Hands On Education Consultants

25 วิธีเรียนภาษาอังกฤษให้ได้ผล

1. กล้าที่จะพูดภาษาอังกฤษ

2. ฝึกฝนภาษาอังกฤษทุกวัน และควรฝึกให้ครบทั้ง 4 ทักษะ คือ ฟัง พูด อ่าน และเขียน ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะท่องคำศัพท์ อ่านบทความ/หนังสือภาษาอังกฤษ ฟังเพลงหรือดูหนังภาพยนตร์ต่างประเทศ

3. มีสมุดจดคำศัพท์และพกติดตัวอยู่เสมอ

4. พยายามทำแบบทดสอบภาษาอังกฤษอยู่สม่ำเสมอ

5. พยายามค้นหาทำยังไงคุณถึงจะเรียนได้ผลดีสุด เพราะแต่ละคนมีการเรียนและจดจำแตกต่างกัน บางคนจดจำได้ดีด้วยการอ่าน บางคนจำได้ด้วยการเขียน หรือบางคนเรียนและจดจำได้ดีเมื่ออยู่ในที่ที่สงบๆ แต่บางคนกลับจดจำได้ดีเมื่อเรียนเป็นกลุ่มกับเพื่อนๆ


6. เมื่อเริ่มเรียนบทเรียนใหม่ ก็ควรทบทวนบทเรียนเก่าด้วยอย่างสม่ำเสมอ

7. เมื่อมีคำศัพท์ใหม่มา คุณควรเรียนรู้ตามรูปแบบด้านล่างเพื่อจะได้จดจำง่ายขึ้น ตัวอย่าง

Beautiful (adjective), beauty (noun),beautifully (adverb)

8. ขจัดข้อสงสัยและความไม่เข้าใจด้วยการถามอาจารย์ผู้สอนหรือเพื่อนร่วมชั้นเรียน อย่าอายที่จะถามหรือเก็บมันไว้

ขอบคุณภาพจาก visitlondon.com

9. หากเจอคำศัทพ์ที่ไม่เข้าใจในประโยค ให้ดูคำศัพท์อื่นรอบๆ คำศัพท์นั้นก่อน เพราะคำศัพท์เหล่านั้นจะช่วยบอกใบ้แก่คุณ จากนั้นลองเดาความหมายของคำศัพท์นั้นดูค่ะ

10. ศึกษารากคำศัพท์ต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถเดาความหมายของคำศัพท์ได้ง่ายขึ้น อย่างเช่น

scrib = write ตัวอย่าง subscribe = ลงนามเป็นสมาชิก, บอกรับเป็นสมาชิก, เซ็นชื่อข้างท้าย

min= small ตัวอย่าง minimal = เล็กที่สุด, น้อยที่สุด

11. ศึกษา prefix และ suffix เพราะจะช่วยให้คุณสามารถเดาความหมายของคำศัพท์ได้มากเลยทีเดียว

ขอบคุณภาพจาก www.twinkl.co.uk

12. ภาษาอังกฤษจะไม่เหมือนกับภาษาญี่ปุ่นหรือภาษาฝรั่งเศส เพราะคำศัพท์ภาษาอังกฤษจะมีการลงเสียงหนัก/เบา หรือ stress นั่นเอง

ส่วนการลง stress จะลงเพียงแค่ 1 ครั้งต่อคำเท่านั้น และมักที่ลง stress ที่เสียงสระเป็นส่วนใหญ่ เช่น

begin, happy, teacher

หมายเหตุ: สีส้ม คือ ตัวที่ลง stress

13. ดู DVD เป็นเสียง soundtrack ตอนแรกๆ อาจจะเปิด subtitle ด้วย เพื่อให้คุณเข้าใจประโยค แต่ในรอบถัดไป ลองทดสอบตัวเองโดยเลือกดูแบบไม่มี subtitle

ข้อดีของการฝึกภาษาอังกฤษโดยดู DVD

1. สามารถดูและฝึกฝนได้หลายๆ รอบ สามารถเลือก subtitle เป็นภาษาอังกฤษได้ คุณสามารถฝึกทั้งการฟังและการอ่านได้ ทำให้คุณจดจำได้ดี
2. สามารถนำคำศัพท์และประโยคมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ เพราะประโยคที่พูดกันในหนัง จะเป็นภาษาพูดไม่ใช่ภาษาเขียน

14. หากเรียนด้วยตัวเอง ไม่ควรเรียนนานกว่า 30 นาที ควรหาเวลาพักสมอง สูดอากาศและยืดเส้นเส้นสายบ้าง

15. ไม่ควรแปลประโยคจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย ควรคิดเป็นภาษาอังกฤษและพูดกับตัวเอง การฝึกวิธีนี้จะทำให้คุณใช้ภาษาอังกฤษได้คล่องขึ้น

ขอบคุณภาพจาก visitlondon.com

16. อ่านหนังสือพิมพ์ นอกจากจะได้รับรู้ข่าวสารแล้ว หนังสือพิมพ์นี่แหละ เป็นแหล่งที่ดีแหล่งหนึ่งที่คุณจะได้ฝึกฝนภาษาอังกฤษ

ขอบคุณภาพจาก www.bdchronicle.com

17. หากคุณเจอคำศัพท์ใหม่ที่คุณไม่เข้าใจ อย่ารีบแปลคำศัพท์นั้น ให้อ่านบทความโดยรวมเสียก่อน จากนั้นค่อยกลับไปหาคำศัพท์นั้น

18. พยายามใช้ภาษาอังกฤษให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

www.embassyenglish.com

19. หาโอกาสทำงานหรือฝึกงานกับบริษัทต่างชาติหรือที่ต่างประเทศ เพราะสิ่งแวดล้อมจะช่วยผลักดันให้คุณต้องใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น

20. หากคุณรู้สึกว่าทำไมภาษาอังกฤษยากเหลือเกิน อย่ายอมแพ้ คิดบวกและพยายามเข้าไว้ แล้วคุณก็จะประสบความสำเร็จในที่สุด

21. หากคุณโอกาสได้ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ไม่ควรอยู่กับแต่เพื่อนที่มาจากประเทศเดียวกัน ลองหาเพื่อนใหม่ๆ จากประเทศอื่นบ้าง เพราะนอกจากคุณจะได้ใช้ภาษาอังกฤษแล้ว ยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมจากประเทศอื่นด้วยค่ะ

22. อย่าคิดว่าคุณยังเด็กเกินไปหรือแก่เกินกว่าที่จะเรียนรู้ ขอบอกเลยว่าการเรียนรู้ไม่มีคำว่าสายเกินไปค่ะ แล้วคุณจะรออะไรอยู่ล่ะ 🙂

23. ควรใช้คำให้ถูกกาละเทศะ คุณสามารถใช้คำแสลงเวลาคุยกับเพื่อนได้ แต่อย่าใช้เมื่อคุยเรื่องงานหรือธุรกิจ

24. อย่าละเลย phrasal verbs เพราะมักเจอบ่อยในบทความต่างๆ

25. เรียนภาษาอังกฤษผ่านทางอินเตอร์เน็ต ตัวอย่างเช่น BBC Learning English

ขอบคุณข้อมูลจาก: www.ecenglish.com