Diary 3: The Best Friend from Thailand
สวัสดีค่ะทุกท่าน ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะคะ วันนี้ก็เป็นวันแรก ที่ลูกแมวเดินทางมาถึงลอนดอนค่ะ เครื่องบินแลนดิ้งลงสู่ภาคพื้นประเทศอังกฤษ สนามบินฮีทโทรว์ โดย สวัสดิภาพค่ะ (\\^-^//) เย้เย้ อากาศภาคพื้นดิน เย็นเล็กน้อย ราวๆยี่สิบต้นๆค่ะ สิ่งที่เราชอบมากๆคือ ก้อนเมฆที่นี่ไม่เหมือนที่ประเทศไทยค่ะ มันจะหนาๆแน่นๆขาวๆ เหมือนสมัยเราวาดรูปตอนเด็กๆเลยค่ะ (นี่อาจจะเป็นเหตุผลว่าทำไม เด็กๆถึงได้จินตนาการว่ามีangle อยู่บนเมฆ คิกคิก)
เอาละคะ เรามาทำอะไรที่นี้หรอค่ะ มาพบเพื่อนรักค่ะ เป็นเพื่อนรักคนแรกในโรงเรียนสมัยประถม ของเราเองค่ะ ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มเรียน ก็เลยถือโอกาสเที่ยวตลอนทัวร์ ลอนดอน ก่อนที่จะมุ่งหน้าสู่ Newcastle Upon Tyne ที่รัก ซึ่งกำลังจะกลายเป็น บ้านหลังที่สองค่ะ (^w^)
Colchester & Essex University
บ้านเพื่อนของเราอยู่ที่เมือง Colchester ค่ะ การเดินทางก็ไม่ยากเลยค่ะ เนื่องจากเพื่อนรัก ได้ทำการจองตั๋วรถ Coach ซึ่งเป็นรถบัสที่ใช้ในการเดินทางระหว่างเมืองให้ล่วงหน้าค่ะ โดยสามารถ จองตั๋วได้ทางเว็บไซต์นะคะ แต่!!! จงระวังและคำนวณเรื่องเวลาให้ดี เพราะลูกแมวต้องเดินทางโดยเครื่องบินและต่อ Coach และเครื่องบินของลูกแมว Delay ! เมื่อเครื่องบินแลนดิ้ง พี่นี่วิ่งตับแลบเลยค่ะ (-.-”)
เนื่องด้วย เวลาที่มีจำกัด ก่อนที่จะไม่ทันรถ (ตอนแพลนจองรถ ระยะเวลาห่างจากเครื่องบินแลนดิ้งเกือบชั่วโมงค่ะ แต่ด้วยขั้นตอนและพิธีการการเข้าเมืองของที่นี่ ทำให้เหลือเวลาหลังจากผ่านพิธีการต่างๆ เพียงแค่ สิบนาทีค่ะ) สิ่งที่จะช่วยเราได้ คือต้องมีสติมาก และสังเกตมากๆ และที่สำคัญที่สุดความกล้า ในการถามค่ะ ณ จุดจุดที่อีก10 นาทีรถจะออก แต่ตัวเรานั้นยังสถิตอยู่ใน Terminal ภาษาอังกฤษช่วยเราได้ค่ะ ถามเลยค่ะ จะรออะไร ซึ่งเราได้พี่ Ground Staff ที่แสนใจดีบอกทางให้ค่ะ หลังจากนั้นเราทำได้แค่วิ่งๆ ๆ ๆ ค่ะ
และในที่สุดเราก็พบรถ Coach ค่ะ (\\^-^//) ซึ่งรถจะจอดอยู่ ทางออกTerminal สุดท้ายค่ะ(หลังจากรับกระเป๋า รถจะจอดอยู่ใกล้ๆประตูทางออกTerminal เลยค่ะ)
หลังจากวิ่งกระหืดกระหอบ พร้อม กระเป๋าลากใบโต2ใบ และเป้คู่ใจ เราก็มาทันรถ Coach ค่ะ พอดีเป๊ะค่ะ คือพอมาถึงปุ๊บรถกำลังจะออกแล้วค่ะ ดังนั้นสำหรับผู้ที่จะจองรถ Coach ล่วงหน้า และยังไม่มีประสบการณ์ การเดินทางมาที่นี่ ต้องแพลนเวลาให้ดีดีนะคะ เผื่อเวลาสำหรับไฟลท์เราดีเลย์ เผื่อเวลาขั้นตอนพิธีการต่างๆ ตีไปประมาณ 2ชั่วโมงเลยก็ดีค่ะ หลังจากที่ขึ้นรถก็สลบค่ะ อย่าลืมแจ้งคนขับ และตั้งนาฬิกาปลุกก่อนหลับนะคะ
หลังจากที่เดินทางมาถึงเมือง Colchester ซึ่งเป็นเวลาดึกสงัด อากาศประมาณสิบองศาต้นๆ หญิงสาวตัวเล็กๆพร้อมกระเป๋ากองใหญ่ ยืนอยู่เดียวดาย ณ ป้ายรถบัส ก่อนที่จะแข็งตาย เพื่อนที่รักก็มาได้ทันเวลาพอดีฮ่าๆๆๆ (^3^) หลังจากนั้นเพื่อนของเราก็ทำการเรียกแท็กซี่มารับ แท๊กซี่ที่นี่ไม่เหมือนที่ประเทศไทยเพราะ แท็กซี่ที่นี่คือ รถธรรมดานี่แหละค่ะ หลังจากที่เราโทรไปจ้งสถานที่นัดหมาย เมื่อถึงเวลานัด รถจะขับมารับเราในจุดที่เรานัดหมายไว้ โดยเราจะสังเกตได้จากป้ายทะเบียนรถซึ่งทางบริษัท Taxi แจ้งมาค่ะ และแล้วเราก็เดินทาง มาถึงที่พักอย่างปลอดภัยค่ะ
วันต่อมา ถือเป็นโชคดีของเราค่ะ ที่ได้มีโอกาสมาร่วมงานรับปริญญาของรุ่นพี่ของเพื่อนลูกแมวนั่นเอง วันนี้เราเลยตื่นกันเช้าหน่อย (ถึงแม้ว่าเราจะมีอาการเจทแลค เล็กน้อย) แต่งหน้าแต่งตัว แล้วมุ่งหน้าสู่มหาวิทยาลัย Essex ค่ะ บรรยากาศของที่นี่ก็ไม่แตกต่างจาก ประเทศไทยค่ะ สิ่งที่ต่างคงเป็น ที่นี่ไม่มีเหล่าช่างกล้องมืออาชีพ เต็มมหาวิทยาลัย และเหล่าบัณฑิตทำผมสบายๆ ไม่มีการยกกระบังหน้าจัดเต็มเหมือนที่ประเทศไทย ฮ่าๆๆๆ
และ มีการขายช่อดอกไม้เพียง2-3ร้าน และจากการสังเกต เหล่าบัณฑิตที่นี่ไม่ค่อยจะถ่ายรูปกันสักเท่าไหร่ ยกเว้นเหล่าบัณฑิตจากประเทศไทย จัดเต็มแล เฮฮากันมากๆค่ะ ซึ่งเราก็พลอยรู้สึก Happy ไปด้วย และถ้ามีโอกาส ก็อยากที่จะมาเรียน ปริญญาโทที่ประเทศนี่บ้างค่ะ (^-^) ซึ่งเหล่าพี่ๆก็เรียนทางด้านนิติศาสตร์กันค่ะ เห็นว่าถ้าเรียนจบ จะช่วยให้ง่าย ต่อการสอบในสายอาชีพค่ะ วันนี้ก็เลยได้มีโอกาสมาเป็นตากล้องจำเป็น ของเหล่าบัณฑิตค่ะ เพื่อนเราก็แซวว่า นี่อิมพอร์ทตรงมาจากประเทศไทยเมื่อวานเลยนะเนี่ย ฮ่าๆๆๆ เราก็ชอบถ่ายรูปอยู่แล้ว เลยได้โอกาส ถ่ายรูปให้พี่พี่และเพื่อน ซึ่งถือว่าเป็นประสบการณ์ดีดีครั้งหนึ่ง ที่ประเทศอังกฤษเลยก็ว่าได้ค่ะ ตอนเย็นพี่พี่เลยใจดีเลี้ยงอาหารไทยเป็นการตอบแทน ที่ร้านอาหารไทย ชื่อว่า NAKA THAI ซึ่งขอบอกว่าเจ้าของร้าน ใจดีมากๆ และอาหารอร่อยมว้ากๆๆๆ ให้เต็มสิบดาวเลยค่ะ อร่อยกว่าภัตคารที่ประเทศไทยอีก พูดเลย (^w^) ถ้าทุกท่ามีโอกาสแวะมาย่านนี้ อย่าลืมแวะมาทานนะคะ
วันต่อมาก็เป็นเวลาตลอนทัวร์ของเราแล้ว ณ ลอนดอน เย้ๆๆ แต่ต้องขออกตัวก่อนว่าการเดินทางครั้งนี้ เน้นแค่จุดสำคัญๆของลอนดอน เนื่องจากเวลาที่จำกัดเพียงหนึ่งวัน วันนี้เราเลยเริ่มจากการเดินทางไป ที่ต่างๆโดยใช้บริการ Tube (รถไฟใต้ดิน) : ซึ่งหลังจากที่โพล่ขึ้นมาจากใต้ดิน ลำดับการเดินทางมีดังนี้ค่ะ
- Tower of London : หอคอยอันโด่งดังซึ่งใช้คุมขังนักโทษตั้งแต่สมัยโบราณ และมีชื่อเสียง เรื่องวิญญาณที่ยังคงสิงสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้มากมาย บรื๋อออ!!!!!!! T-T ”
- Tower Bridge : สะพานข้ามแม่น้ำเทมส์อันโด่งดัง สะพานแห่งนี้ เป็นหนึ่งใน landmark ของ Londonค่ะ
- London Eye : ชิงช้าสวรรค์ยักษ์ใจกลางกรุงลอนดอน ใช้เพื่อชมวิวกรุงลอนดอน ในมุมสูงงงง
- Borough Market : ตลาดอาหารใจกลางกรุงลอนดอน มีทั้งอาหารสดและ อาหารพร้อมทาน ให้เลือกทานมากมาย หลากหลายสไตล์ ซึ่งเราได้ทำการฝากท้องอันว่างเปล่า กับมื้อกลางวันที่นี่ค่ะ บรรยากาศคจะคล้ายๆตลาดสดบ้านเรา แต่มีความสะอาดกว่า และร้านอาหาร เยอะกว่ามากค่ะ และที่ขาดไม่ได้ คือร้านกาแฟ Monmount ค่ะ ที่คิวยาวมว๊ากกกค่ะ คอกาแฟห้ามพลาดนะคะ
- Westminster Abbey : วิหารที่ใช้เพื่อประกอบพิธีสำคัญต่างๆของราชวงศ์ เช่น พิธีอภิเษกสมรส
- Palace Theatre London : สถานที่แสดงละคร เรื่อง Harry Potter and the Cursed Child :ซึ่งราคามีตั้งแต่ 15 ปอนด์จนถึง 70 ปอนด์ต่อ Part ซึ่งภาคนี้ได้แบ่งการแสดงออกเป็นสอง Part ค่ะดังนั้นราคาก็จะอยู่ที่ 30 ปอนด์จนถึง 140 ปอนด์ค่ะ หากเพื่อนๆน้องๆต้องการจะเข้าชมทั้งสองภาค อาจจะต้องเผื่อเวลา ครึ่งวันบ่ายจนถึงค่ำ เพื่อเข้าชมทั้งสองรอบนะคะ แต่ด้วยเวลาที่มีจำกัด เราอดชมค่ะ T-T
- Regent Street : แหล่งช๊อปปิ้งที่มี แบร์นดต่างๆมากมาย แต่จะเป็นแบร์นดทั่วๆไป เช่น Zara , H&M ซึ่งจะช่วยเราในการละลายทรัพย์แลเพิ่มน้ำหนักให้กระเป๋าเราค่ะ ฮ่าๆๆๆ
- Convent Garden : แหล่งช๊อปปิ้งของแปลก ของแฮนเมด คล้ายๆจตุจักรเล็กๆค่ะ ซึ่งที่นี้มีร้านคุ้กกี้แสนอร่อย ชื่อ Ben’s Cookies ถ้าได้มีโอกาสมาอย่าลืมแวะมาชิมนะคะ
การท่องเที่ยวสำหรับไดอารี่ฉบับนี้ของเราก็จบเพียงเท่านี้นะคะ หากมีโอกาสได้มาเรียน ภาษา มาเที่ยว หรือมาศึกษาต่อที่นี่ ก็อยากจะบอกทุกคนตรงนี้เลยว่า ยินดีต้อนรับสู่ สหราชอาณาจักร ประเทศที่จะให้ประสบการณ์ต่างๆมากมาย ประเทศในฝันของใครหลายๆคน ประเทศที่ตอนนี้ เราพูดได้เต็มปากว่า หลงรักประเทศนี้เข้าให้แล้วค่ะ ตอนนี้ได้เวลาขึ้นรถไฟมุ่งหน้าสู่ New castle Upon Tyne แล้ว ไว้เจอกันใหม่ ไดอารี่ฉบับหน้านะคะ บายบาย (\\^-^//)
