เค้าว่ากันว่าคนสก็อตแลนด์พูดอะไรก็ฟังยาก แถมประเทศมีก็แต่แกะ แล้วทำไมน่าไปเรียน?

เราขอเป็นตัวแทนเสียงเล็กๆ จากนักเรียนเก่าสก็อตแลนด์คนนึง ที่อยากบอกว่าประเทศนี้มีเสน่ห์มากแค่ไหน 

ตั้งแต่ตัดสินใจว่าเราอยากไปเรียนต่อที่สหราชอาณาจักร มันก็มีหลากหลายเหตุผลให้เราเลือกมหาวิทยาลัยที่มีเยอะแยะเหลือเกิน…หาข้อมูลไปเรื่อยๆ จนเจอว่า สก็อตแลนด์เป็นประเทศเล็กๆ แต่มีอำนาจทางการศึกษา จนหลายประเทศทั่วโลกนำไปเป็นต้นแบบ! นอกจากรากฐานโครงสร้างการศึกษาที่แข็งแรงแล้วนั้น คุณภาพงานวิจัยก็ไม่เคยล้าสมัย ไม่ใช่การตอบโจทย์ความต้องการของคนในขณะนั้น แต่เป็นการมองความต้องการในอนาตคของคนในแต่ละยุคแต่ละสมัย มีสาขาวิชาที่ครอบคลุมทุกความต้องการ และไม่หยุดที่จะพัฒนาหลักสูตรใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลาอีกด้วย.. ยังมีงานวิจัย, สิ่งประดิษฐ์, รวมไปถึงทฤษฎีจากหลากหลายสาขาวิชา แถมมีตำนานเจ้าของทฤษฎีต่างๆ มากมายที่จบมาจากสก็อตแลนด์!! เช่น Adam Smith ตำนาน Supply/Demand ของเด็กเรียน Business อย่างเราๆ, แถมเจ้าชายวิลล์เลี่ยมยังเลือก University of St. Andrews หนึ่งในมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดของสหราชอาณาจักร ซึ่งอยู่ในสก็อตแลนด์อีก!! ที่สำคัญ คุณแม่ J.K. Rolling ของเรา ยังได้แรงบันดาลใจและเริ่มเขียน Harry Potter มาจากเมืองมรดกโลกอย่าง Edinburgh อี๊ก!!! นี่กี่พีคแล้วคะ!.. มันมีอะไรดีนักนะประเทศนี้ หาข้อมูลไปเรื่อยๆ มารู้ตัวอีกทีก็หลงชอบประเทศเล็กๆ ที่มีข้อมูลมากมายมาให้เราทึ่งได้เรื่อยๆ จึงมั่นใจแล้วว่าประเทศนี้มันไม่ได้มีแค่แกะนี่นา งั้นเอาละ ฉันจะไปดูด้วยตา ฉันจะไปเรียนสก็อตแลนด์!

วันนี้เราขอแนะนำเป็นบางเมืองที่น่าสนใจ เรียนต่อสก็อตแลนด์ แล้วกันนะคะ เพราะถ้าให้เราบรรยายทั้งหมด วันนี้เราคงต้องอ่านกันถึงเช้าหรือบ่ายของอีกวัน

เริ่มกันที่เมืองหลวงของประเทศสก็อตแลนด์อย่าง Edinburgh ที่ขึ้นเป็นเมืองมรดกโลก ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่น่าอยู่ ปลอดภัย และความสวยงาม (ขอแอบเติมคำว่า อลังการ!!! เข้าไปตามประสบการณ์ของเราเองนะ) ทุกอย่างที่พูดมามันคือการจัดอันดับระดับโลก ที่ทุกๆ ปี Edinburgh ไม่เคยหลุดไปจากโพลล์เลยสักครั้ง แหม่ คุณสมบัติขนาด world class แบบนี้ ยังมีความพีคต่อเนื่องไปอีกค่า.. ในทุกๆ ปี ช่วงเดือนสิงหาคม จะมีการจัดเทศกาล “Edinburgh Festival Fringe” เทศกาลนี้จะเป็นการจัดการแสดงทั้งศิลปะ ร้านค้า รวมไปถึง Military Tattoo (การเดินสวนสนามของทหารจากสหราชอาณาจักรและต่างประเทศ) ที่เปลี่ยนทั้งเมืองให้มีสีสันตลอดเดือน

 

Glasgow เมืองเศรษฐกิจอันดับ 3 ของสหราชอาณาจักร และอันดับ 1 ของสก็อตแลนด์ ทั้งการเงิน การค้า การลงทุน และยังเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของยุโรป ที่ผสมผสานระหว่างความหลากหลายทางวัฒนธรรม และโลกปัจจุบันได้อย่างลงตัว Glasgow ถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ไม่แพ้เมืองไหนแน่นอนค่ะ ปล. ตัวโตๆ ขาช๊อปอย่างเราๆ อย่าพลาดค่ะ มีทุกอย่างที่คุณต้องการ ตั้งแต่ของที่ระลึกไปจนถึงของแบรนด์เนม (ที่เราเอื้อมไม่ถึง..เฮ้ออ ถอนหายใจแปปนึง แล้วไปเมืองถัดไปค่ะ!)

 

Stirling เมืองหลวงเก่าของประเทศสก็อตแลนด์ ที่มีปราสาท Stirling ปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในสก็อตแลนด์ และอนุเสาวรีย์ Wallace เป็นไฮไลท์ของเมือง (ใครดูหนังเรื่อง Brave Heart มาบ้างคะ? นั่นละค่ะ ดินแดนนักรบ และเมืองแห่งประวัติศาสตร์) Stirling ได้รับการขนานนามว่า “Heart of Scotland” และ “Ideal City” มีความสงบ ปลอดภัย วิวทิวทัศน์ที่ทำให้คุณหลงไปกับธรรมชาติ และยังสามารถหาทุกอย่างที่คุณต้องการได้อย่างไม่น่าเชื่อ  Stirling เป็นเมืองขนาดเล็กที่สามารถเดินทางไปยัง Glasgow และ Edinburgh ภายในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง

 

Aberdeen เมืองท่าที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมพลังงานของยุโรป Aberdeen ถูกเรียกว่าเมืองสีเทา เนื่องมาจากตึกส่วนใหญ่ถูกสร้างมาจากหินแกรนิตที่อาจจะทำให้เมืองดูเหมือนหมอก แต่กลับมีเสน่ห์อย่างน่าหลงไหลเมื่อแสงแดดส่องกระทบ ทำให้เหมือนมีกากเพชรระยิบระยับไปทั้งเมืองกันเลยทีเดียว และถ้าใครมีโอกาสไปเที่ยว แนะนำว่าอย่าลืมไปดูปลาโลมาค่ะ!!! อยู่ๆ ก็เห็น อยู่ๆ ก็เจอ เก๋ไก๋มากก ยังมีหมู่บ้านชาวประมง ที่พอเดินเข้าไป รับรองได้ว่าบ้านหลังเล็กๆ สีสันแปลกตา บวกกับดอกไม้และกลิ่นไอทะเลจะทำให้คุณหลงเสน่ห์อย่างไม่รู้ตัว 

 

อีกสักเมือง อย่าง Dundee เมืองนี้จะไปเมืองไหนๆ ในสก็อตแลนด์ก็แสนจะสะดวกสบาย ก็แหม่ อยู่ตรงกลางของทุกอย่างซะแบบนั้นเนอะ ทั้ง Glasgow, Edinburgh, หรือ Aberdeen ก็นั่งรถไฟแค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้น ทั้งยังขึ้นชื่อในเรื่องของเมืองน่าอยู่ น่าทำงาน น่าเรียน  ถ้าเราเห็น Aberdeen เป็นเมืองสีเทา, เห็น Edinburgh เป็นเมืองสีน้ำตาล, เราจะเห็น Dundee เป็นเมืองสีขาวกันแหละ สวยยยย..  (แอบบอกว่า ร้านอาหารสเปนที่นี่อร่อยมากกกก ขึ้นชื่อสุดๆ ใครไปห้ามพลาด!)

 

สก็อตแลนด์ ดินแดนที่เรียกได้ว่ามีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร แต่ก็มีความกลมกลืนไปกับโลกสมัยใหม่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ข้อมูลคร่าวๆ นี้ น่าจะตอบโจทย์หลายๆ คนได้แล้ว ว่าทำไมต้องเรียนที่สก็อตแลนด์   Hands On ในฐานะตัวแทนมหาวิทยาลัยทั้งในสก็อตแลนด์  ขอยกตัวอย่างบางมหาวิทยาลัยในสก็อตแลนด์พอเป็นไอเดียให้คนที่สนใจไปเรียนต่อ เผื่อเป็นตัวเลือกแล้วกันนะคะ

 

University of Edinburgh ที่เป็นมหาวิทยาลัย 1 ใน 6 มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในสหราชอาณาจักร มีชื่อเสียงในหลากหลายสาขาวิชา เช่น Business, Engineering, Human Resources และ Law มหาวิทยาลัยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วทั้งหลักสูตรโครงสร้างการศึกษา รวมถึงคุณภาพคับแก้วของงานวิจัย โดยได้รับการสนับสนุนทั้งทางภาครัฐและเอกชน ทำให้ University of Edinburgh เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกได้อย่างไม่มีข้อสงสัย

 

University of Stirling ที่โด่งดังด้าน Business โดยเฉพาะสาขา Retail Management หรือหลักสูตร Aquaculture ที่สองสาขานี้ถือว่าหาได้น้อยนักในสหราชอาณาจักร และยังเป็นที่หนึ่งด้าน Spot Management ทั้งโครงสร้างหลักสูตร ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกที่ล้ำสมัย (National Sport Centre) ความหลากหลายทางด้านหลักสูตรวิชา ทำให้ University of Stirling ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม แถมให้อีกนิดกับการขนานนามว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในแถบยุโรป

 

University of Dundee มหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่หนึ่งในเมืองแห่งการศึกษาของสก็อตแลนด์ และยังเป็นมหาวิทยาลัยที่แยกตัวออกมาจาก University of St. Andrew มหาวิทยาลัยในตำนานอีกด้วย เพราะฉะนั้นมั่นใจได้เลยกับคุณภาพของการศึกษารวมไปถึงงานวิจัย มหาวิทยาลัยมีวิศัยทัศน์ที่น่าสนใจอย่าง Transform Vision เพื่อพัฒนาศักยาภาพของนักศึกษาอีกด้วย

 

น้องๆ คนไหนสนใจ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมด้านการเรียนต่อที่สก็อตแลนด์และประเทศในเครือสหราชอาณาจักร ได้ที่ Hands On ทุกสาขาโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นค่ะ