สำหรับคนไทยแล้วเรื่องกินเรื่องใหญ่! วันนี้เราเลยอยากจะขอแนะนำ 5 อันดับร้านอาหารกินกันตาย-อร่อยห้ามพลาดในเมือง Reading ที่นักเรียนไทยจำชื่อขึ้นใจ ไปดูกันเลยว่ามีร้านอะไรบ้าง …

• Eat @ the Square

  

Eat @ the Square หรือที่เด็กไทยอย่างเราๆ เรียกกันว่า โรงอาหาร ก็เพราะว่ามันคือโรงอาหารหลักของ University of Reading นั่นเอง ภายในโรงอาหารจะมีร้านอาหารหลักทั้งหมด 4 ร้าน พร้อมกับสลัดบาร์ และของหวาน รวมถึงไอศกรีม และเครื่องดื่มสารพันชนิด ที่สามารถจ่ายด้วยบัตรนักเรียนได้ เพื่อรับส่วนลดเพิ่มอีก 15% โดยวิธีการสั่งอาหารนั้น เราจะต้องไปข้าคิวสั่งอาหาร และรับอาหาร ก่อนจะแบกทั้งหมดไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ อารมณ์คล้ายๆ ร้านอาหารที่อีเกีย ระบบเดียวกันเลย

• ร้าน #1 : ขายอาหารฝรั่ง-แขก ซึ่งเมนูจะถูกสับเปลี่ยนไปในแต่ละวัน ราคาค่อนข้างสูง ยิ่งเลือกหลายอย่างยิ่งแพงเข้าไปใหญ่ เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 4-8 ปอนด์ แถมรสชาติก็ยังไม่ค่อยแซ่บถูกปากเด็กไทยสักเท่าไหร่
• ร้าน #2 : ร้านนี้ขายผัดหมี่ โดยที่เราสามารถตักผัดให้ป้าผัดได้แบบไม่อั้นในราคาเท่ากันที่จานละ 5 ปอนด์ เลือกได้ทั้งข้าวและบะหมี่ รสชาติเข้มข้นถึงใจ ปริมาณกินได้ 2 มื้อสบายๆ แต่มันช้ามาก! เพราะเขาจะผัดแบบจานต่อจาน เฉลี่ยแล้วคนละ 5 นาที ถ้าต้องรีบไปเรียนต่อคือกินไม่ทันแน่นอนสำหรับร้านนี้
• ร้าน #3 : ส่วนร้านสุดท้ายเป็นร้านขายแซนด์วิช Panini และสลัด ส่วนตัวเราชอบร้านนี้ที่สุด เพราะรสชาติดี ราคารับได้ และให้เยอะ พูดง่ายๆ คือคุ้มนั่นเอง อย่างสลัดนี่อย่าคิดว่าจะกินไม่อิ่มนะ เพราะในชามจะประกอบไปด้วยสลัดราวๆ 5 ชนิดได้ ซึ่งตักมาแบบพูนๆ พร้อมกับเนื้อไก่ และแผ่นแป้ง กินหมดมีจุกพูดตรงๆ 5 ปอนด์คืออิ่มยาวถึงเย็น ในส่วนของงานแซนด์วิชคือชิ้นยาวมาก มาช่วงแรกกินไม่หมด แต่พออยู่ๆ ไป ก็กินหมดเฉยเลย เครื่องแน่น ชีสเยิ้มๆ ถ้าไม่กลัวอ้วนคือแนะนำ 3 ปอนด์เท่านั้น
• ร้าน #4 : จะอยู่นอกโซนร้านอาหารหลัก เพราะว่าร้านนี้เป็นร้านกาแฟ ในราคาที่พอๆ กันกับ Starbucks พร้อมกับขนมกรุบกรอบ และแซนด์วิชแช่เย็น เน้นซื้อแล้วรีบไปเรียน (ร้านนี้สามารถจ่ายเงินที่ร้านได้เลย ไม่ต้องไปเข้าคิวจ่ายเงินที่แคชเชียร์)

ซึ่งพอเอาเข้าจริงแล้ว ชาวเอเชียงบน้อยอย่างพวกเรา ถ้าการบ้านไม่เยอะ งานไม่ล้น ก็มักจะทำอาหารกลางวันใส่กล่องมาจากหอ แล้วมาใช้ไมโครเวฟกับช้อนส้อมที่โรงอาหารเอา ประหยัดกว่า อร่อยกว่ากันเยอะ

• Cafe Metro

ร้านอาหารตามสั่งสไตล์ฝรั่ง ที่เอาไว้กินสลับแก้เบื่อกับ Eat @ Square ตั้งอยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามด้านหน้ามหาวิทยาลัย ทำอาหารค่อนข้างช้า แต่ราคาค่อนข้างดี เปิดตั้งแต่เช้า สามารถเข้าไปกิน Full English Breakfast ได้ ในส่วนของรสชาติถือว่าทำได้ดีกว่า Eat @ the Square เมนูส่วนใหญ่เป็นอาหารฝรั่งพวกแฮมเบอร์เกอร์ แซนด์วิช ฟิชแอนด์ชิพ สเต็ก แต่เหมือนพักหลังๆ เขาจะเริ่มมีเมนูอาหารเอเชียแล้วเหมือนกัน เป็นร้านที่ถ้าขี้เกียจทำอาหารก็จะมาฝากท้องไว้ที่นี่

• China Palace

ร้านอาหารจีนใน City center ใกล้ๆ กับ Wilko เป็นร้านอาหารจีนร้านใหญ่ ที่หน้าตาไม่หลุดจากร้านอาหารจีนที่เยาวราช ถือว่ามีความคุ้นตาสูง รสชาติอาหารถือว่าดีเยี่ยมเป็นบางวัน … เป็นบางวันจริงๆ เพราะแต่ละรอบที่มากิน อะไรที่เคยอร่อย มาอีกครั้งจะเฉยๆ แต่จะเจอจานอื่นที่อร่อยแทน ในส่วนของเคล็ดลับความอร่อยของร้านนั่นก็คือผงชูรส เยอะมากจริงๆ บางวันมากินแล้วลิ้นชาไปเลย แต่อร่อย ไม่เถียง เป็ดเอย หมูกรอบเอย ผัดผัก เต้าหู้กระทะร้อน มากันหลายๆ คน แล้วหารๆ กัน ได้กินหลายๆ อย่าง ในราคาที่ยังรับได้ แถมท้ายมื้อมีคุกกี้เสี่ยงโชคให้เล่นด้วย

• Ben’s Cookies

มาอังกฤษแล้วคงพลาดไม่ได้กับคุกกี้ร้อนๆ อย่าง Ben’s Cookies ซึ่งนับเป็นความโชคดีที่เมือง Reading นี้ มีร้าน Ben’s Cookies อยู่ โดยจะตั้งอยู่หน้าห้าง The Orcles ฝั่งถนนคนเดินเส้นหลัก คุกกี้ชิ้นโตๆ เสิร์ฟแบบอุ่นๆ มีหลากหลายรสชาติให้เลือกสรร ส่วนตัวเราชอบ Triple Chocolate Chunk ที่ตัวคุกกี้เป็นรสช็อกโกแลต แล้วแซมด้วยช็อกโกแลตชิพ และไวท์ช็อกโกแลตชิพเม็ดเป้งๆ ด้านบน ให้กินเปล่าๆ ก็ฟินชิ้นละ 1.63 ปอนด์ หรือจะเพิ่มเงินอีกนิดหนอยให้เขาจับคู่กับไอศกรีมวานิลลามาให้ก็เลิศ ถ้ามากันหลายคน ให้หมั่นสังเกตโปรโมชัน เพราะซื้อหลายๆ ชิ้นจะถูกกว่า

• Thai Corners

คิดถึงบ้านต้องมาร้านนี้ เพราะที่นี่มีเมนูอาหารไทยทุกอย่างเท่าที่เราจะคิดถึง ไม่ว่าจะเป็นส้มตำปลาร้า กุ้งแช่น้ำปลา ก๋วยเตี๋ยวน้ำตก ชาเย็น สามารถสั่งอาหารเป็นภาษาไทยได้อย่างสบายใจ มื้อกลางวันมีอาหารจานเดียวพวกข้าวผัดแหนม หรือจะผัดกะเพราก็มา พร้อมบรรยากาศดีๆ และเพลงไทยที่อยากจะร้องตามทุกที เฉลี่ยแล้วประมาณคนละ 10 ปอนด์ หรือถ้าไม่สะดวกออกจากหอ (หรือให้พูดอีกนัยหนึ่งว่าขี้เกียจ) ก็สามารถที่จะใช้บริการ Delivery ผ่านแอพพลิเคชัน Deliveroo ได้อีกด้วย เพิ่มค่าส่งอีกแค่ 2-3 ปอนด์ ก็สามารถกินร้านไหนก็ได้ในเมือง Reading ที่หอของเราแบบชิวๆ

นอกจากนี้ก็ยังมีร้านอาหารอื่นๆ อีกมากมายหลากหลายราคา โดยเฉพาะในบริเวณ City center แต่อาจจะติดที่ไม่มีให้กิน 24 ชั่วโมงเหมือนบ้านเรานี่แหละ จะปิดกันประมาณ 3-4 ทุ่ม หรือบางร้านอย่างพวกผับ ก็จะเปิดยาวเลยเที่ยงคืนไป ส่วนใครที่ขี้เกียจออกจากหอ ก็ขอแนะนำให้สั่งผ่านแอพพลิเคชัน Deliveroo ที่ให้บริการรับส่งอาหารจากร้านอาหารภายในเมืองที่เข้าร่วมกับแอพฯ โดยคิดค่าส่งเพิ่มแค่ 2.50 ปอนด์เท่านั้น รับรองว่ามาเรียน Reading ไม่มีอดตายแน่นอนจ้า