10 เคล็ดลับในการเขียน SoP
Tips: เราได้เคยนำเสนอมาก่อนหน้านี้ถึง วิธีการเขียน Statement of Purpose (SoP) ซึ่งเป็นการแนะนำตัวเองให้มหาวิทยาลัยรู้จัก คุณสามารถคลิกอ่านบทความแรกได้ที่นี่
บทความนี้เรามีเคล็ดลับเพิ่มเติมที่จะช่วยให้ Statement of Purpose ของคุณยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น แม้ว่าการเขียน Statement of Purpose จะไม่สามารถช่วยให้คุณเข้าเรียนมหาวิทยาลัยชั้นนำได้หากเกรดเฉลี่ยของคุณไม่สูงพอ แต่มันก็ช่วยได้บ้างหากเกรดเฉลี่ยต่ำกว่าเกณฑ์ของมหาวิทยาลัยเล็กน้อย
1. เขียนเกี่ยวกับเรื่องของตัวเองเท่านั้น
เขียนเกี่ยวกับ ตัวคุณล้วนๆ Statement of Purpose เป็นเรียงความแนะนำตนเอง ถือเป็นครั้งแรกที่คุณแนะนำตัวเองกับมหาวิทยาลัย เขียนเรื่องตัวเองและสิ่งที่คุณเคยทำให้มากๆ ไม่ต้องไปเกริ่นถึงคนอื่น ยกเว้นคนนั้นเป็นแรงบันดาลใจหรือทำให้คุณตัดสินใจไปเรียนสหราชอาณาจักร อันนี้ก็สามารถพูดถึงได้
2. ควรเขียน Statement of Purpose ให้โดดเด่นไม่ซ้ำใครและเป็นตัวเองมากที่สุด
ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้บอกว่าใครเป็นคนอ่าน Statement of Purpose แต่ละมหาวิทยาลัยมีคนพิจารณาใบสมัครไม่เหมือนกัน ในบางครั้งคนที่ดูและเลือกนักศึกษาสำหรับหลักสูตร/คณะอาจจะมีเพียงคนเดียว อาจเป็นอาจารย์หรือคนภายนอกที่ทำหน้าที่รับนักศึกษาใหม่ก็ได้ พวกเขาเคยอ่าน SoP มาเป็นร้อยเป็นพันครั้ง ฉะนั้นคุณควรเขียนให้โดดเด่นไม่ซ้ำใครและเป็นตัวเองมากที่สุด
3. อย่าใช้ภาษาที่มีความซับซ้อนมากเกินไป
ข้อผิดพลาดที่มักจะเกิดขึ้นโดยมากคือใช้คำที่ฟังดูดี น่าประทับใจ แต่ไม่เข้ากับประโยคที่เขียน ทำให้เจ้าของภาษาอ่านแล้วแปลก แถมดูหลอกๆ อีกด้วย เราอยากแนะนำให้ใช้คำที่คุณคุ้นเคยและลืมพจนานุกรมศัพท์หรูๆ ออกไปเลย การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพจำเป็นมาก
4. เลี่ยงการใช้คำพูดของคนดัง
Statement of Purpose จำนวนมากเริ่มต้นด้วยคำพูดที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของใครบางคน ซึ่งการเขียนด้วยวิธีนี้ก็ดี แต่มีนักเรียนใช้กันเยอะแล้ว มันจะดูเหมือนเขียนซ้ำๆ กัน ฉะนั้นควรเน้นไปที่เรื่องของตัวเองและความพยายามของคุณ อย่าพูดถึงเรื่องของคนอื่น แต่หากคุณมีคำพูดเฉพาะตัวที่พิเศษไม่ซ้ำใครและเหมาะกับตัวคุณก็สามารถหยิบยก มาเขียนได้
5. เลี่ยงการเขียนบทความขัดแย้ง
ปีที่แล้วมี Statement of Purpose หลายฉบับเขียนเรียงความเกี่ยวกับ ‘ข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้’ เช่น เส้นทางที่คุณเลือกตั้งแต่แรกจะอยู่กับคุณไปตลอดชีวิต ในความเป็นจริงมีคนจำนวนมากเปลี่ยนเส้นทางในภายหลัง คุณควรเปลี่ยนมาพูดถึงความรู้สึกที่คุณมีต่อหัวข้อหรือประเด็นนั้นๆ จะดีกว่าการบอกข้อเท็จจริงล้วนๆ
6. รู้จักวิเคราะห์
การเขียนสิ่งที่คุณเคยทำมาในอดีตเป็น เรื่องง่ายเกินไป คุณควรอธิบายสิ่งที่คุณได้จากประสบการณ์และความเหมาะสมในการเข้าเรียนในหลัก สูตร คุณจะต้องตีโจทย์หัวข้อของเรียงความที่ทางมหาวิทยาลัยให้เขียน คราวนี้คุณจะได้แสดงศักยภาพของคุณให้มหาวิทยาลัยเห็นสักที
7. สั้นและตรงประเด็น
ครั้งแรกที่นักเรียนเขียนเรียงความมาให้เราดูที่บริษัท ส่วนมากจะเขียนมา 2-3 หน้า เราอยากบอกว่าการเขียนมาเยอะๆ ไม่ใช่ว่าจะดีนะคะ ปีๆ นึงเจ้าหน้าที่รับนักศึกษาใหม่ต้องอ่าน Statement of Purpose ของผู้สมัครเกือบ 5,000 ฉบับ มีเวลาอ่านฉบับๆ หนึ่งไม่นานนัก พวกเขาอยากเห็นผู้สมัครที่สื่อสารได้ดีและมีประสิทธิภาพ ไม่จำเป็นต้องเขียนทุกเรื่องที่คุณเคยทำมาในชีวิต แต่ให้เขียนเฉพาะเรื่องสำคัญเท่านั้น ประมาณ 1 หน้า หากเขียนยาวเจ้าหน้าที่ก็คงไม่ได้อ่านจนจบ
8. เขียนสิ่งที่มหาวิทยาลัยอยากรู้ เจ้าหน้าที่รับนักศึกษาใหม่ต้องการรู้ 3 อย่าง
8.1 ความสามารถในการเรียนในหลักสูตร คุณควรเขียนประวัติการศึกษาสักเล็กน้อยหรือไม่ก็ประสบการณ์การทำงานในสายงาน ที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรที่คุณสมัครเรียน
8.2 สิ่งที่คุณจะให้กับชั้นเรียน การเรียนในสหราชอาณาจักรแตกต่างกับประเทศไทยมาก เพราะที่สหราชอาณาจักรต้องมีการโต้ตอบ ถกเถียง โต้แย้งกันในห้องเรียน ขอแนะนำให้เขียนเล่าประสบการณ์อะไรก็ได้ที่คุณเคยทำในฐานะผู้นำหรือช่วย เหลือผู้อื่น
8.3 หลังจากที่คุณเรียนจบแล้วคุณอยากเป็นอะไร ทุกมหาวิทยาลัยต้องการนักเรียนที่จบไปแล้วได้งานที่ดีบริษัทที่มีชื่อเสียง เพราะนี่เป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับทางมหาวิทยาลัย แนะนำให้เขียนเล่าแผนการที่สมเหตุสมผลในอนาคตของคุณหลังจากสำเร็จการศึกษา
9. อย่าลอก Statement of Purpose คนอื่นหรือจากอินเตอร์เน็ต
ถือเป็นการขโมยความคิดและถ้ามหาวิทยาลัยรู้ คุณจะถูกปฏิเสธทันที อย่าพยามเป็นเหมือนคนอื่น ให้เป็นตัวของตัวเองดีที่สุด
10. สุดท้ายให้ เจ้าของภาษาเป็นผู้ตรวจทาน Statement of Purpose ของคุณ
Hands On เสนอบริการให้คำแนะนำเทคนิคเพื่อพิชิตใจมหาวิทยาลัยและตรวจทาน Statement of Purpose โดย Matthew Jarvis เจ้าของภาษา ผู้มีประสบการณ์หลายปีในด้านการแนะนำการเขียน Statement of Purpose ผ่านการจัดเวิร์คช็อป SoP Clinic ซึ่งสามารถดูวันเเละเวลาล่าสุดได้ที่หน้าเว็บไซต์ของเราค่ะ