สวัสดีครับเพื่อนๆ หวังว่าคงจำผมกันได้นะครับ สำหรับบล็อคนี้ผมอยากเอาสาระความรู้ที่ตัวผมเองนั้นได้ไปเจอมาด้วยตัวเองมา ฝากเพื่อนๆ กันครับ ซึ่งสาเหตุนั้นเกิดจากการที่ตัวผมเองนั้นไม่สบาย จึงจำเป็นที่จะต้องไปหาคุณหมอแต่ผมมาเรียนแค่ภาษาอังกฤษ ไม่ได้เป็นเด็กมหาวิทยาลัย และไม่ได้ลงทะเบียนกับ NHS ที่จะสามารถรักษาได้ฟรีที่ medical centre ด้วยทั้งหมดทั้งมวลนี้ตอนแรกผมก็รู้สึกกังวลมาก ว่าถ้าไปหาหมอค่าใช้จ่ายจะสูงแค่ไหน ต้องดำเนินการอย่างไร เพราะภาษาอังกฤษสำหรับผมก็ว่ายากแล้ว แล้วนี่ต้องคุยภาษาแพทย์จะไหวหรอ?? ตอนนั้นคิดแล้วก็กลุ้มแต่ก็อยากไปหาเพราะป่วยมาหลายวัน จึงตัดสินใจไปที่ medical centre ใน UEA เป็นอันดับแรกเลยครับ ซึ่งพอไปถึงปุ๊บยังไม่ทันจะเอื้อนเอ่ยอาการอะไรเลยครับ คำถามแรกที่ยิงมาคือ คุณได้นัดไว้รึเปล่า? ถ้าไม่ได้นัดเข้าพบคุณหมอไม่ได้นะคะ วันนี้คิวเต็มแล้วค่ะ เอ่ออออ…. ผมก็ออดอ้อนอยู่นานว่าผมเหมือนจะอาการหนักอย่างโน้นอย่างนี้ แต่ก็ไม่ได้ผลครับ เพราะคิวนัดที่เร็วที่สุดที่จองได้คืออีก 2 อาทิตย์ข้างหน้า ดังนั้นทำอะไรไม่ได้เลยครับ นอกจากต้องรออีกสองอาทิตย์ถึงจะได้เจอคุณหมอ ตอนนั้นผมนี้อยากจะจองตั๋วเครื่องบินกลับบ้านเลยครับ เพราะคงจะเร็วกว่ามากแน่ๆ ครับ
ผมจึงถามเค้าไปว่ามีที่ไหนที่สามารถพบคุณหมอได้เลยบ้าง เค้าจึงแนะนำที่ๆ หนึ่งมาครับ คือ Norwich Practices Health Centre ซึ่งมีทั้งแบบ appointment และแบบ walk-in เข้าไปได้เลย ซึ่งก็เป็นของรัฐบาล ถ้าใครมี NHS ก็สามารถมาใช้สิทธิ์ได้เลยครับ ส่วนใครที่ไม่มีแบบผมนั้น ก็ไปรักษาได้ครับแต่ก็ต้องออกค่าใช้จ่ายเอง หรือใครที่อยากจะสมัครเพื่อเอาไว้ใช้สิทธิ์ที่นี่เค้าก็รับลงทะเบียนให้ด้วย ครับ
ซึ่งที่นี่นะครับ ก็จะเปิด 7 วันเลยครับ แต่ที่นี่เค้าก็จะรักษาแค่โรคทั่วๆ ไปที่ไม่ร้ายแรงมากนะครับ อย่างเช่น ไข้หวัด ไอ ปวดท้อง ท้องเสีย หรือเช็คความดัน ซึ่งที่นี่ที่ผมเข้าไปจะเห็นเด็กๆ ค่อนข้างเยอะครับที่มาหาคุณหมอกัน ใครที่ walk-in มาก็รอตามคิวเหมือนโรงพยาบาลรัฐบาลที่บ้านเรากันเลยครับ ส่วนใครที่นัดไว้แล้วก็อาจจะได้คิวที่เร็วกว่า อ่อ ผมลืมบอกไปอีกเรื่องคือ การมาหาคุณหมอที่นี่ ถ้าใครกลัวว่าจะคุยไม่รู้เรื่อง บอกอาการผิดๆ ถูกๆ ก็สามารถบอกกับเค้าว่าต้องการล่ามได้นะครับ เพราะว่าเค้าจะมีตัวช่วยคือโทรศัพท์หาล่ามที่แปลภาษาให้กับเราโดยตรง เพราะคำถามที่คุณหมอถามจะเป็นคำศัพท์ทางการแพทย์หมดเลยครับ คุณหมอจะได้วินิจฉัยโรคถูก เพราะการสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เลยครับ ซึ่งหลังจากที่คุณหมอตรวจและวินิจฉัยโรคแล้วก็จะเขียนใบสั่งยาให้เรานำไป ซื้อได้ที่ร้านขายยาที่ Boots ซึ่งมีอยู่หลายแห่งเลยครับ โดยเดินไปที่เค้าเขียนว่า Prescriptions ซึ่งจะมีอยู่ในตัว boots แทบทุกที่เลยครับ ก็เอาใบสั่งยาที่คุณหมอให้มายื่นให้เภสัชกร แล้วเค้าก็จะจ่ายยาตามที่คุณหมอสั่งให้เราอีกทีครับ ไม่ได้ยากอย่างที่คิดไว้เลยครับ
การหาหมอที่นี่นั้นต่างจากบ้านเราเยอะมากครับ เพราะเค้าเหมือนจะแบ่งเบาทางโรงพยาบาลให้คนที่ไม่ได้เจ็บป่วยอาการหนักถึง ขั้นฉุกเฉินมาหาหมอตาม medical centre ครับ เพราะโรงพยาบาลจะมีไว้สำหรับพวกที่อาการหนักๆ เท่านั้น แบบถึงขั้นเรียนรถฉุกเฉินเลยก็ว่าได้ครับ ส่วนค่าใช้จ่ายในการหาหมอเพื่อวินิจฉัยโรคนั้น เราไม่เสียอะไรเลยสักบาทเลยครับ แต่กรณีของผมจะเสียค่ายาเอง ซึ่งนั้นก็แล้วแต่ราคาของยาครับ ซึ่งก็ไม่ได้แพงอะไรเลยครับ ถือว่าดีมากๆ เลยสำหรับผม ด้วยเหตุนี้ผมจึงอยากเขียนบล็อคนี้ขึ้นมาไว้เป็นความรู้หรือแนวทางให้กับ เพื่อนๆ ครับ เพราะเรามาเรียนต่างบ้านต่างเมืองนั้น ย่อมจะเจ็บป่วยได้ง่ายด้วยสภาพอากาศที่เปลี่ยนอยู่บ่อยๆ ถ้าใครไม่ไหวหรือไม่มียาทานสามารถเข้าไปให้คุณหมอตรวจโดยที่ไม่ต้องกังวล หรือบางคนไม่อยากรอคิวนัด ก็เลือกไปแบบ walk-in เอาเลยครับสะดวกมากๆ ครับ เพราะตามร้านขายยาทั่วไปของที่นี่จะมีแค่ยาสามัญทั่วไปวางขายนะครับ จะไม่มียาที่แรงหรือเป็นยาเฉพาะโรคขาย เราจะซื้อได้ก็ต่อเมื่อมีใบสั่งยาจากคุณหมอครับ แต่ก่อนที่เพื่อนๆ จะไปพบคุณหมอ ผมแนะนำให้เตรียมคำศัพท์เกี่ยวกับอาการที่เป็นอยู่ก่อนไปพบคุณหมอจะดีมากเลย ครับ ซึ่งจะประหยัดเวลาคุณหมอที่จะต้องมาอธิบายเรา และจะได้ไม่ทำให้คุณหมอรำคาญเราด้วยครับ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสิ่งที่ผมเขียนจะช่วยเพื่อนๆ ได้ประโยชน์กันนะครับ ไว้เจอกันครับ สวัสดีครับผม
ติดตามเรื่องราวของน้องอาร์ตได้ในตอนต่อไป >>