Hands On Education Consultants

รีวิวประสบการณ์ไปเรียนภาษาอังกฤษที่ UK กับ Stafford House EP.2

รีวิวประสบการณ์ไปเรียนภาษาอังกฤษที่ UK กับ Stafford House EP.2

“ ส่วนตัวเต้คิดว่าทักษะที่สำคัญคือการฟัง กับ การพูด เพราะฉะนั้นครูเค้าก็จะให้ฝึกฟังแล้วก็ฝึกพูด อย่างทุกเช้าเค้าก็จะให้เล่าว่าเมื่อวานทำอะไรมาบ้าง เค้าก็จะมานั่งฟังแล้วมาแก้ให้เราถ้าเราใช้คำผิดนะ ” – เต้  Intensive General English, Stafford House

มาต่อกันที่ EP.2 จะเป็นเรื่องเพื่อนๆ อาจารย์ที่เจอและเรื่องที่พักค่ะ ใครที่ยังไม่เคยอ่าน EP.1 น้องเต้รีวิวเรื่องคอร์สเรียน Intensive General English พร้อมบริการจาก Hands On ทั้งหมดไว้แล้ว สามารถย้อนกลับไปอ่านเพิ่มเติมก่อนได้ที่ รีวิวประสบการณ์ไปเรียนภาษาอังกฤษที่ UK กับ Stafford House EP.1

ถ้าให้เปรียบเทียบการเรียนภาษาอังกฤษที่ไทย กับการเรียนภาษาอังกฤษที่นี่ เราคิดว่าเป็นยังไงบ้างคะ มีความเหมือนและแตกต่างกันมั้ย

Tae: ตอนแรกที่เต้ตัดสินใจว่าจะมาเรียนคอร์สภาษาอังกฤษก่อนรับปริญญา ก็มีเพื่อนบอกว่าทำไมไม่เรียนที่ไทยเพราะถูกกว่าตั้งเยอะ ก็บอกได้เลยว่าเราเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็ก ตั้งกี่ปีอ่ะ 10 กว่าปี แต่ด้วยสังคม สภาพแวดล้อม เราเรียนกับครูไทย ก็แอบพูดภาษาไทยกันอยู่ดี แล้วก็ไม่ได้ใช้ตลอดเวลา แต่ถ้าเรามาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่บีบให้เราต้องพูด เราก็จะเอาตัวรอดได้เอง เพราะด้วยสภาพแวดล้อมมันทำให้เราอยากพูด เช่น เวลาอยู่กับเพื่อนคนไทยที่นี่ก็ยังจะพูดภาษาอังกฤษ เพราะว่ามันมีคนที่เราต้องพูดภาษาอังกฤษด้วย เพราะสภาพแวดล้อมมันบังคับให้เราต้องใช้ภาษาอังกฤษ

 

ตอนแรกคิดไว้มั้ยว่าจะเจอเพื่อนชาติอะไรบ้าง

Tae: ไม่มีค่ะ เพราะคิดว่ายังไงต้องเจอนานาชาติอยู่แล้ว สิ่งที่ยากอย่างนึงคือเราฟังสำเนียงเพื่อนไม่ออก เพราะแต่ละประเทศสำเนียงเค้าก็จะเป็นเอกลักษณ์มากเลย

 

รีวิวเรื่อง Facilities, เพื่อนๆ, อาจารย์ให้ฟังหน่อยค่ะ

Tae: อาจารย์ก็จะมีความเคร่งเครียดเพิ่มขึ้นไปทีละระดับที่เรียนค่ะ อย่างตอนที่เต้อยู่ Pre-Intermediate ครูก็จะเล่นเกมเยอะ แต่พอเริ่มขยับขึ้นไปอีกเลเวลนึง ครูก็จะมีความซีเรียสมากขึ้น เพราะด้วยเนื้อหาด้วย แต่ในทุกคลาสก็จะมีให้คุย ให้ brainstorm กับเพื่อนๆ ไม่ใช่แค่นั่งฟังนั่งเครียดอย่างเดียวค่ะ ส่วนตัวเต้คิดว่าทักษะที่สำคัญคือการฟัง กับ การพูด เพราะฉะนั้นครูเค้าก็จะให้ฝึกฟังแล้วก็ฝึกพูด อย่างทุกเช้าเค้าก็จะให้เล่าว่าเมื่อวานทำอะไรมาบ้าง เค้าก็จะมานั่งฟังแล้วมาแก้ให้เราถ้าเราใช้คำผิดนะ

 

การปรับตัวเป็นยังไงบ้าง

Tae: เต้คิดว่าเต้ไม่น่ามีปัญหาเยอะขนาดนั้น เต้ไม่ home sick นะ แต่จะมีเรื่องที่เป็นปัญหาคือเต้เป็นคนหนาวง่าย ร้อนง่าย มันก็จะยากตอนเลือกเสื้อผ้า คือทุกวันนี้ก่อนแต่งตัวก็จะต้องเช็คอากาศก่อน มีฝนมั้ย มีลมมั้ย เราจะได้เลือกใส่เสื้อผ้าได้ถูกค่ะ ขอเล่าเลยว่าวันแรกที่มาเรียนเต้ก็กะเสื้อผ้าที่จะใส่ไม่ถูก เลยไม่ได้ใส่ heat tech แล้วคือวันนั้นแทบตาย หนาวมากๆ มีทั้งลมทั้งฝน วันถัดไปเลยคิดว่าไม่พลาดแล้ว ใส่ heat tech มาแล้วก็ใส่ sweater ทับ ปรากฎว่า…ร้อน! ร้อนเกินจนต้องไปถอด heat tech ในห้องน้ำ เลยต้องวางแผนใหม่ว่าต้องเช็คอากาศก่อนแต่งตัว แล้วเสื้อตัวนอกต้องใส่แบบที่สามารถถอดออกได้ง่าย

แล้วก็เรื่องอาหาร คือเต้ไม่ใช่ว่ากินอาหารที่นี่ไม่ได้นะ แต่แค่คิดถึงอาหารไทยเฉยๆ แล้วก็เรื่องมื้ออาหารด้วยเพราะเต้อยู่กับโฮส เค้าก็ถามว่าตอนเช้ากินอะไร อย่างคนที่นี่ตอนเช้าเค้าก็จะกินเป็นซีเรียล ไม่ก็ขนมปังแผ่น โฮสก็ถามเราว่าประเทศคุณตอนเช้ากินอะไร เต้ก็ตอบเค้าไปว่า ข้าวกับแกงค่ะ เค้าก็บอกว่า ห๊ะ! จริงหรอ ล้อเล่นหรือเปล่า? ก็เลยบอกเค้าไปว่าที่ประเทศไทยจะเรียงลำดับความสำคัญของมื้ออาหารว่ามื้อเช้าสำคัญที่สุด รองลงมาคือมื้อกลางวัน แล้วก็มื้อเย็น แต่ว่าคนที่นี่คือจะกลับกัน มื้อเช้าเค้าจะกินแค่รองท้อง เช่น ซีเรียลหรือขนมปังแผ่นทาแยม กลางวันก็จะเป็นพวกแซนวิชไม่หนักมาก ส่วนตอนเย็นก็จะเป็นมื้อใหญ่

 

Host Family

ทำไมเราถึงเลือกที่จะอยู่กับ Host family

Tae: ที่นี่จะมี 3 แบบคะที่ทางโรงเรียนจะจัดหาให้นะคะ ก็จะมี

ที่เต้เลือก Host family ก็เพราะว่าผู้ปกครองไม่อยากให้อยู่ใกล้คนไทย เพราะกลัวเราติดไม่ยอมพูดภาษาอังกฤษ แล้วอยู่กับ Host ก็ให้เราฝึกใช้ภาษาได้ด้วย สามารถดูแลเรื่องอาหารด้วย เพราะที่บ้านรู้ว่าเต้ไม่ทำอาหารเองก็กลัวว่าจะไม่มีอะไรกินค่ะ แล้วเต้ก็โชคดีที่ได้ Host family ดีด้วยค่ะ เค้าก็ใจดี ดูแลเราดี

 

แล้วในครอบครัว Host เรามีใครบ้าง

Tae: ก็มีพ่อ แม่ พี่ชายค่ะ

 

พ่อกับแม่เรากลัวมั้ยว่ามีพี่ชาย กลัวมาจีบลูกสาวมั้ย

Tae: ใช่ค่ะ เพราะอายุก็ใกล้ๆ กัน ที่บ้านก็มีเป็นห่วง แต่สรุปคือพี่ชายก็สุภาพ เค้าก็ไม่ได้ยุ่งกับเรามาก ส่วนมากก็จะออกไปทำงาน เต้ก็จะอยู่กับ Host mum & dad มากกว่าค่ะ

สำหรับตัวเต้ เต้ไม่ค่อยกังวลมากเพราะคิดว่าเราดูแลตัวเองได้ แต่ผู้ปกครองก็เป็นห่วงเพราะเราเป็นผู้หญิง

 

ประทับใจอะไรกับ Host family บ้าง

Tae: อย่างแรกเลยก็คือเราได้คุยกับคนอังกฤษค่ะ พอเราอยู่ที่โรงเรียนเราก็คิดว่าเราคุยกับทุกคนรู้เรื่องนะ เพราะทุกคนไม่ได้พูดเร็ว แต่พอเราออกจากโรงเรียนปุ๊ปแค่ไปที่ถนนหรือไปที่ Tesco อย่างนี้จะคนละอย่างเลยนะ เค้าจะพูดแบบธรรมดาของเค้า ไม่ได้สนว่าเราเป็นนักเรียนแล้วเค้าจะต้องพูดช้าหรือต้องพูดให้เราเข้าใจ พอเวลาคุยกับโฮสเราก็ต้องตั้งใจฟังนิดนึงเพราะมันยาก ก็พยายามคุยกับโฮสค่ะ เพราะเอาจริงๆ ถ้าเราคุยแค่ในโรงเรียน เวลาออกไปข้างนอกมันก็ยังยากอยู่ดี เพราะครูก็จะพูดให้เราเข้าใจในบทเรียน แต่ในชีวิตจริงเค้าก็จะพูดกันเร็วมาก

สำหรับน้อง ๆ ที่ยังลังเลว่า ไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศ เลือกพักกับ Host Family VS หอพักนักเรียน ที่ไหนดีกว่า? สามารถอ่านบทความเปรียบเทียบระหว่างที่พักทั้งสองแบบได้ที่บทความนี้เลย คลิก

Recommendation

มีคำแนะนำให้คนที่สนใจมาเรียนภาษาที่อังกฤษมั้ย

Tae: เราต้องตั้งเป้าหมายก่อนว่าเราจะเอาภาษาอังกฤษไปทำอะไร เราอยากมาที่นี่เพื่อเรียน เราอยากมาที่นี่เพื่ออะไร ตั้งเป้าหมายของเราให้ชัดแล้วเราก็ต้องชัดเจนกับมันด้วย พอเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนปุ๊ปมันจะง่ายกับการที่จะเดินไปให้ถึงมัน

 

น้องๆ คนไหนที่สนใจ เรียนภาษาที่ Stafford House อยากมีประสบการณ์ดีๆ แบบน้องเต้ สามารถขอข้อมูลและคำปรึกษาได้ที่ Hands On ทุกสาขา คลิกติดต่อเรา