เฮโหลวววว (^O^) อย่างเข้าหน้าหนาวแล้วเน้อ อีกประเดี๋ยวก็จะหิมะตกแล้วนะคะ ที่สำคัญที่สุด ใกล้จะได้ปิกบ้านเฮาแล้ว (^O^) คิดถึงประเทศไทย คิดถึงอาหารไทย คิดถึงคนไทย ฮิ้ว!!!!!! ใจเย็นใจเย็น เอาหล่ะค่ะ วันนี้บันทึกของเรา จะว่ากันด้วยเรื่องชิวๆ เรื่องนอกเหนือจากการเรียนบ้าง เพราะชีวิตเราจะขาดสีสันไม่ได้ ถ้าจะต้องเรียนอย่างเดียว คงไม่ไหว แฮะๆๆ พี่ไม่ใช่สายเนิร์ด พี่พูดเลย ฮ่าๆๆๆ พี่มาสายชิว
กิจกรรมนอกห้อง
ว่ากันด้วยเรื่องของกิจกรรม กิจกรรมของโรงเรียนนั่นเอง ฮ่าๆๆๆ มีเยอะมากค่ะ มีทุกอาทิตย์ ขอบอกว่าห้ามพลาดค่ะ แทบจะวันเว้นวันเลยค่ะ ส่วนมากจะหลังเวลาเลิกเรียน คือมันเป็นกิจกรรมที่ช่วยนักเรียนทุกคนพัฒนาภาษาอังกฤษ คือภาคทฤษฎีเราเรียนมาเยอะแล้วค่ะ ถึงเวลาใช้แบบจริงจัง แบบสื่อสารกับเพื่อนทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะกับ Teacher นอกเหนือไปจากคลาสเรียน ทำให้เรามีเพื่อน ทำให้เราได้ใช้ชีวิตที่นอกเหนือจากการนั่งเรียนอยู่ในห้อง และแน่นอน ไหนๆ เราก็มาเรียนที่นี่แล้ว และในฐานะเด็กกิจกรรมเก่า เราไม่พลาดอยู่แล้วค่ะ จะเหลือเหรอคะ ทำมันทุกกิจกรรมค่ะ บางกิจกรรมก็เริ่มต้นจากการคิดกันเองของเด็กนักเรียน แล้วทางโรงเรียนเห็นว่ามันเจ๋งก็จะกลายเป็นกิจกรรมของโรงเรียนค่ะ (^-^)
ตัวอย่างที่เรากับเพื่อนๆ ริเริ่มขึ้น คืออาหารนานาชาติค่ะ ซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นกิจกรรมของ โรงเรียนเรียบร้อยไปแล้วค่ะ(^O^) เย้ๆๆ คือต้องขอบอกก่อนนะคะว่ากิจกรรมมันเริ่มจากทุกวันศุกร์ พวกเรามักจะมีการรวมตัวจัดปาร์ตี้ พูดคุยกัน แต่ศุกร์นั้น มันไม่ธรรมดาค่ะ มันเป็นศุกร์ที่กลุ่มเพื่อนๆลูกแมวคิดว่า เอาล่ะไหนๆ เราก็มาจากหลากหลายเชื้อชาติ และไหนๆ ทุกคนก็รักการกินเป็นชีวิตจิตใจ เราก็ลงมือทำอาหารกันเถอะ ไม่มากมาย แค่ประเทศละอย่างสองอย่างเอามาแชร์รวมกัน สมาชิกรวมประมาณ 30 คน ประเทศเราก็ไม่พ้นต้มยำกับข้าวสวยร้อนๆ ค่ะ คือด้วยความสัตย์จริง ขอออกตัวก่อน เนื่องจากที่นี่ไม่มีคนไทยเลยไม่มีผู้ช่วย ไม่มีแสตนอินคือปริมาณก็ต้องเพียงพอต่อเพื่อนๆ ให้ได้ชิมกัน เราก็ต้องทำด้วยตัวเองค่ะ (TT-TT) เพราะทุกคนต่างต้องทำอาหารประจำชาติมาประชันกัน ฮ่าๆๆๆ แต่อย่าดุเรานะ คือก่อนมาตัวอิฉันไม่ได้ทำอาหารนานมาก คือตั้งแต่สมัยเรียน ดังนั้นอย่าไปพูดถึงเรื่อง ชนงชนะเลยค่ะ เรามาพูดกันถึงเรื่อง ทำยังไงไม่ให้เพื่อนๆ ท้องร่วง เอ้ย!! เรามาพูดกันถึงเรื่องทำยังไงให้ไม่ให้เสียหน้าประเทศครัวของเอเชียดีกว่า ฮ่าๆๆๆๆ ล้อเล่นนะคะ เราก็มีฝีมือระดับนึงค่ะ แหม ฮ่าฮ่าๆๆๆ (ไม่มีใครบอกนะคะ บอกตัวเอง (^O^) ฮ่าๆๆๆ เขิน) แต่ไม่มีเสียหน้าแน่นอนค่ะ วันนั้นจำได้ว่าทุกคนยุ่งกันมากเลย เลิกเรียนก็ห้าโมงเย็นแล้วยังต้องวิ่งไปเพื่อซื้อวัตถุดิบให้ทัน แล้วกลับไปทำอาหาร พอมาถึงห้องครัว บรรยากาศข้างในก็วุ่นวาย แม่ครัวพ่อครัวจำเป็นแทบจะเดินชนกันอยู่ในครัว ทำไปดูนาฬิกาไป คือปริมาณต้องเพียงพอให้ทุกคนได้ทาน ไอ้ครั้นเราทำทานเองมันง่ายค่ะ ปริมาณมันน้อย รสชาติคุมได้ แต่พอต้องทำในปริมาณสำรับ 20 คนนี่ อือฮือ (-.-^) คุมรสชาติยากมากค่ะ ทำไปชิมไปตลอดค่ะ กว่าจะได้รสชาติที่โอเค ใช้เวลาทำไปเกือบเท่าตัวค่ะ พอทำเสร็จทุกคนก็ต้องยกอาหารไปรวมตัวกัน ที่แฟลตนึงที่นัดกันไว้…
พอเปิดประตูเท่านั้นแหละค่ะ โอโห้ มากันเป็นสิบชาติ สิบชาติจริงๆ ค่ะ สิบกว่าประเทศค่ะ อาหารนี่ยิ่งกว่าภัตคารอีกค่ะ ตระการตามาก พอทุกคนมาครบ เราก็เริ่มขายของค่ะ ขายของในทีนี้คือ เชิญชวนให้กินค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ ตอนนี้ล่ะค่ะ สนุกมาก เพราะฝั่งอิตาลีนางก็ขนสปาเกตตี้มาประมานสามกะละมังใหญ่ สามหม้อ สามรสชาติ แหมก็คนเขาเยอะนิค่ะ (- -^) ทำกันห้าหกคน ฮ่าๆๆๆๆ ทางฝั่งโคลัมเบียนางก็ไม่มียอมนะคะ อาหารนางเป็นกล้วยแบนๆ สอดไส้ไก่ ( คือเป็นกล้วยพันธุ์หนึ่งที่กินดิบๆไม่ได้ ต้องเอามาทอดค่ะ สอดไส้ไก่แอบบอกว่าของเค้าดีจริงอร่อยมากค่ะ) ฟากซาอุนางก็ขนข้าวสีเหลืองกับไก่ แล้วก็ Kebub มาค่ะ ตรงนี้แอบฮาค่ะ คือชาวซาอุเขาเป็นอิสลามใช่ไหมค่ะ คือหนึ่งในสปาเกตตี้มีหมูค่ะ มันฮาตรงที่คนทำสปาเกตตี้ นางมัวแต่ไปชิมอาหารชาติอื่น หันมาอีกที ชาวซาอุกำลังจะทานสปาเกตตี้ค่ะ คนทำอาหารหันมาถึงกับช็อก แล้วตะโกนบอกว่า เฮ้ย ยูตักจากหม้อไหน ยูทานไม่ได้นะมีหม้อนึงมีหมู คือหน้าคนทำซีดมาก แล้วทุกคนก็หัวเราะ เพราะจริงๆ แล้ว เพื่อนซาอุนางถามก่อนตักค่ะ นางทานสปาเกตตี้ไก่ค่ะ
มาทางฟากเอเชียเราก็ไม่ยอมค่ะ เด็กเกาหลีนางก็ขนข้าวผัดซอสเกาหลีมา อร่อยมากค่ะ แต่เราแอบบอกว่าหมูซอสเกาหลีของประเทศเขา อร่อยมากๆๆๆๆๆ ยกให้เลย 10 ดาว แต่งานนี้เพื่อนเราไม่ได้ทำ เพราะเวลาพวกเราทำอาหารเราต้องคำนึงถึงเพื่อนๆ ที่มาทานด้วยค่ะ
การทำอาหารสอนอะไรพวกเราหลายอย่างค่ะ เราจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ วัฒนธรรม ศาสนา ของแต่ละประเทศของเพื่อนแต่ละคน เพราะบางศาสนาทานเนื้อวัวไม่ได้ บางศาสนาทานเนื้อหมูไม่ได้ ดังนั้นการทำอาหารเพื่อเพื่อนๆ ทุกคน ซึ่งมาจากหลากหลายประเทศทั่วโลก มันทำให้เราเรียนรู้ที่จะใส่ใจคนอื่น รู้จักที่จะคิดถึงคนอื่น รู้จักสามัคคีกันช่วยเหลือกันเวลาอาหารของเพื่อนยังทำไม่เสร็จ แต่เวลามีจำกัด เราก็ช่วยเป็นลูกมือให้เพื่อน (แกมบังคับ แฮะๆๆ T-T) เราได้เรียนรู้การจัดการเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด และทำงานภายใต้ความกดดัน (ความหิวของเพื่อน ฮ่าๆๆๆ) เราได้เรียนรู้ว่าผู้ชายก็สุภาพบุรุษมากค่ะ อะไรที่ร้อนๆ เขาก็ช่วยถือ (^O^) คือมันทำให้พวกเราผูกพันกัน มันเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากมาก และเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ ค่ะ
เพื่อนสนิทเราไต้หวันนางก็ทำซุปไต้หวันค่ะ ทางด้านของหวานคือฟองดูผลไม้ ช็อกโกแลตเค้ก และไอศกรีม พอทานเสร็จพวกเราก็เปิดเพลงเต้นกันค่ะ (^-^) มันเป็นวันที่ดีที่สุด มันเป็นวันที่จะอยู่ในความทรงจำของนักเรียนไทยที่ประเทศอังกฤษคนนี้ตลอดไป
กิจกรรมพบปะเพื่อนใหม่
ทุกวันจันทร์ที่ร้าน Longbar อายุไม่ถึง 18 ห้ามเข้านะจ้ะ มันเป็นกิจกรรมที่ดีมากมากเลยค่ะ คือมันไม่ได้อันตราย เพราะมันไม่ใช่ผับนะจ๊ะ คือทุกวันจันทร์โรงเรียนของเราจะยึดร้านนี้ค่ะ ฮ่าๆๆ เราครองร้านค่ะ ตั้งแต่เวลา 2 ทุ่มถึงเที่ยงคืนจะมีแต่นักเรียนโรงเรียนเรามาที่นี่ พูดคุยกัน สั่งเครื่องดื่ม มีแบบไม่มีแอลกอฮอล์ด้วยนะคะ หรือจะไม่ดื่มเลยก็ได้ค่ะ แค่ไปเจอกันแล้วก็พูดคุยกันค่ะ แลกเปลี่ยนความรู้กัน ซึ่งจะทำให้เราได้เพื่อนใหม่ๆ ต่างคลาส ได้เรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ รวมถึงเราสามารถสอบถามสถานที่ท่องเที่ยว ให้เพื่อนช่วยแนะนำแบบอินไซด์ รวมถึงร้านอาหารเด็ดๆในแต่ละประเทศ และที่สำคัญทางร้านก็จะมีโปรโมชั่นสำหรับนักเรียน โดยหลังจากที่เราสั่งเครื่องดื่ม มีตั้งแต่ดื่มฟรี หรือลดราคา โดยส่วนตัวลูกแมวไม่ดื่มแอลกฮอล์ค่ะ ก็จะสั่งแป็ปซี่ ไม่ก็น้ำสตอเบอรี่ค่ะ อร่อยค่ะ แต่บางครั้งก็ไม่ได้สั่งค่ะ แค่ไปเจอเพื่อนๆ เด็กใหม่รวมถึงเด็กเก่า ถือว่าเราได้ฝึกพูดฟรีค่ะ แถมยังได้ เพื่อนใหม่ๆ ด้วยนะคะ
ทัศนศึกษาเมืองข้างเคียง
เรียนกันมาหนักแล้ว เสาร์อาทิตย์ก็ต้องแบกกล้อง ท่องเที่ยวนั่นแหละค่ะ เขาเรียกว่า Study Life Balance (^-^~) โดยทางโรงเรียนก็จะมีรถรับส่งให้เราปลอดภัยและได้ท่องเที่ยวค่ะ ส่วนราคาก็ แล้วแต่สถานที่ค่ะ ขึ้นอยู่กับความใกล้ไกลของสถานที่ โดยทางโรงเรียนจะออกตารางทัวร์มาเป็นรายเดือน ถ้าเป็นคนชอบลุยอย่างลูกแมวก็แพลนเองเที่ยวเองค่ะ ไม่ได้ไปกับทางโรงเรียน เพราะเราสามารถจัดตารางของเราเองได้ อยากไปหรือกลับเวลาไหนก็ได้ แต่ก็จะแอบลำบากนิดนึงค่ะ เพราะเราต้องแพลนเวลาเอง คอยดูรอบรถ รวมถึงจองตั๋วเอง แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถค่ะ การท่องเที่ยว มันสอนอะไรเราหลายอย่างนะคะ
มันทำให้เราได้ฝึกทักษะการเอาตัวรอด การสนทนากับเจ้าของภาษา จริงๆ ที่ไม่ใช่คุณครู เราจะได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษสำเนียงท้องถิ่น ซึ่งอาจจะฟังอยากนิดหน่อยนะคะ แต่เราจะทำได้ค่ะ ถ้าเราหิว ฮ่าๆๆๆ และที่สำคัญที่สุด เราได้ผ่อนคลาย ลัลล้า ถ่ายรูปเล่นค่ะ (^O^) เดี๋ยวไดอารี่ฉบับหน้าเราจะมารีวิวที่ที่เราไปเที่ยวมานะคะ รับรองแจ่มแจ่มเลยค่ะ วิวนะคะไม่ใช่คน ฮ่าๆๆๆ (^w^)
กิจกรรมตามเทศกาลต่างๆ
เดือนก่อนมีกิจกรรมฮาโลวีนค่ะ คือแอบบอกก่อนว่าถ้าใครได้มา ห้ามพลาด! อย่าได้อายค่ะ แต่งตัวแต่งหน้าไปลุยโลดค่ะ สนุกมากค่ะ ประเทศอื่นๆ เค้าจะแบบจริงจังกันมากกับเทศกาลนี้ แต่งตัวกันมาจัดเต็มมากค่ะ ส่วนตัวเรานั้นก็แต่งตัวเป็นผีไปร่วมกิจกรรม ทานขนม ถ่ายรูปเล่นกับเพื่อนๆ ซึ่งเป็นเทศกาลที่แปลกดีค่ะ และตัวลูกแมวก็ไม่เคยแต่งอะไรแบบนี้ ในเทศกาลแบบนี้มาก่อนในชีวิต ก็เป็นประสบการณ์ใหม่ที่แปลกดีค่ะ ไม่ลองไม่รู้นะคะ
ส่วนเดือนนี้ก็หนีไม่พ้นคริสต์มาสปาร์ตี้ค่ะ ทางโรงเรียนก็ประสานงานกับทางที่พักจัดปาร์ตี้เบาๆ เป็นดินเนอร์ค่ะ อาหารเพียบ สนุกมากค่ะ ที่สำคัญฟรีค่ะ ฮ่าๆๆ มีหรือพวกเรา เด็กนักเรียนตัวน้อยๆ จะพลาด พวกเราเด็กนักเรียนก็รวมตัวจับกลุ่มคุยกัน คุยไปทานไปเพลินเลยค่ะ มีทั้งเด็กจากมหาลัยต่างๆ ที่พักที่เดียวกับพวกเรา และเด็กนักเรียนจากโรงเรียนของเรา มันทำให้เราได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเด็กปริญญาโท ได้เรียนรู้แนวทาง การเรียน การทำรายงาน การจัดการเวลา และแรงกดดันจากการเรียน ของเพื่อนๆ ในมหาลัยต่างๆ ในเมือง รวมถึงการสอบเข้า ซึ่งก็เป็นประสบการณ์ที่ดีและทำให้เราได้เพื่อนในวงที่กว้างขึ้น ตบท้ายด้วยการเต้นอีกเช่นเดิม ฮ่าๆๆ เต้นสายย่อก็มาค่ะ ได้เรียนรู้การเต้นของแต่ละประเทศ ซึ่งขอบอกว่าไม่มีใครยอมใครเลยค่ะ (^w^)
เอาละค่ะ ไดอารี่ของเราก็กำลังเดินทางมาจะถึงฉบับสุดท้ายแล้ว อีกแค่สองอาทิตย์ลูกแมว ก็จะบินไปลอนดอน และได้กลับบ้านแล้ว คิดถึงประเทศไทยจะแย่อยู่แล้วค่ะ ไว้เจอกันฉบับหน้านะคะ
ดูแลสุขภาพด้วยนะคะเด็กๆ ทุกคน แล้วพบกันใหม่ค่ะ