สวัสดีค่ะทุกคน ยินดีที่ได้รู้จักกับทุกคนนะคะ 😀 ก่อนอื่น เราขอบอกก่อนเลยนะคะว่านี่เป็นการมาประเทศอังกฤษครั้งแรกของเรา และการมาประเทศอังกฤษของเราครั้งนี้ คือมาเรียนภาษาที่โรงเรียน EC Manchester ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองแมนเชสเตอร์เลยค่ะ ซึ่งถ้าถามว่าตื่นเต้นมั้ย เราว่าทุกคนน่าจะรู้คำตอบนะคะ ตื่นเต้นมากๆ ค่ะ โดยเฉพาะเรื่องการเตรียมตัวก่อนเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเตรียมเสื้อผ้า ของใช้ หรือเอกสารต่างๆ ถ้าไม่ได้พี่เอินจาก Hands On คอยแนะนำหรือช่วยเหลือนี่ต้องแย่มากแน่ๆ เราคงเตรียมตัวไม่ถูก แต่เราเชื่อว่าทุกคนน่าจะได้อ่านข้อมูลและประสบการณ์เกี่ยวกับการเตรียมตัวเพื่อมาศึกษาที่ประเทศนี้จากเพื่อนๆ นักเรียนคนอื่นๆกันมาพอสมควรแล้ว ฉะนั้นเราขอตัดมาตอนที่สองเท้าของเราได้เหยียบประเทศอังกฤษอย่างเต็มตัวเลยแล้วกันนะคะ แต่ว่า.. เราขอแบ่งประสบการณ์ครั้งแรกของเราในครั้งนี้ออกเป็น 3 ส่วนนะคะ จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลยค่าาาา เลทททททททส์โกกกกกกกก!!!

1. Sunday Activities หรือกิจกรรมวันอาทิตย์สำหรับนักเรียนที่เพิ่งมาถึง

สำหรับกิจกรรมนี้ เจ้าหน้าที่ของโรงเรียน EC Manchester จะส่งอีเมลล์ไปหานักเรียนใหม่ทุกคนค่ะ เพื่อแจ้งว่าทางโรงเรียนจะมีกิจกรรมต้อนรับเด็กใหม่ โดยการพาไปทานอาหารมื้อสายหรือที่เรารู้จักกันในคำว่า Brunch นั่นเองค่ะ และหลังจากทานเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะพาเดินดูรอบๆ เมือง ถ้าใครสนใจก็สามารถมาเจอกันที่โรงเรียนได้ตอนเวลา 11 โมงค่ะ ได้ยินแบบนี้แล้ว รออะไรล่ะคะ รีบตื่นเช้ามาอาบน้ำแต่งตัวเสริมสวยแล้วไปร่วมกิจกรรมเลยค่าา ก่อนออกจากบ้านเราก็ถามโฮสเรื่องการเดินทาง นี่ก็คิดในใจนะคะ คงไม่ยากหรอกน่าา แค่ขึ้นรถรางไปเอง (หลังจากนี้ขอใช้คำทับศัพท์ว่าแทรมนะคะ เพราะคนไทยที่นี่จะพูดคำนี้กันจนชินปาก) ง่ายจะตาย แต่ลืมคิดถึงตอนลงจากแทรมค่ะ ว่าเดินต่อยังไง นั่นแหละค่ะ คิดถึงพี่เอินขึ้นมาทันที ตอนลงจากแทรม ลืมคิดไปว่าโทรศัพท์ยังไม่มีอินเตอร์เน็ตเพราะว่ายังไม่ได้ซื้อซิม อยากจะบอกพี่เอินว่า หนูดูแผนที่มาแล้วนะคะ แต่พอมาเจอสถานที่จริงๆ หนูงงค่ะ ฮ่าๆๆๆ เอาล่ะสิ ทำยังไงต่อดีล่ะทีนี้ ลองเดินเองเลยค่าาา เดินไปเดินมาท่ามกลางฝนที่ตกหนักขึ้นเรื่อยๆ จนไม่ไหวแล้วค่ะ สุดท้ายก็ต้องถามคนแถวนั้น ถามไปสองคน ถึงโรงเรียนทันเวลาพอดี รอดตัวไป คิดในใจ ดีนะที่เผื่อเวลา อิอิ กิจกรรมครั้งนี้ มีนักเรียนที่มาร่วมทั้งหมดสามคน ซึ่งมีชาวสวิสเซอร์แลนด์ 1 คน เกาหลีใต้ 1 คน แล้วก็เรานั่นเองค่ะ สำหรับกิจกรรมแรก เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนที่มีชื่อว่า ฮานิ ได้พาเราทั้งสามคนเดินไปที่ร้าน The Alchemist ที่ New York Street ค่ะ ร้านนี้เป็นร้านอาหารที่ดูดีเลยนะคะ มีทั้งให้นั่งทานในร้าน และนอกร้านสำหรับคนที่สูบบุหรี่ค่ะ แต่วันนั้นฝนตก ทุกคนเลยนั่งในร้านกันหมด แล้วหลังจากนั้นก็เป็นไปตามขั้นตอนในร้านอาหารค่ะ เลือกเมนู สั่ง และทาน ขอบอกว่า ร้านนี้อาหารอร่อยมากค่ะ น่าทานมาก ทุกเมนูเลย พอดีวันนั้นตื่นเต้นไปหน่อยค่ะ แล้วก็มัวแต่คุยกับเพื่อนเกาหลี เลยลืมถ่ายรูปอาหารมาให้ชมกัน แห่ะๆ เดี๋ยวไว้คราวหลังจะถ่ายมาให้ชมกันนะคะ อิอิ พอหลังจากที่ทุกคนทานกันเสร็จแล้ว เช็คบิลเรียบร้อย เราโดนไป 7 ปอนด์ค่ะ สำหรับราคานี้ ถือว่าไม่ถูกนะคะ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับแพงค่ะ ส่วนทางโรงเรียนก็น่ารักมากค่ะ มีการขอเซลฟี่ด้วย แล้วเอาไปโพสท์ใน Instragram และ Facebook ของโรงเรียน ประมาณว่ายินดีต้อนรับเด็กใหม่ ซึ่งทำให้เรารู้สึกอบอุ่นมากค่ะ ค่อนข้างประทับใจ

แล้วที่นี้ก็มาถึงกิจกรรมต่อไปค่ะ เหมือนเป็นการเดินย่อยด้วยการพาเดินชมรอบเมือง ประหนึ่ง day trip เล็กๆ เลยค่ะ ถึงแม้ว่าอากาศจะไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่ แต่เราก็สู้ค่ะ เดินกางร่มตามฮานิกันไป ฮานิก็พาเราไปสถานที่สำคัญต่างๆ อธิบายความสำคัญของสถานที่นั้นๆ ซึ่งมีหลายที่ที่น่าสนใจค่ะ เช่น พิพิธภัณฑ์ ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าต่างๆ และสถานที่ที่เราจำเป็นต้องรู้ค่ะ กิจกรรมนี้ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที ซึ่งกำลังดีเลยค่ะ พอเสร็จกิจกรรม ฮานิก็พาไปซื้อซิมแล้วก็ช่วยเลือกว่าควรใช้แบบไหน พอซื้อกันเสร็จเรียบร้อย ก็แยกย้ายกันกลับที่พักของตัวเองค่ะ ก่อนแยกย้าย ฮานิก็ย้ำอีกทีว่าวันรุ่งขึ้นควรมาถึงโรงเรียนกี่โมงและต้องนำอะไรมาบ้าง และมีการให้ยืมร่มกลับไปที่บ้านด้วยนะคะ เพราะไม่อยากเห็นทุกคนป่วย น่ารักกกก ฮ่าๆๆๆ โดยส่วนตัวเราสำหรับกิจกรรมนี้ เราประทับใจมากค่ะ เรามีความรู้สึกว่าทางโรงเรียนใส่ใจเด็กนักเรียนดี เข้าใจว่าทุกคนเป็นเด็กใหม่ อาจจะยังไม่รู้อะไรมากนัก เลยจัดกิจกรรมนี้ขึ้นเพื่ออยากให้ทุกคนเกิดความคุ้นเคยกับเพื่อนๆและเมืองแมนเชสเตอร์ไม่มากก็น้อย ซึ่งมันได้้ผลกับเรามากค่ะ เรารู้สึกคุ้นเคยกับเมืองนี้ขึ้นเยอะเลย และรู้สึกตกหลุมรักเมืองนี้ขึ้นมาเลยแหละ

2. First day at EC Manchester

และแล้ววันแรกของการมาโรงเรียนก็มาถึงค่ะ 8.30 น.  ถึงโรงเรียนตามที่ฮานิบอกเลยค่ะ ไม่ขาดไม่เกิน พอมาถึงโรงเรียน เราก็เดินไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตรงเค้าท์เตอร์ว่าเราเป็นเด็กใหม่นะ เราต้องทำอะไรบ้าง ทางโรงเรียนก็จะขอดูพาสปอร์ตเราค่ะ และให้ตารางเรียนคร่าวๆ กับตารางกิจกรรมของวันนี้

แล้วก็มีเอกสารให้เรามากรอก ซึ่งมีทั้งกรอกข้อมูลส่วนตัว และวัดความรู้ภาษาอังกฤษเบื้องต้นของแต่ละคน ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ เป็นคำถามง่ายๆ เพราะที่วัดระดับจริงๆ คือในแบบทดสอบออนไลน์ที่เด็กทุกคนต้องทำก่อนมาเรียนอยู่แล้ว พอกรอกข้อมูลเสร็จเรียบร้อยก็นั่งรอสักพัก จะมีเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนที่ชื่อ ซาร่า มาเชิญเราไปที่ห้องค่ะ เป็นการพูดคุยตัวต่อตัว เหมือนเป็นการเช็คการระดับด้านการสื่อสารในภาษาอังกฤษอ่ะค่ะ เพื่อที่จะดูว่าเราพูดได้มั้ย ฟังรู้เรื่องหรือเปล่า ใช้เวลาไม่เกิน 2 นาทีค่ะ หลังจากนั้นก็เดินไปถ่ายรูปทำบัตรนักเรียนว่าเป็นเราเป็นนักเรียนของโรงเรียนนี้โดยสมบูรณ์ ซึ่งสามารถใช้บัตรนี้แทนพาสปอร์ตได้เลย เราจะได้ไม่ต้องคอยพกพาสปอร์ตไว้กับตัวตลอดเวลา พอได้บัตรมาแล้ว เจ้าหน้าที่ก็พาเด็กใหม่ทุกคนไปที่ห้องหมายเลข 2 เพื่อบรรยายทุกอย่างเกี่ยวกับโรงเรียน ทั้งในเรื่องของการเรียนการสอน คอร์สเรียน ข้อควรและไม่ควรปฏิบัติ ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเมืองแมนเชสเตอร์ และอีกมากมาย ทุกอย่างที่เจ้าหน้าที่บรรยาย ล้วนมีประโยชน์กับนักเรียนทุกคนมากๆ ค่ะ แล้วก่อนจะพักทานข้าวกลางวัน ก็มีการวัดระดับในเรื่องของการเขียนค่ะ เป็นการเขียนสั้นๆ ใช้เวลา 15 นาที มีคำถามมาให้ 4 คำถาม ให้เราเลือกว่าเราอยากเขียนอันไหน ซึ่งถ้ายากเกินไปทุกคำถาม ก็ให้เขียนแนะนำตัวเองค่ะ ซึ่งพอเสร็จซาร่าก็จะมาเก็บกระดาษไปและปล่อยให้ทุกคนไปพักทานอาหารกลางวัน แล้วกลับมาเจอกันอีกทีตอน 12.50 น. โอเค ได้ฟังแบบนี้แล้วก็รีบไปทานข้าวเลยค่ะ เพราะมีเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง แต่ก่อนทานข้าวก็นึกขึ้นมาได้ว่าพี่เอินให้ไปเอาบัตร BRP ก่อน ซึ่งสถานที่ที่ต้องไปเอาก็อยู่ใกล้โรงเรียนมากๆ สะดวกสุดๆ พอเสร็จธุระเรื่องบัตร BRP เรียบร้อยก็ได้เวลาอาหารกลางวันแล้วค่ะ สำหรับมื้อกลางวันมื้อแรกที่เมืองแมนเชสเตอร์นั้น เราทานแฮมเบอร์เกอร์ค่ะ ใหญมากกกกกกก!!! ขอย้ำว่าใหญ่มากๆ ค่ะ แต่ด้วยความที่หิวก็กินจนหมดอยู่ดี ฮ่าๆ อิ่มจนพุงแทบแตก แต่จ่ายไปแค่ 2.7 ปอนด์ แต่น่าจะได้แคลลอรี่มาประมาณ 500 แคลค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ พอกินเสร็จก็เกือบจะหมดเวลาพักแล้ว เลยรีบเดินกลับไปที่โรงเรียน ทันเวลาพอดีอีกตามเคย ยืนคุยกับเพื่อนชาวบราซิลได้ไม่นาน ซาร่าก็เดินมาบอกค่ะว่าเราต้องไปเรียนห้องไหน วิชาอะไร ซึ่งการเรียนตอน 13.00-14.30 น. นี้จะเป็น special focus class ค่ะ ซึ่งเอาไว้สำหรับนักเรียน Intensive Course ว่าอยากได้ทักษะเพิ่มเติมอะไร ทางโรงเรียนก็จะจับเราไปอยู่ในคลาสนั้น อย่างเช่น เราอยากพูดเก่งๆ ซาร่าเลยให้เราไปเรียนคลาส get talking ค่ะ ทีนี้ ก็ถึงเวลาเริ่มเรียนกันแล้ว ลุยยยย!! อ้อ ลืมบอกไปค่ะ special focus class จะต้องเรียนทุกวันนะคะ พูดไม่เก่งให้มันรู้ไป หึหึ คลาสนี้จะเป็นคลาสที่เก้าอี้ในห้องเรียนจะเป็นแบบมีล้อเลื่อนเพื่อให้นักเรียนขยับทำกิจกรรมได้สะดวก เพราะอาจารย์จะคอยให้เปลี่ยนกลุ่มและเปลี่ยนคู่ตลอด เพราะไม่อยากให้เด็กเบื่อ และอยากให้เด็กได้คุยกันทุกคนค่ะ ซึ่งสำหรับวันแรกของเราในคลาสนี้ สนุกค่ะ ได้พูดเยอะจริงๆ ด้วย โม้กันแหลกไปเลยค่ะ ฮ่าๆๆๆ

พอจบคลาสก็จะได้เบรค 15 นาทีค่ะ แล้วหลังจากนั้นก็เป็นกิจกรรม coffee & chat ซึ่งจะมีทุกวันจันทร์เวลา 14.45 – 15.45 น. ค่ะ ซึ่งกิจกรรมนี้จะบังคับให้เด็กใหม่ทุกคนเข้านะคะ ส่วนเด็กเก่า ใครสนใจก็แค่ไปลงชื่อแล้วเข้าร่วมได้เลยค่ะ ในส่วนของกิจกรรมนี้ ก็เป็นการพูดคุยแนะนำตัวเองค่ะ ว่าชื่ออะไร มาจากประเทศไหน จะมาอยู่นานเท่าไหร่ ชอบทีนี้มั้ย ประทับใจอะไรบ้าง แล้วหลังจากนั้นก็มีเกมส์เล็กๆ ให้เราเล่นกันค่ะ ซึ่งคนที่ชนะจะได้ตั๋วเพื่อไปจับรางวัลในวันศุกร์ แต่สำหรับเกมส์นี้เราไม่ชนะค่ะ แงๆๆๆๆ พอจบเกมส์ก็มีคุ้กกี้และกาแฟมาเสิร์ฟ ใครอยากทานก็ไปหยิบได้ตามอัธยาศัย เราเป็นคนที่ไม่กินกาแฟค่ะ เลยหยิบมาแค่คุ้กกี้ อร่อย อิอิ พอทานกันเสร็จแล้ว ซาร่าก็เดินมาหาทุกคนพร้อมหนังสือและบอกว่าเราได้อยู่เลเวลไหน เพื่อนบราซิลเราได้อยู่ advanced ค่ะ คือสูงสุดแล้ว เก่งมาก ปรบมือรัวๆเลยค่ะ ส่วนเรากับเพื่อนเกาหลีได้อยู่ upper intermediate ค่ะ ซึ่งเป็นเลเวลก่อน advanced พอได้หนังสือกันเรียบร้อยแล้ว ก็แยกย้ายกันกลับที่พักของตัวเองค่ะ สำหรับวันแรก ใช้เวลาทั้งวันเลย แต่ไม่น่าเบื่อเลยนะคะ สนุกมากๆ รู้สึกว่าทุกคนเป็นมิตร ยิ้มง่าย คุยง่าย เป็นกันเองมากๆค่ะ เอาใจไปเล้ยยยยยย! <3

3. First day in classes

มาต่อกันในการมาโรงเรียนวันที่สอง แต่เป็นวันแรกสำหรับคลาสนี้ คลาสวันอังคารกับวันพฤหัสบดีจะเป็นคลาสที่ไม่ได้เรียนในหนังสือค่ะ แต่จะเน้นทักษะด้านอื่น ไม่ว่าจะเป็น ฟัง พูด อ่าน หรือเขียน แล้วแต่ว่าวันนี้คุณครูจะสอนอะไร ซึ่งคลาสนี้จะเรียนในห้องที่เป็นโต๊ะตัวยูค่ะ คุณครูจะได้เดินดูเด็กทุกคนได้แบบสะดวก และเด็กก็จะเห็นหน้าและพูดคุยกันได้ค่ะ ในห้องเรามีนักเรียนทั้งหมด 9 คนค่ะ ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป กำลังดีเลย เราค่อนข้างเอ็นจอยกับคลาสที่เราเรียนนะคะ คุณครูน่ารักด้วย สอนดีเลย กิจกรรมก็ไม่น่าเบื่อแถมยังได้ความรู้ เด็กแต่ละคนจะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันตลอดเวลา ซึ่งสำหรับเรา 3 ชั่วโมงในการเรียนคลาสนี้ ได้ความรู้แถมไม่น่าเบื่อค่ะ

เอาล่ะ มาต่อกันในการมาเรียนวันที่ 3 มีคลาสสำหรับฝึกทักษะกันไปแล้ว ก็ต้องมีคลาสสำหรับไวยากรณ์ ซึ่งคลาสนี้ จะมีวันจันทร์ พุธ และศุกร์ค่ะ ซึ่งจะเป็นคุณครูอีกท่านหนึ่ง นักเรียนทุกคนต้องนำหนังสือมาเรียนในวันเหล่านี้ค่ะ ซึ่งจะเป็นการเรียนการสอนเกี่ยวกับหลักไวยากรณ์ แต่ก็ไม่ใช่แค่สอนๆแล้วให้เราจดๆ นะคะ ก็จะมีกิจกรรมให้ทำควบไปด้วย พร้อมทั้งแบบฝึกหัดเพื่อเช็คว่าเราเข้าใจถูกไหม แล้ววันนี้ ก็โป๊ะเช๊ะมากค่ะ เป็นวันแรกของเราในคลาสนี้ และดั๊นนนนนมาตรงกับวันที่ต้องไปทำแบบฝึกหัดที่ห้องคอมพิวเตอร์ค่ะ เรียนกันไปได้หนึ่งชมก็ย้ายไปที่ห้องคอมพิวเตอร์ค่ะ สำหรับทุกวันพุธ นักเรียนทุกคนจะต้องมาทำแบบฝึกหัดในเว็บไซต์ค่ะ ซึ่งทำในแอคเค้าท์ของตัวเอง แล้วส่งให้คุณครูตรวจเป็นการส่วนตัว ทันสมัยป่ะล่าาาา ชอบมากค่ะ เพราะที่ไทยไม่ค่อยจะมีอะไรแบบนี้เท่าไหร่ ฮ่าๆๆๆ พอหลังจากเสร็จแบบฝึกหัด ก็จะมีเบรค 15 นาทีก่อนไปลุยเนื้อหาในหนังสือกันต่อ สำหรับคลาสนี้ ก็ใช้เวลา 3 ชั่วโมงเหมือนเดิมค่ะ แต่รู้สึกเวลาผ่านไปเร็วมาก เพราะไม่น่าเบื่อเลย แถมก่อนเลิกเรียน คุณครูก็มีเกมส์ให้เล่นเพื่อเช็คความเข้าใจสิ่งที่เรียนไป ใครชนะ ก็จะได้ตั๋วไปชิงโชคเหมือนเดิม ซึ่งคราวนี้ เราชนะค่ะ เยยยยย้ ปรบมือรัวๆ ฮ่าๆๆ 😛

วันแรกของเราก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ ยังจำได้ทุกๆความรู้สึกเลย ทั้งตื่นเต้นและสนุก และที่สำคัญ อากาศข้างนอกหนาวมากค่ะ ปากสั่นกันเลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆ สำหรับวันนี้คงต้องขอจบไว้เท่านี้ก่อนนะคะ ต้องรีบไปทำการบ้านแล้วค่ะ เดี๋ยวโดนพี่เอินดุ แงงงๆ เดี๋ยวบล็อคหน้าจะมาเล่ารายละเอียดของคอร์สที่เราเรียน และโรงเรียนของเราให้ฟังนะคะ ใครสนใจก็รอติดตามได้เลยค่ะ แต่ตอนนี้ต้องรีบไปทำการบ้านแล้วล่ะค่ะ เดี๋ยวไม่เสร็จ เจอกันบล็อคหน้านะคะ บ๊ายบายยยยยยยยยยยยยยย xoxo

มาดูวิดีโอพาทัวร์โรงเรียน EC Manchester ของน้องพร้างเพชรกันเลย