Hands On Education Consultants

พาเที่ยว Tower of London

Tower of London หรือ หอคอยลอนดอน เดิมทีเป็นพระราชวังเดิมสร้างโดยพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษ เมื่อปี ค.ศ. 1078 บนลานโล่งแจ้งที่เรียกว่า Tower Hill โดยหอคอยนี้ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำเทมส์ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ หอคอยแห่งนี้เป็นทั้งป้อมปราการ พระราชวัง ที่จำขังโดยเฉพาะสำหรับนักโทษที่มียศศักดิ์สูง คลังเก็บอาวุธ ท้องพระคลัง สวนสัตว์ โรงกษาปณ์หลวง หอเก็บเอกสาร หอดูดาว และเมื่อปี ค.ศ. 1303 เป็นต้นมาก็เปลี่ยนเป็นที่เก็บรักษามงกุฏและเครื่องราชาภิเษกของ สหราชอาณาจักร


หอคอยลอนดอน (Tower of London)

จุดแรกที่เราจะเห็นเด่นชัดเลย คือ หอคอยขาว (White Tower) อยู่บริเวณตรงกลางหลังกำแพงชั้นนอกและชั้นใน โดยพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 สร้างอาคารหลังนี้เป็นแห่งแรก ใช้เป็นที่จัดแสดง อาวุธโบราณ และเสื้อเกราะ


หอคอยขาว (White Tower)

ด้านในของ White Tower มีโบสถ์ Saint John’s Chapel โดยสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1080 ซึ่งถูกออกแบบโดย Norman เพื่อใช้ประกอบพิธีทางศาสนาของเหล่าเครือญาติกษัตริย์และชำระร่างกายก่อนทำ พิธีพระราชพีธีบรมราชาภิเษก โบสต์แห่งนี้ถือว่าเป็นโบสถ์เก่าแก่ที่สุดในลอนดอน


โบสถ์ St. John’s Chapel

มีพิพิทธภัณฑ์เสื้อเกราะและอาวุธที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของโลก ภายในจะจัดแสดงเสื้อเกราะแบบต่างๆ ตลอดจนอาวุธยุทโธปกรณ์ในสมัยกลางจนถึงปี ค.ศ. 1914 มีทั้งของประจำตัวกษัตริย์ และของกำนัลที่ได้จากประเทศเพื่อนบ้าน


พิพิทธภัณฑ์เสื้อเกราะและอาวุธ (Royal Armouries Museum)

นอกจากนี้ ยังมีห้องนิรภัยใต้โรงทหารวอเตอร์ลู (Waterloo Block) ซึ่งจะอยู่ทางทิศเหนือของหอคอยขาว เป็นที่ที่ใช้เก็บของมีค่าต่างๆ ของราชวงศ์ เช่น มงกุฏ ดาบ คทา ภาชนะที่ทำจากเงินและทอง เป็นต้น


โรงทหารวอเตอร์ลู (Waterloo Block)

ที่ที่กล่าวขานกันมากก็เห็นจะเป็นหอคอยเลือด (Bloody Tower) เป็นสถานที่ที่ใช้ควบคุมประตูน้ำเข้า – ออก นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ประหารชีวิตและทรมาณ และเคยใช้เป็นที่ประทับและคุมขังเจ้าชายสองพระองค์ คือพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ห้า วัย 12 พรรษา กับ เจ้าชายริชาร์ด ดยุกออฟยอร์ก พระอนุชาวัย 9 พรรษา


หอคอยเลือด (Bloody Tower)

ทาวเวอร์กรีน (Tower Green)


ทาวเวอร์กรีน (Green Tower)

เป็นลานกว้างและสนามหญ้ามีรั้วกั้นอยู่ตรงหน้าโบสต์หลวง St.Peter ad Vincula ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของหอคอยขาว ครั้งหนึ่งเคยเป็นจุดประหารของพระนางแอน โบลีน, พระมเหสีแคเทอรีน โฮวาร์ดของพระเจ้าเฮนรีที่ 8 และเจ้าหญิงเจน เกรย์
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

ตำนานกาดำแห่ง Tower of London


กาดำแห่งหอคอย (The Ravens)

มีเรื่องเล่าต่อๆ กันมาว่าหากกาดำทั้ง 6 ที่อยู่ ณ หอคอยแห่งนี้หายไป ระบอบกษัตริย์ของอังกฤษจะล่มสลายไปด้วย พระเจ้าชาลส์ที่ 2 (ราวศตวรรษที่ 17) จึงได้สั่งให้ตัดปีกกาข้างหนึ่งเพื่อไม่ให้กาบินหนี นั่นจึงทำให้กาดำตัวใหญ่หรือที่เรียกว่า Ravens กลายเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ไปโดยปริยาย รวมทั้งยังมีการดูแลกาเหล่านี้เป็นอย่างดี หากมีตัวใดตัวหนึ่งตายไป ก็ต้องรีบหาอีกตัวมาทันที ปัจจุบันมีกาดำทั้งหมด 7 ตัว (เผื่อสำรองไว้ 1 ตัว)

Yeoman Warders


Yeoman Warders / Beefeaters

หากได้ไปเที่ยวที่ Tower of London ทุกคนจะได้เจอกับเจ้าหน้าที่ที่ใส่เครื่องแบบโบราณสีน้ำเงินเข้มขลิบแดง ซึ่งเขาเรียกกันว่า “Yeoman Wander” หรือ “Beefeaters”

Beefeaters เป็นชื่อเรียกกันเล่นๆ ซึ่งได้ที่มาจากการที่เป็นตำแหน่ง Royal Bodyguard โดยทหารประจำตำแหน่งนี้จะได้รับการอนุญาตให้ทานเนื้อจากโต๊ะของกษัตริย์ได้ ตามความต้องการ ดังนั้น Beefeaters จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของลอนดอนและบริเตนมาอย่างช้านาน

ปัจจุบัน Yeoman Warders จะทำหน้าที่เป็นไกด์พาชมสถานที่ในหอคอยและบรรยายความรู้ให้แก่นักท่องเที่ยวค่ะ