Hands On Education Consultants

นักเรียน Exeter พาเที่ยว ฟินแลนด์ ดินแดนหิมะและนอนดูดาวที่ Glass Igloo

เที่ยว ฟินเเลนด์ : “ส่องน้องฮัสกี้ คุยกับแซนต้า นั่งเลื่อนพี่เรนเดียร์ นอนดูดาวในกลาสอิกลู”

มาเรียนต่อที่อังกฤษทั้งที มีโอกาสหาที่เที่ยวดีๆ ก็ไม่ควรพลาดกันนะคะ วันนี้นักเรียนไทยจาก Exeter อาสาพาทัวร์ฟินแลนด์ อยากรู้ว่าจะฟินแค่ไหนตามอ่านกันได้เลยจ้า

เราเริ่มต้นทริปกันที่ Helsinki ประเทศ ฟินแลนด์ ค่ะ โดยบินจาก London Gatwick Airport ไปลง Helsinki ด้วยสายการบิน Norwegian Air ค่ะ

สายการบิน Norwegian Air เป็น Low-Cost Airline ที่พูดได้เต็มปากว่าประทับใจที่สุดค่ะ ด้วยราคาที่น่ารักสมกับเป็น low-cost แต่บริการดีและมี wifi ฟรีตลอดไฟลท์ นั่งเครื่องไปไม่มีเบื่อกันเลย พอถึง Helsinki แล้วก็ต่อเครื่องภายในประเทศไปลงที่เมือง Ivalo ค่ะ

เมือง Ivalo จะอยู่ทางเหนือของ ฟินแลนด์ หรืออยู่ในแดน Lapland ค่ะ ใน Lapland นี้ เราสามารถที่จะมองเห็น Northern Light หรือว่า “แสงเหนือ” ได้ง่ายกว่าที่อื่นๆ ที่อยู่ต่ำลงไปนั้นเอง

ในส่วนของ Ivalo เราพักกันที่โรงแรม Lapland Hotel Riekonlinna เป็นเวลาหนึ่งคืนค่ะ เป็นโรงแรมที่ไม่ได้คาดหวังอะไร แต่ค่อนข้างประทับใจค่ะ วิวจากห้องพักภายในโรงแรมถือว่าคุ้มค่า คุ้มราคามากจริงๆ

หลังจากนั้น Airport Bus เข้ามาจนถึงโรงแรม ในเมือง Saariselka ประมาณ 30 นาทีค่ะ เช็คอินแล้วก็เริ่มกิจกรรมของเราได้เลย รอบๆ โรงแรมจะมี Agency ขาย Package กิจกรรมต่างๆ ไว้ค่ะ เราต้องไปเช็คเวลาของกิจกรรมต่างๆ

ราคาก็จะต่างกันไปขึ้นอยู่กับระยะเวลาของกิจกรรมและวิธีการเดินทางค่ะ เราเริ่มทริปกันด้วยการ ขี่ Snowmobile เพื่อไปดูน้องกวางเรนเดียร์กันที่ฟาร์มค่ะ ไกด์จะสอนวิธีการขี่ สัญญาณมือต่างๆ และมีชุดถุงมือรองเท้าและเครื่องมือต่างๆ เตรียมไว้ให้เรากันหนาว อุณหภูมิตอนที่ไปถือว่าอุ่นเทียบกับปกติค่ะ เฉลี่ยอยู่ที่ -8 ถึง -15 องศาเซลเซี่ยส (ไกด์แอบกระซิบมาว่า ยูลัคกี้มากเลยนะ อาทิตย์ที่แล้วก่อนยูมา อุณหภูมิ อิส -30!!) แต่ชุดที่เค้ามีให้และรองเท้าที่เตรียมไว้ให้ของที่นี่ ดีมากเลยค่ะ อุ่นสบายไม่หนาวเลย แต่ถ้าเป็นไปได้ เราควรจะพก Heat Pack ของเราไปเองค่ะ หนาวตรงไหนก็เขย่าๆ ยัดทิ้งไว้เลย บวกกับอากาศแถวนี้ค่อนข้างแปรปรวน เอาแน่เอานอนไม่ได้เตรียมไว้ก็ดีกว่าค่ะ

 

Snowmobile นั้น เค้าจะขอดูใบขับขี่นะคะ เพราะตามกฎหมายเราต้องมีใบขับขี่เพื่อที่จะขี่ Snowmobile ค่ะ วิธีการขี่ ก็คล้ายๆ Jet Ski ผสมกับ ATV โดย 1 คันจะนั่งได้ 2 คนค่ะ ถ้ามา 3 ก็จะมีคนได้ขี่คนเดียวค่ะ

ด้วยทางที่เป็นหิมะขาวโพลนไปหมดตัดกับสีเขียวเข้มของต้นสนที่โผล่พ้นมาจากหิมะที่โผล่มาให้เห็นบ้าง ทำให้การขี่ Snowmobile ครั้งนี้หน้าตื่นตาตื่นใจไปหมดเลยค่ะ มันสวย มันใหม่ มันดูน่าตื่นเต้นไปหมด เรื่องความหนาวไม่ต้องเป็นกังวลเลยค่ะ ชุดที่เค้ามีให้ใส่อุ่นสุดๆ ไปเลยค่ะ ใส่แล้วเราก็กลายเป็นหมีตัวกลมๆ

พอถึงฟาร์มเรนเดียร์ เจ้าหน้าที่จะอธิบายถึงชีวิตกวาง ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน การสืบพันธุ์ ไปจนถึงวิธีการจับกวางค่ะ เค้าจะปล่อยให้กวางใช้ชีวิตตามธรรมชาติในช่วงหน้าร้อนและจับกลับมาในช่วงหน้าหนาวค่ะ และแล้วก็ถึงเวลาที่รอยคอยที่จะได้นั่งเลื่อนที่มีน้องกวางลาก น้องกวางก็จะลากเราไปตามทางในฟาร์มค่ะ

มนุษย์ที่โตมาในโรงเรียนคริสเตียนและเชื่อเรื่องแซนต้าอย่างดิฉันก็ฟินไปสิคะ ตูดน้องกวางดุกดิกๆ ตัดกับป่่าสนไทก้า มีผ้าห่มอุ่นๆ บวกกับคนดูกวางก็หล๊อหล่อ อะไรมันจะดีแบบนี้ แต่ทุกอย่างก็จบลงในเวลา  15 นาทีค่ะ

ต่อจากนั้นเค้าก็จะพาเรามาที่ลานโล่งๆ ให้เราไปลองคล้องกวางดูค่ะ แต่เป็นแค่เขากวางนะคะ ตัวจริงนอนสบายอยู่ในฟาร์ม ตามด้วยเครื่องดื่มอุ่นๆ กับขนมอีกนิดหน่อย และอธิบายความเป็นมาของชีวิตคนที่นี้อีกนิดนิดก็ถึงเวลากลับค่ะ ขากลับก็สลับคนขับกับคนนั่งค่ะ ถึงที่พักโดยสวัสดิภาพ เนื่องจากในหน้าหนาวพระอาทิตย์ตกดินเร็วมากๆๆๆๆ สองโมงก็เริ่มโพล้เพล้แล้ว เวลาจึงเป็นสิ่งมีค่ามาก รีบหาอะไรกินเร็วๆ แล้วก็มาถึงเวลาลุ้นระทึกกับทริปล่าแสงเหนือ

การตามหาแสงเหนือครั้งนี้ เราเลือกที่จะเดินทางไปด้วยมินิบัสค่ะ บัสขับออกไปจากโรงแรมประมาณ 15 นาที จะถึงลานกว้างติดกับทะเลสาปที่แข็งเป็นน้ำแข็งไกด์จะให้ดูวีดีโออธิบายความเป็นมาของแสงเหนือ และอธิบายให้เราฟังในเชิงวิทยาศาสตร์ต่ออีกนิดนึง หลังจากนั้นพี่ไกด์ก็พาไปโชว์ Ice Bar ที่นางสร้างมาด้วยตัวเองอีกหน่อย ถ่ายรูปคลิกๆ ฟ้าก็ยังไม่เปิดให้เราสักที ทริปจบลงด้วยความอันลัคกี้ค่ะ เมฆมาก ไม่เห็นอะไรเลย

ในทริปไกด์ก็มีเครื่องดื่มเป็นเหมือน น้ำแครนเบอรี่อุ่นๆ ให้ กับ เบอร์เกอร์น้องกวางเรนเดียร์ค่ะ ส่วนตัวคิดว่ารสชาติใช้ได้นะคะ ไม่เหม็น แต่เพื่อนๆ เซย์โนกันหมด เสร็จแล้วก็นั่งรถกลับโรงแรมด้วยใจห่อเหี่ยว เวลาทั้งหมดที่ใช้ในการรอแสงเหนือประมาณ 2-3 ชม. ขึ้นอยู่กับแต่ละวันสภาพอากาศเป็นอย่างไร

วันต่อมาพวกเรารีบตื่นแต่เช้าเพราะว่ากำลังจะได้เดินทางไปโรงแรมที่เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของทริป ซึ่งก็คือโรงแรม Kakslauttanen Arctic Resort ค่ะ จุดพิเศษของรีสอร์ทนี้ก็คือ เจ้า Glass Igloo นั้นเองค่ะ 

โรงแรมนี้ปกติแล้วจะต้องจองข้ามปีกันเลยทีเดียว แต่พวกเรานั้นโชคดี (หรืออาจจะเรียกว่าโชคร้ายรึเปล่า ต้องติดตามต่อค่ะ) ตอนกดเข้าไปดูที่โรงแรม วันที่พวกเราว่างพอดีกลับมีเจ้าอิกลูว่างอยู่ 1 ห้องและ 1 คืนเท่านั้น ซึ่งก็ประจวบเหมาะเป็นช่วงเวลาที่เราว่างพอดี พวกเราเลยรีบกดจองทันทีแบบไม่ลังเล เรานั่งแท็กซี่จากโรงแรมแรกเข้าเจ้า Glass Igloo ใช้เวลาเพียง 15-20 นาทีเท่านั้น

 

บรรยากาศในโรงแรมสวยค่ะ ตัว Igloo ก็สวยแต่บริการแย่มากค่ะ พยายามโทรมาเพื่อถามวิธีการมาและขอจอง activities ต่างๆ สองครั้ง กลับตอบได้แย่มาก ไม่ให้ Information อะไรเลย ทั้งที่โรงแรมก้แพงมากๆ ราคาขนาดนี้ถือว่าไม่คุ้มเลยค่ะ

แต่โชคดีหน่อยวันก่อนจะเข้าพักได้โทรเข้ามาอีกรอบ แล้วเป็นอีกคนนึงรับ ถึงได้จองกิจกรรมต่างๆ ให้เรา แต่บอกไว้เลยค่ะว่าถ้าเป็นไปได้ให้ทำกิจกรรมอะไรต่างๆให้เสร็จมาจากที่อื่น ที่นี่มานอนๆ กินบรรยากาศก็พอแล้วค่ะ เพราะว่าราคากิจกรรมแพงกว่าที่อื่นค่อนข้างจะมาก

 

จาก Reception เข้า Igloo ประมาณ 400 เมตรค่ะ แต่ว่าไม่มีรถหรือใครช่วยเราลากของตอน Check-in และ Check-out นะคะ ต้องลากผ่านหิมะเข้าไปกันเองค่ะ ลำบากเอาการเหมือนกัน น่าเสียดายมากๆ ที่วันที่เรามาท้องฟ้าปิดมากๆ เห็นดาวอยู่แป็บๆ ก็หายไป จริงๆ แล้วถ้าวันที่อากาศดีดีเรามีสิทธิที่จะเห็นออโรร่าจากเจ้า Igloo กันเลยทีเดียวค่ะ

 

หลังจากได้เก็บของทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อย เราก็ได้ไป ทัวร์ฟาร์มน้องหมาฮัสกี้กันค่ะ ซึ่งในทัวร์ก็จะรวมการนั่งเลื่อนน้องหมาและซุปรอบกองไฟไว้ค่ะ

การนั่งเลื่อนน้องหมาเราก็จะต้องสลับกันค่ะ คนนึงเป็นคนขี่และบังคับเลื่อน อีกคนก็จะเป็นคนนั่งสลับกันไป น้องหมาน่ารักมากๆๆๆ แต่นั่งไปได้สักพักก็แอบรู้สึกสงสารน้องหมาในระดับนึง เพราะเค้าก็ดูเหนื่อยที่จะต้องลากเรา

ทิ้งท้ายทริป Lapland ของพวกเราด้วยการไปตามล่าแสงเหนือด้วย Snowmobile อีกครั้งค่ะ แต่โชคไม่เข้าข้างเลย ฟ้าปิดและมีเมฆมากจึงไม่ได้เห็นแสงเหนืออย่างที่ตั้งใจไว้ ทริปนี้เป็นอีกทริปที่ประทับใจมากค่ะ เป็นบรรยากาศที่หาไม่ได้จากยุโรปโซนอื่นๆ ถึงจะหนาวมาก แต่วิวทิวทัศน์รอบๆ ก็สวยจนบีมหนาวไปเลยทีเดียว ถ้ามีโอกาสจะมาใหม่เพื่อตามล่าแสงเหนืออีกครั้งค่ะ

 

Written by: a member of Thai Society, University of Exeter

**********

Hands On Education Consultants  ขอแนะนำกิจกรรมดีๆ เพื่อการเรียนต่อ UK เช่น การเขียน SoP, ทดลองสอบ IELTS หรือการสัมภาษณ์โดยตรงกับตัวแทนมหาวิทยาลัย ซึ่งสามารถดูกิจกรรมของเราเพิ่มเติมได้ที่ upcoming events หรือหากมีคำถามเรื่องการเรียนต่อ UK ติดต่อ Hands On ได้ทุกสาขา ทางทีมงานยินดีให้คำปรึกษาโดยไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ 

Hands On Education Consultants ตัวแทนมหาวิทยาลัยชั้นนำจาก UK อย่างเป็นทางการมากกว่า 100 สถาบัน มีประสบการณ์การทำงานมากกว่า 10 ปี  ให้คำปรึกษาเรื่องการเรียนต่อ UK โดยมีนักเรียนให้ความไว้วางใจใช้บริการมากเป็นอันดับ 1 ความคิดเห็นจากนักเรียนที่เคยใช้บริการ Hands On