เรียนโทอังกฤษ ดูง่ายจัง? หลายๆ คนคงเคยได้ยินหรือเคยคิดแบบนี้
ส่วนตัวนี่ก็ได้แต่คิดกรี๊ดอยู่ในใจทุกครั้งที่ได้พบเจอประโยคนี้ พร้อมร้องออกมาเป็นเพลง “ไม่เจอะอย่างฉันใครจะเข้าใจ…” วันนี้เลยอยากจะมาไขข้อข้องใจให้กับใครต่อใครที่เกิดคำถามนี้อยู่บ่อยครั้ง แต่อยากจะขอถามกลับสั้นๆ ว่า เอาอะไรมาวัดหรอว่ามันเรียนง่ายหรือยาก? …สำหรับเรามันไม่มีที่ไหนเรียนง่ายหรอก ไม่ว่าจะในหรือต่างประเทศอยู่ที่ตัวเรามากกว่า ส่วนตัวเรามองว่าการเรียนการสอนที่นี่ค่อนข้างต่างจากบ้านเรา มันไม่มีการมานั่งบอกว่าทำอย่างงี้ๆ บทนี้นะ ตรงนี้นะ อะไรแบบนั้น เค้าเน้นให้เรากล้าคิดกล้าแสดงออก กล้าเสนอความคิดเห็น รู้จักจับประเด็นมาพูดคุย สำหรับเราตรงนี้แหละที่ยากเพราะมันไม่ค่อยคุ้นเคยกับการเรียนแบบนี้สักเท่าไหร่ ปกติก็เรียนไปตามตำรา อ่านแต่ในหนังสือตามหลักสูตรอ่ะเนอะ แต่ที่นี่คือ ให้ไปค้นคว้าเอง อาจจะมีไกด์ไลน์ให้ว่าประเด็นหลักคืออันนี้ แต่ใครจะลงลึก ละเอียดแค่ไหน สุดแล้วแต่ใจเจ้าจะไขว่คว้าเลยค่า แล้วไหนจะต้องปรับหูให้คุ้นชินกับภาษาอังกฤษอีก คิดดูแล้วกันจะเข้าเรียนแต่ละทีต้องมีสติและสตรองขนาดไหน.. เป็นลมแปป! แต่ข้อดีคือเราได้รู้จักระบบระเบียบวิธีคิด คิดเป็นแบบแผน มีหลักการมีเหตุผล มีลำดับขั้น พูดง่ายๆ คือ รู้จักวางแผนและบริหารจัดการให้เป็นระบบระเบียบ …แต่ก็อย่างว่าแหละ ถ้าไม่เจอกับตัวเองก็ไม่มีวันเข้าใจหรอก คนเราเดี๋ยวนี้ตัดสินจากสิ่งที่เห็น แค่เห็นโพสต์รูปไปเที่ยวสวยๆ ใช้ชีวิตสโลวไลฟ์ ก็คิดไปแล้วว่า โหยยย ชีวิตดีแน่ๆ แต่ความจริงใครจะรู้ว่าเจ้าตัวนั้น นั่งปั่นงานหัวฟู หน้าพังอยู่ห้อง คือไปทีนึงก็ถ่ายรูปกลับมาเป็นร้อย ก็อัพวนไปซิ อัพจนกว่างานจะเสร็จค่ะ!
เรื่องที่สำคัญที่ทุกคนต้องเจอและปรับตัวสำหรับคนที่กำลังจะไปเรียนหรือกำลัง เรียนโทอังกฤษ อยู่ คือเรื่องของการบริหารเวลาให้เหมาะสม ทั้งเวลาเรียนและเวลาส่วนตัว เราเป็นคนนึงที่มองว่าถ้าเรียนอย่างเดียว ไม่เที่ยวเลยก็เครียดตาย มันเหมือนกดดันตัวเองเกินไป … อันนี้ประสบการณ์ตรงจากเพื่อน นางเรียนดี ตั้งใจเรียนมาก เลิกเรียนเสร็จรีบกลับมาทำการบ้าน มีการอ่าน article ก่อนเข้าเรียนตลอดๆ แต่ด้วยความที่เครียดมากเกินไป เรียนอย่างเดียวไม่กล้าออกไปเที่ยวไหนเพราะกลัวจะเสียการเรียน ผลสุดท้ายตก! ก็เฟลไปดิ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไปเที่ยวๆ อย่างเดียว ไม่เข้าเรียนเลย ไม่อ่านไม่ตามไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ถ้าแบบนั้นก็เกินไปค่ะเกินไป เอาแบบพอดีๆ เนอะ บางคนเค้าก็เที่ยวก่อนเหมือนไปรีเซ็ตตัวเองก่อนที่จะไม่ได้เที่ยวอีกยาวๆ บางคนก็เรียนให้จบๆ เสร็จๆ แล้วรอเที่ยวแบบเต็มสตรีม จัดทริปใหญ่ทีเดียว ส่วนบางคนก็เรียนไปเที่ยวไป ดังนั้นประเด็นสำคัญก็อยู่ที่การบริหารจัดการของแต่ละคนแล้วล่ะว่าจะจัดการชีวิตยังไง ขอเรียกว่าใช้ชีวิตให้เป็น จัดสรรเวลาให้ถูกและปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสม จริงๆ แล้วต้องเสียน้ำตาและเครียดกันตั้งเท่าไหร่กว่าจะจบได้ในเวลาที่จำกัด ถ้าบริหารเวลาไม่เป็นติดเล่น ติดเที่ยวอย่างเดียว ก็ไม่ได้จบกันง่ายๆ หรอกค่ะ ส่วนที่เห็นว่าโพสต์รูปดูว่าชีวิต สโลว์ไลฟ์กันนั้น ก็ไม่ใช่การเฟคแต่อย่างใด แต่ใครล่ะใครจะมานั่งโพสต์รูปตัวเองโทรมๆ อยู่บ้าน หน้าสด คาดผมให้ดูละคะ เพราะเวลาเครียดมันก็คือเครียดกันมากจริงๆ มันก็เลยต้องหาวิธีระบายออกกันบ้าง การลงรูปนี่ก็เป็นวิธีหนึ่ง เชื่อเถอะ อีกอย่างถ้าเราบ่นทุกอย่างลงโซเชียล มันก็จะมีประเด็นกันไปอีกอย่าง สร้างความรำคาญตารำคาญใจต่อสาธารณะชนไปอีก!
ดังนั้น ใครที่กำลังเหมารวมว่ามาเรียนอังกฤษ ง่ายๆ ปีเดียวจบ มีเวลาเที่ยวเล่นเหลือเฟือ ขอให้ทำความเข้าใจและปรับทัศนคติใหม่นะคะ! ถ้าเข้าใจแล้ว ก็ไม่ไปเที่ยวเบ้ปากใส่ใครว่าชีวิตดีแล้วโนะ ;D แต่ถ้าใครยังไม่เชื่อ ขอเชิญชวนให้ลองมาประสบด้วยตัวเองค่ะ ค่าเงินกำลังถูกเลยค่ะตอนนี้ สมัครเรียนเลยค่ะ จะได้รู้ว่ามันเป็นอย่างที่เราบอกรึป่าว … เรียนอ่ะไม่ได้ง่าย แค่ต้องรู้จักใช้ชีวิต สวัสดีค่ะ : )
สนใจเรียนต่อ University of Leicester ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเรียนต่อและคำปรึกษาจากพี่ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทย ฟรี คลิก