ฮาโหลลลลลลล กลับมาแล้ววววว ห่างหายไปซักพักนึง แต่กลับมาแล้วนะ >< มีใครรออ่านกันอยู่รึป่าวเนี่ยยย ว่าแล้วก็ไปอ่านกันเลย

ตอนนี้เข้าสู่อาทิตย์ที่ 2 แล้ว ค่อยๆ ปรับตัวเข้ากับอากาศ การเรียน เพื่อนๆ และ อาหารได้ดีขึ้น ตอนนี้เพื่อนคนไทยเยอะมากกก (แต่ก็มีบางส่วนที่ต้องกลับไทยแล้ว) เพื่อนต่างชาติก็เยอะมากเช่นกัน แต่เราก็ยังคงคอนเซ็ปใช้ภาษาอังกฤษอยู่เรื่อยๆ อาทิตย์นี้เราวางแผนจะไปเที่ยวเมืองข้างเคียงใกล้ๆ กันก่อน ก็แหม~~~ ตบะยังไม่แก่กล้า ยังไม่ค่อยกล้าไปไหนหรอก เอาใกล้ๆ ก่อน ค่อยเป็นค่อยไปก่อนละกันโนะ

ส่วนเย็นวันศุกร์เรามีนักปาร์ตี้ BBQ กับเพื่อนเด็กไทย จากที่เราเคยบอกไปแล้วว่า นักเรียนไทยส่วนมาก เป็นน้องนักเรียนและนักศึกษาที่มาเรียนมาฝึกภาษาช่วง Summer ซึ่งช่วงเวลานี้ก็เข้าใกล้เปิดภาคเรียนของที่ไทยแล้ว ทำให้อาทิตย์นี้มี Goodbye ปาร์ตี้เกิดขึ้น เพราะน้องๆ ในกลุ่ม 4-5 คนต้องกลับไปเรียนแล้ว (โธ่วววววว…..เพิ่งเจอกันได้อาทิตย์ สองอาทิตย์เอง TT___TT ทั้งๆ ที่กำลังรื่นเริงเลยที่มีคนไทยอยู่ด้วยกัน )

ช่วงบ่ายของวันศุกร์เป็นวันที่มีเรียนแค่ครึ่งวัน พอเลิกเรียนเรากับเพื่อนๆ ก็ออกไปซื้อของ ซื้ออุปกรณ์ทำอาหาร งานนี้อาหารเครื่องดื่มจัดเต็มมากกกก เพราะมีเพื่อนไปกัน 7 คน รวมกับ host เพื่อนอีก 4 คน เป็น 11 คน ตัดสินใจไปกันที่บ้านเพื่อนคนนี้เพราะที่บ้าน host เค้าค่อนข้างมีพื้นที่สำหรับคนจำนวนมาก อีกอย่าง host เพื่อนเป็นคนใจดีมากกก ไปปาร์ตี้กันที่บ้านเค้า เค้าก็อยู่ปาร์ตี้ด้วย เข้ามาช่วยเตรียมของ ช่วยหาจาน งานนี้มีเครื่องดื่มมึนเมาบ้างนิดหน่อย แต่ก็เพราะทุกคนอายุเกิน 18 หมดแล้ว สำหรับเราวันนั้นเป็นวันที่ดีมากๆ เลย ได้คุยกับน้องหลายๆ คน น้องหลายคนก็รู้ล่ะว่าเราไม่ค่อยได้ภาษาอังกฤษ น้องๆ ก็มาแนะนำ มาให้กำลังใจ ชวนคุย อะไรบ้างที่น่าไปเที่ยว ของกินโซนไหนอร่อย ทริป คอเลจอันไหนที่น่าไป มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ เลยนะ การได้เจอคนชาติเดียวกันในเมืองที่มีแต่คนพูดคนละภาษา แล้วที่สำคัญทุกคนช่วยเหลือกันดีมากๆ ตลอกเวลาที่ปาร์ตี้ host เพื่อนก็แวะมาชวนคุย แวะมาช่วยปิ้งเนื้อ ช่วยย่างไส้กรอก เป็นวันที่สนุกมากๆ จริงๆ ปล.เราไม่ลืมบอก host เราหล่ะว่าวันนี่เราไม่กินข้าวเย็น 5555555

หลังจากมีปาร์ตี้ไปกันเมื่อวันศุกร์ ก็กลับเข้าสู่แผนการเที่ยวของเรา วันนี้เราจะไปที่ Canterbury เป็นเมืองท่องเที่ยวของ Kent ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมืองที่เราเรียนอยู่มาก นั่งรถไฟก็ประมาน 25-30 นาที

เป็นเมืองที่มีโบสถ์ที่สวยงามและเก่าแก่เกือบ 500 ปี ชื่อว่า Canterbury Cathedral และเป็นเมืองที่ตั้งของ มหาวิทยาลัย University of Kent วันนี้เราไปเที่ยวกับเพื่อนเกาหลีและคนไทย เป็นการไปลองนั่งรถไปเที่ยวครั้งแรกตั้งแต่มาถึงที่นี้เลย การเดินทางส่วนมากในเมืองที่เราเรียนอยู่ ไปไหนก็เดินเอาตลอด เพราะอากาศที่นี่ดี ไม่ร้อนเหมือนบ้านเราเลยเดินได้ทนหน่อย เดินได้นาน การเดินทางของที่นี้ มีหลายแบบ ส่วนมากเราจะไปกันโดยนั่งรถไฟ เพราะค่อนข้างง่ายและไปซับซ้อนมาก แค่มี App National Rail ก็แค่กดเลือกจุดหมายปลายทางที่จะไป จะมีรอบรถไฟ ราคา และ เวลาที่ใช้ในการเดินทาง ให้เราดูได้เลย

ปล. อันนี้ก็ได้เรียนรู้จากเพื่อนๆ ที่อยู่ที่นั่นก่อนสอนมาอีกทีแหละ และก็มีข้อแนะนำสำหรับคนที่มาเรียนนานเกิน 6 เดือน เราแนะนำให้ทำ Rail Card เป็นบัตรสำหรับนักเรียนใช้ในการลดราคาค่าเดินทางสำหรับไปต่างเมือง ลดไป 30% จาดราคาเต็ม (โอ้ววววโหวววดีงาม คือเอาจริงใช้เดินทางเข้าลอนดอนไม่กี่ครั้งก็คุ้มแล้ว คือดีงามมาก แนะนำว่าถ้าใครมาเรียนเนี่ยต้องทำเลย ) โดยเราต้องเสียค่าใช้จ่ายในการสมัครบัตรอยู่ที่ £30 บัตรใช้ได้ 1 ปี

จุดหมายของเราวันนี้คือ
1. Shop วิถีสตรีไทยงานใช้จ่ายต้องมา
2. ไปดูโบสถ์ขึ้นชื่อของเมืองนี้
3. ไปกินชา อย่างที่รู้กันว่าประเทศอังกฤษเนี่ย เค้าขึ้นชื่อเรื่อง Afternoon Tea งานนี้ไม่ลองไม่ได้แล้ว เพราะจากที่เราค้นข้อมูลมาก ที่เมืองที่เราจะไปวันนี้มี ร้านช้าชื่อดังที่ติด Top 20 ของเกาะอังกฤษอยู่ด้วยน๊า งานนี้ต้องลองซะแล้ววววว เป็นอันว่านัดกันกะเพื่อนแต่เช้า เพราะเราทุกคนต้องกลับไปกินข้าวที่บ้านก่อน 6 โมงเย็น พอไปถึงก็ไปหาข้าวกินกันก่อน มื้อเที่ยงวันนั้นเป็นอาหารญี่ปุ่น (เราเป็นมนุษย์ติดอาหารญี่ปุ่น) พอทานเสร็จแล้วก็ไปเดินเล่นในเมือง เมืองนี้เป็นเมืองค่อนข้างเล็ก แต่ด้วยความที่เป็นเมืองท่องเที่ยวทำให้มีร้านค้าเยอะหน่อย มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านเสื้อผ้า ของกระจุกกระจิก พอเริ่มย่อยก็ตัดสินใจไปร้าน Afternoon Tea กัน เพราะเพื่อนเกาหลีคนนี้ชอบชามากกกก นางบ่นจะไปตั้งแต่กินข้าวเสร็จแต่ด้วยความที่ทุกคนยังอิ่มอยู่ นางเลยต้องรอไปก่อน (ขอโทษเด้อ 55555) ร้านชามีชื่อว่า TINY TIM’S TEAROOM ร้านน่ารักมากกกก

ไปถึงก็ต่อแถวรอประมาน 5 นาที เพราะคนเยอะทั้งวัน โดยภาพรวม ชาดีงามมากกกกก ส่วนสโคนอร่อยดี แต่เราว่าเนื้อสโคนแห้งไปหน่อย ส่วนครีมกับแยมเค้าใช้ได้เลย อร่อยมาก แต่ตัวสโคนของร้านนี้ใหญ่จริงจังมาก คือ อันนึงเอาแบ่งกันกินสองคนได้ ยังเหลือ เราว่าคนที่นี้นิยมดื่มชากับสโคนนะ เป็นวิถีผู้ดี ชริมๆ เสร็จจากดื่มชาเราก็ไปโบสถ์ แต่วันนี้มีงานพอดีเราเลยเข้าไปดูข้างในไม่ได้ อ่อ!!! ลืมบอกไปเลยว่า โบสถ์นี้ เราต้องเสียเงินค่าเข้านะ ประมาน £10 แต่เพราะวันนี้เค้าปิดเลยได้แค่เดินดูรอบๆ ไม่มีภาพข้างในโบสถ์มาฝาก แต่ไม่เป็นไรนะ เมืองนี้อยู่ใกล้ๆ ไว้ก่อนกลับเราจะเก็บภาพมาฝากกัน

วันนี้ลาไปก่อนนะ ไว้จะแวะมาอัพเดทข่าวคราวเรื่อยๆ ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่ตามอ่านกัน ^^

เขียนโดย น้องบี่บี๋, Hilderstone College, Kent

ติดตามเรื่องราวของน้องบี่บี๋ได้ในตอนต่อไป >>