Hands On Education Consultants

The UK is calling me


ก่อนออกเดินทาง

สวัสดีค่า…บี๋นะคะ (กลับมาเเล้วจ้าาาาาาา ><)

หลังจากที่เรามีแผนการไปเรียนต่อที่เเน่นอนเเล้ว เราก็ทำการหาข้อมูลเรื่องที่เรียนทันที เราตัดสินใจมาเรียนภาษาที่ Hilderstone College โดยเลือกลงคอร์ส Pre-university and IELTS เป็นระยะเวลา 6 เดือน (ลงเรียนครึ่งปี ถ้าภาษาอังกฤษไม่พัฒนาให้มันรู้ไป!) จริงๆ เรื่องการหาข้อมูลของโรงเรียนภาษา เราก็หาจากเว็บไซต์ หาข้อมูลเปรียบเทียบการเรียน ตารางเรียน ราคา (อันนี้สำคัญสุด หุหุ) และหาข้อมูลจาก คนรอบข้างที่เคยไปเรียนภาษามาแล้วเปรียบเทียบแต่ละที่ จนในที่สุดก็ตัดสินใจเลือกที่นี่ โดยตลอดเวลาที่เราเรียนที่นี่เราต้องอาศัยอยู่กับ Host Family เมื่อตัดสินใจได้เเล้วก็เข้าสู่ช่วงของการสมัครเรียน การกรอกข้อมูลเอกสาร การเตรียมเอกสาร เเละ การทำวีซ่าก็มาถึง ซึ่งตลอดการทำเอกสารในครั้งนี้เราได้พี่ๆ ที่ Hands on ช่วยตรวจข้อมูลเเละเช็คเอกสารตลอดจนเสร็จสิ้นเพราะตัวเอกสารนั้นมีค่อนข้าง เยอะและมีรายละเอียดที่ซับซ้อน แต่ทั้งหมดก็ผ่านไปได้ด้วยดี ยื่นเอกสารไปเเล้วก็รอผลตอบรับวีซ่า ช่วงรอผลวีซ่าออกตอนนั้น ก็ร้อนรนอยู่ไม่สุขกันตามระเบียบ แต่ผลที่ออกมาก็คุ้มค่าที่รอคอย วีซ่าผ่านเเล้วจ้าาาา ยิปปี้!

>////_////< และแล้ว…..ก็มาถึงขั้นตอนของการเตรียมตัวไปเรียนต่อ (มาซะที เรื่องการเตรียมตัว~~)

ช่วงที่เราไปเรียนภาษาคือช่วง กรกฎาคม-ธันวาคม โดยตอนที่ไปถึงช่วงแรกจะตรงกับ Summer ของที่นี่พอดี แต่ก็อย่าได้ใจไปนะคะ ถึงจะเป็นหน้าร้อนของที่นี่เเต่อากาศที่ประเทศอังกฤษก็เป็นอะไรที่เอาเเน่ เอานอนไม่ได้ (ไม่ได้จริงๆ น้ำเสียงหนักแน่น!) ฉะนั้น!!….เสื้อคลุมหรือเสื้อกันหนาวก็ควรพกติดตัวมาก่อนดีที่สุด ของใช้อุปกรณ์ต่างๆ เสื้อผ้าก็เตรียมมาสำหรับพอใช้ได้ในช่วง 1-2อาทิตย์เเรก ของที่จำเป็นต้องใช้ก็จดลงใส่กระดาษทำเป็นรายการๆ ไว้เลย ที่สำคัญ! ถ้ามีโรคประจำตัวอะไรก็พกยาไปด้วยเพราะที่อังกฤษยาไม่ได้หาซื้อง่ายเหมือน ที่ไทยนะเออ จะเดินดุ่มๆ ไปซื้อ ถ้าไม่มีใบสั่งยาเค้าไม่ขายให้นะคะ แต่ก่อนจะขนอะไรไปมากมายก็ต้องดูด้วยน๊าาาา ว่าสายการบินที่เราขึ้นเค้าจำกัดน้ำหนักกระเป๋าได้มากสุดเท่าไหร่ ซึ่งก่อนเดินทางหนึ่งวันเป็นอะไรที่ตื่นเต้นมากก เรานี่เช็คของเเล้วเช็คอีก เอกสารที่ต้องยื่นกับ ตม. (ตรวจคนเข้าเมือง) ก็แยกออกมาให้หยิบได้ง่ายๆ เช็ค Passport เอกสาร ก่อนเข้านอน ก็สวดมนต์ขอให้ไม่โดน ตม. ส่งกลับ ขอให้คุยกับเค้ารู้เรื่อง คาถงคาถาอะไรตอนนั้นก็สวดเอาฤกษ์เอาชัยไว้ก่อน หึหึหึ


สหราชอาณาจักร First time

หลังจากนั่งๆ หลับๆ บนเครื่องบินมาเกือบ 12 ชั่วโมง ในที่สุดก็ถึงเเล้วววว v(^O^)v ฮูเร่~~ ก่อนไปเราก็เช็คอากาศช่วงนั้นมาเรียบร้อย…เห็นเค้าบอกว่าร้อนมาก แต่พอวันที่เราไปถึงเท่านั้นหล่ะ ภูมิอากาศอยู่ที่ 13 องศาจ้า ควักเสื้อกันหนาวออกมาใส่แทบไม่ทัน หนาวสั่นมาก (จริงๆ ก็ไม่ค่อยเเน่ใจว่าหนาวอากาศ หรือ กลัว ตม.กันแน่ 555) ต่อแถวรอเข้าเมืองกันไปเป็นชั่วโมงเพราะวันที่เราไปถึงคนเยอะมาก เจ้าหน้าที่ก็เลยถามไม่เยอะมาก บนสนทนาในหัวที่เตรียมท่องมาบนเครื่องได้ใช้ไม่ถึง 10% (ตอนสอบที่มหาลัยเรายังไม่ตั้งใจท่องขนาดนี้เลยนะ พูดเล่นๆ) พอผ่านต่อมาได้ก็ไปรับกระเป๋าเเละหาคนที่มารับเราที่สถามบินไปส่งที่บ้านโฮส

จากสนามบินเดินทางไปเมืองที่เราอยู่ ใช้เวลา 2 ชั่วโมง ระหว่างนั้นก็หัดพูดกับคนมารับ ฝึกหูให้ชินไปก่อน ผลคือ แทบจะฟังอะไรไม่ออกเลยยยจ้าาาาา หดหู่กับ Skills ภาษาตัวเองไปพอสมควรเเละแล้วก็มาถึงบ้านพักของเรา โฮสของเราเป็นสาวโสด อายุ 65 ปี ไปถึงปุ๊บเค้าก็เดินออกมารับเราที่หน้าบ้าน พาเราไปดูห้องแล้วก็ให้เราเก็บของ เราไปถึงก็สักประมาณบ่ายโมงกว่า เก็บของได้สักพักเราก็ลงไปทานข้าว ตอนทานข้าวเที่ยงโฮสก็จะแนะนำตัวเอง แนะนำว่าอะไรเป็นอะไรในบ้าน หลังจากนั้นเค้าก็ให้แผนที่สำหรับไปที่ College ว่าเเล้วก็ทดลองเส้นทางกันเลยหลังทานข้าว เดินออกไปด้วยความมุ่งมั่นและความมั่นใจอันเต็มเปรี่ยม (ดูยิ่งใหญ่สุดๆ) ผลคือเดินสำรวจได้ 5 นาที ฝนตกจ้าาาาา =___= สมเป็นประเทศอังกฤษจริงจริง ชีวิตดี๊ดี~~ เป็นอันว่าแผนการสำรวจเส้นทางของเราต้องยกเลิกกันไป….เราเลยตัดสินใจกลับ บ้าน แต่เท่าที่ดูจากในแผนที่ ที่เรียนของเราอยู่ไม่ไกลจากบ้านมาก แล้วจากที่เรียนเราก็สามารถเดินไปชายหาดได้ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ลืมบอกไปเลยว่า…เมืองที่เราเรียน เป็นเมืองติดชายทะเล โอ้โห….ชีวิตชิคๆ มั้ยล่ะ หลังจากตัดสินใจกลับมาบ้านเสร็จเราก็ลงมือจัดของ เอาเสื้อผ้า ของใช้ ออกมาจากกระเป๋า จำได้เลยว่าเราง่วงสุดๆ ซึ่งอาการดังกล่าวเป็นผลมาจากที่ร่างกายเรายังปรับเวลาไม่ได้ (Jet Lag นั่นเอง) หลังจากเก็บไปได้สักพัก โฮสก็เรียกเราไปทานข้าวเย็น พอทานเสร็จเราก็เข้านอนเลยเตรียมตัวสำหรับการเรียนพรุ่งนี้


College First day

ในตารางนัดหมายเราต้องมาถึงที่เรียนก่อน 8:30 พอเรามาถึง ก็มีคนมานั่งอยู่เเล้ว 4-5 คน ทางพนักงานของที่เรียนก็เอาเอกสารมาให้เซ็นพร้อมให้แฟ้มมา 1 อัน เเล้วให้เราไปนั่ง พอเราได้แฟ้มเสร็จก็ไปนั่ง คนที่นั่งข้างเราเป็นคนสเปน กับ โปรตุเกต ก็แนะนำตัวกันไป นั่งรอจนถึง 9:00 โมง ก็ย้ายไปห้องประชุม (ความรู้สึกเหมือนปฐมนิเทศวันแรกประมาณนั้น) ทางที่เรียนก็จะเเนะนำเรื่องตารางเรียน ห้องเรียน กิจกรรมหลังเลิกเรียน ซึ่งคอร์สที่เราลงเรียนจะไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมช่วงบ่ายแบบคนอื่น แต่ทุกวันเสาร์ทางที่เรียนจะมีทริปไปเที่ยวที่ต่างๆ ถ้าเราสนใจก็ไปลงชื่อไว้ได้ บางวันหลังจากเลิกเรียนจะมีกิจกรรมพิเศษเช่น เล่นกีฬา ร้องคาราโอเกะ ซ้อมเต้น (น่าตื่นเต้นสุดๆ ^o^)

สำหรับเรา เราว่าเราโชคดีมากที่ตัดสินใจมาเรียนภาษาก่อน เเละก็เลือกมาเรียนที่ College นี้ เพราะว่าที่นี่เป็นที่เรียนภาษาโดยเฉพาะ ทำให้มีคนจากหลายประเทศมาที่นี่ ทั้งคนยุโรป คนเอเชีย ทุกคนไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษมาตั้งแต่แรก แต่ทุกคนก็พยายามจะสื่อสาร ข้อดีของการมาเรียนในที่ที่มีคนหลายเชื่อชาติ คือ เราจะได้ฝึกประสาทหูให้เเข็งเเกร่งขึ้น เพราะสำเนียงของคนเเต่ละชาติเนี่ยบอกได้เลยว่าคัดมาเเล้ว (คัดความยากมาเเล้ว หึหึหึ )ช่วงบ่ายทางที่เรียนก็จะพาเราไปเดินทัวร์รอบเมือง แนะนำสถานที่สำคัญ ที่ซื้อของ ร้านอาหารขึ้นชื่อ เป็นอันเสร็จสิ้น 1 วัน สำหรับเราวันแรกของที่เรียนเป็นวันที่ยาวนานมากก เราได้รู้จักเพื่อนหลายชาติมาก ส่วนมากเป็นคนสเปน กับอิตาลีนับว่าเป็นการเริ่มต้นวันแรกทีดีเชียวล่ะ

เขียนโดย น้องบี่บี๋, Hilderstone College, Kent

ติดตามเรื่องราวของน้องบี่บี๋ได้ในตอนต่อไป >>