเมื่อมาถึงสหราชอาณาจักร Part 2

พูดถึงเรื่องอาหารการกิน คนไทยอย่างเรามาเรียนต่างประเทศนานๆ คงจะอดคิดถึงอาหารไทยบ้านเราไม่ได้ใช่ไหมคะ? สิ่งที่จะต้องเตรียมมาหลักๆ คงหนีไม่พ้น ผงปรุงรสตรา โลโบ มาม่า น้ำพริกกระปุก ซึ่งต้องบอกเลยว่าที่ เมืองนี้ Bournemouth มีทุกอย่างเลยค่ะ มันจะมีร้าน Asia Shop อยู่ สองร้านมั้งคะที่เจอมา ซึ่งก็มีของไทยขายเยอะมาก ข้าวไทย น้ำปลา น้ำมันหอย กะปิ มีหมดคะที่นี่ ไม่ต้องแบกจากบ้าน ให้เปลืองน้ำหนักเลย ขนมไทยก็มีต้องบอกว่ามีครบจริงๆ

ร้านอาหารไทยก็มีสามร้านด้วยกันในเมืองนี้คะ พนักงานในร้านคงไม่ต้องพูดถึงก็นักเรียนไทยทั้งน้าน ซึ่งถ้าพูดภาษาอังกฤษไม่คล่องก็สามารถถามเขาได้เลยว่าเมนูนี้เรียกว่าอะไร หรือบางช่วงก็มีบูธจัดขายอาหารไทยและอาหารนานาชาติค่ะพอพวกเราสำรวจเมืองกัน เรียบร้อยแล้วก็กลับมาบ้านมาจัดแจงและรื้อกระเป๋าเก็บของกันคะ แต่ไม่กล้ารื้อหมดนะคะเพราะว่าอีกแค่ 1 เดือนพวกเราก็ต้องย้ายออก พวกเราอยากอยู่เป็น Flat นอกคะ พยายามหาที่ใกล้เมืองเพราะจะได้ประหยัดค่ารถ

พอสำรวจเมืองเสร็จเราก็กลับบ้านอาหารมื้อเย็นวันนี้เรายังไม่ได้ซื้อ เนื้อสัตว์กันมาเลยมีแค่ไข่กับมาม่าที่พกมาจากไทยคะ ก็เลยต้องกินไปแบบนั้นก่อน แต่ต้องบอกเลยว่ามาม่าอร่อยมากจากคนที่ไม่ค่อยชอบกิน หลังจากกินเสร็จก็รีบอาบน้ำเลยคะ รู้สึกหนาวมากยังไม่ชินกับอากาศหลังจากอาบน้ำเสร็จ คงไม่ต้องพูดถึงหลับเป็นตายเพราะถ้าเทียบเวลาเมืองไทยก็น่าจะราวๆ ตี4

อีกวันเราก็ไปเดินเล่นทะเลกันคะเมื่อวานไป Town กันแล้ววันนี้เลยมาทะเล แต่ต้องบอกเลยว่า Town กับทะเลอยู่ใกล้กันนิดเดียว ที่ทะเลอากาศค่อนข้างดีมีลม แต่ฝรั่งเขาไม่แคร์ความหนาวกันเราเห็นพวกเขาเดินกินไอติมกันอย่างชิวเลย ไอติมที่ทะเลขายดีมากๆ เลยทีเดียวคนต่อแถวกันยาว ซึ่งสำหรับเราอยากกินตามเลยแต่ยังไม่กล้าพอเพราะอากาศมันหนาวยังไม่ชินค่ะ แต่คิดว่าถ้าชินแล้วจะไปต่อแถวซื้อเหมือนกัน พวกเราเที่ยวกันเสร็จก็รีบกลับบ้านนอนกันเลยคะ พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนวันแรกด้วย เราแยกกันเรียนกับเพื่อนคะ เพื่อนเรียนปริญญาโทส่วนเราเรียนภาษา แอบกลัวนิดหน่อยต้องไปเรียนคนเดียว

วันแรกที่ไปเรียนอย่างที่บอกเราอยู่บ้านพักของนักเรียนภาษา ในขณะที่เรากำลังเดินออกจากบ้านเพื่อนไปโรงเรียนก็เจอเพื่อนคนนึงเดินออกมา จากบ้านเหมือนกัน เราถามเขาว่าเรียนภาษาที่เดียวกับเราใช่ไหม เราเป็นนักเรียนใหม่เพิ่งจะไปวันแรก เขาก็ใจดีสอนขึ้น-ลงรถบัสและพาเดินไปโรงเรียน จากนั้นเขาบอกกับที่เค้าเตอร์ให้ว่าเราเป็นนักเรียนใหม่ แต่ก็แอบตกใจที่โรงเรียนนี้ไม่มีคนไทยเรียนเลยสักคน แล้วตัวเองภาษาอังกฤษเรียกว่าห่วยแตกมากคะ ไปถึงฟังไม่ออกพูดไรออกไปเขาก็ไม่ค่อยจะเข้าใจเรา ด้วยสำเนียงของเราที่ค่อนข้างแย่ แต่พวกเขาไม่ได้ทำให้เรารู้สึกเป็นตัวประหลาดเลยเขาจะค่อยๆ พยายามอธิบายเพื่อสื่อสารกับเราอย่างช้าๆ หรือไม่เราก็ขอให้เขาสะกดคำที่เขาพูดให้เพื่อเราจะเปิดดิกชันนารีในคำบางคำ ที่เราไม่เข้าใจ

เจ้าหน้าที่ที่โรงเรียนนี้น่ารักมากไปถึงเขาก็ขอพาสปอร์ตคะ แล้วก็ให้นั่งรอสักพักจะมีคนพาเราไป Test วัดระดับความรู้ของเราค่ะ เขาจะได้เลือกห้องเรียนให้เหมาะสมกับเรา เราจะได้ไม่ต้องรู้สึกกดดันจนเกินไปกับการเรียนหนังสือ และเพื่อนๆ ที่โรงเรียนนี้ก็พูดกันเก่งมาก พอเราทำ Test เสร็จทางโรงเรียนก็พาเราเดินสำรวจรอบๆ นอกโรงเรียนคะ ก็พาไปเดินดูว่ามีอะไรบ้างซึ่งต้องบอกว่า

รอบๆโรงเรียนมีครบทุกอย่างเลยคะ อาหาร โรงหนัง ทะเล อยู่รอบๆโรงเรียนหมดเลย รวมถึงแหล่งช็อปปิ้งด้วยคะ พอเขาพาทัวร์รอบโรงเรียนเสร็จก็กลับมาที่โรงเรียนเขาก็แจกตารางสอนให้คะ ว่าแต่ละวันเราเรียนกี่โมงถึงกี่โมง ซึ่งคอร์สที่เราลงก่อนมาก็คือ G25 เรียน จันทร์ – ศุกร์ จะมีหนักๆ ก็แค่ 2 วันคะคือ จันทร์ อังคาร จะเรียนเต็มวัน ตั้งแต่ 09:00 – 16:20 น. แต่ไม่เหนื่อยมากเท่าไหร่ เพราะจะมีเบรกเป็นช่วงๆ และพักกินข้าวตอน 13:00 – 14:00 น.และวันอื่นๆ ก็เลิก 13:00 น. ตอนพักกลางวันถ้าขี้เกียจออกไปข้างนอกกลัวหนาวหรือฝนตกก็สามารถซื้ออาหารกิน ในโรงเรียนได้ด้วยและราคาไม่แพงถ้าเทียบกับร้านข้างนอกและปริมาณที่ได้ วันแรกเรายังไม่กล้าออกไปข้างนอกยังไม่มีเพื่อนคะกลัวหลงด้วย เลยซื้อขนมกินในโรงเรียน หลังจากนั้นคุณครูที่สอนเราก็เดินเข้ามาทักและพาเราไปที่ห้องเรียนและได้แนะ นำเราให้รู้จักกับเพื่อนๆ ในห้องเพื่อให้เขาช่วยดูแลเราคะ ซึ่งเพื่อนๆ ก็มีน้ำใจมากๆ คอยสอนตลอด เรียกได้ว่าอังกฤษแปลอังกฤษ อีกรอบเลยทีเดียว เรารู้สึกโอเคมากกับวันแรกที่เจอครูที่ดีและเพื่อนที่ดี แต่ก็มีความอึดอัดอยู่เพราะเราไม่เก่งภาษาอังกฤษ เราคิดว่าเราเตรียมตัวมาพอสมควร แต่พอเจอของจริงทำให้รู้ว่าสิ่งที่เตรียมได้ไม่ถึง 20% กับของจริงที่เจอ แต่สุดท้ายวันแรกที่โรงเรียนก็ผ่านไปได้ด้วยดีคะ

ติดตามเรื่องราวของน้องเจินได้ เร็วๆนี้ค่ะ