“ก็เปรียบเทียบ 6 ประเทศกันไปเลยสิคะ” พี่ Hands On ขอแนะนำ 6 ประเทศน่าเรียนภาษา ที่ทาง Hands On เป็นตัวแทน มาให้น้อง ๆ ที่กำลังมองหาคอร์สเรียนภาษาอังกฤษ หรือผู้ปกครองที่กำลังวางแผนส่งลูกหลานไปเรียนภาษาอังกฤษที่ต่างประเทศ แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปประเทศไหนดี ทางเราได้รวบรวมข้อมูลจุดเด่นของแต่ละประเทศเอาไว้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจเลือกประเทศกันค่ะ

แนะนำ 6 ประเทศน่าเรียนภาษา รีบอ่านก่อนเลือกประเทศผิด

—
1. United Kingdom (UK) 🇬🇧

UK หรือสหราชอาณาจักร ประกอบด้วย 4 ประเทศ คือ อังกฤษ สกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ โดยสหราชอาณาจักรถือเป็นผู้วางรากฐานการศึกษาโลกและยังคงสถานะผู้นำทางการศึกษาโลกมาจนถึงปัจจุบัน นอกเหนือจาก Oxford หรือ Cambridge ที่ผลัดกันรั้งตำแหน่งอันดับ 1 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกแล้ว UK ยังมีอีกหลายมหาวิทยาลัยที่ตบเท้าเข้าครองตำแหน่ง Top 100 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก
และถ้าพูดถึงเรื่องการเรียนภาษาอังกฤษ จะมีที่ไหนที่ดีไปกว่าการไปเรียนต่อที่ประเทศต้นฉบับเจ้าของภาษา จริงไหมคะ? ที่ UK มีเมืองหลายแบบ หลาย lifestyle ให้น้อง ๆ ได้เลือก ไม่ว่าจะ ชอบเมืองการศึกษาอย่าง Oxford หรือ Cambridge ชอบกีฬา ก็มีทั้ง Liverpool, Manchester หรือ Leicester ชอบความ city จ๋า ๆ ก็ต้อง London เป็นต้น

จุดเด่น

• ได้เรียนภาษาอังกฤษแบบฉบับ British English
• เป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งศิลปะ วัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมที่สวยงาม
• เป็นประเทศที่สามารถผสมผสานความหลากหลายทางวัฒนธรรมเข้าไว้ด้วยกันได้เป็นอย่างดี
• สามารถเดินทางท่องเที่ยวประเทศในยุโรปได้สะดวก

__________

2. USA 🇺🇸

“อเมริกา” ประเทศแห่งสิทธิและเสรีภาพ น้อง ๆ ที่อยากไปเรียนต่อต่างประเทศจะต้องมีตัวเลือกเป็นที่อเมริกาอยู่ในใจกันแน่นอน เพราะที่อเมริกาเป็นจุดหมายของนักศึกษาต่างชาติทั่วโลก มีชื่อเสียงด้านคุณภาพการศึกษาที่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้นำการศึกษาโลก มีมหาวิทยาลัยที่ขับเขี้ยวกับสหราชอาณาจักรเรื่องการเป็นที่หนึ่งของโลก และยังมีโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่คุณภาพระดับ world class
อเมริกาเป็นประเทศใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก ประกอบด้วยรัฐ 50 รัฐ และหนึ่งเขตปกครองกลาง แต่ละรัฐแต่ละเมืองก็จะมีความหลากหลายทั้ง lifestyle วัฒนธรรม สภาพแวดล้อมหรือแม้กระทั้งกิจกรรมท่องเที่ยวก็มีให้เลือกแบบไม่ซ้ำ เมืองที่นักเรียนนิยมไปเรียนภาษาได้แก่ New York, Boston, San Diego เป็นต้น

จุดเด่น

• ได้เรียนภาษาสำเนียง American ซึ่งเป็นสำเนียงที่คนไทยคุ้นเคยกัน
• เป็นประเทศทันสมัย และเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี
• ประเทศใหญ่และพื้นที่เยอะ ทำให้แต่ละรัฐให้ประสบการณ์ที่แตกต่างกัน
• ผู้คนมีความหลากหลายชอบความท้าทาย พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ตลอดเวลา
• ไปเรียนภาษาที่อเมริกาทั้งที จะได้มีโอกาสตะลุย 50 รัฐ เก็บประสบการณ์ชีวิตลงกระเป๋าเดินทางของตัวเองก่อนกลับไทยแน่นอน

__________

3. Australia 🇦🇺

ที่ออสเตรเลียก็เป็นตัวเลือกที่เด็กไทยส่วนใหญ่เลือกไปเรียนต่อ เพราะอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากประเทศไทย ค่าใช้จ่ายไม่แพง สภาพภูมิอากาศดีไม่ร้อนและไม่หนาวจนเกินไป มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ พร้อมชายหาดที่ล้อมรอบประเทศ ไม่ว่าจะเลือกเรียนที่เมืองอะไรก็สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวเมืองอื่น ๆ ได้สะดวก เป็นประเทศที่ต้อนรับนักศึกษาต่างชาติ ผู้คนน่ารักและเป็นกันเอง มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ที่ออสเตรเลียมีโรงเรียนสอนภาษาและมหาวิทยาลัยชั้นนำติดอันดับโลก และมีถึง 5 เมืองติด 10 อันดับเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลกประจำปี 2021 (โดย Economist Intelligence Unit) ได้แก่ Adelaide, Perth, Melbourne, Sydney และ Brisbane

จุดเด่น

• เปิดโอกาสให้นักเรียนที่มาเรียนภาษาทำงาน Part time ได้!
• เวลาต่างจากที่ไทยประมาณ 4-5 ชั่วโมง และใช้เวลาเดินทางไม่นาน
• กิจกรรมเยอะ ได้ท่องเที่ยวกับธรรมชาติอย่างเต็มที่ มีชายหาดเยอะ จะดำน้ำหรือเล่นเซิร์ฟ ก็ทำได้
• คนไทยเยอะ ไม่เหงา มีเพื่อนแน่นอน
• มีระบบคมนาคมที่สะดวกสบาย สามารถท่องเที่ยวเมืองอื่น ๆ ได้ง่าย

__________

4. New Zealand 🇳🇿

เป็นประเทศที่น่าจับตามองมาก ๆ ในช่วงโควิด-19 เพราะที่นิวซีแลนด์สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ยอดเยี่ยมจนทำให้เมือง Auckland ขึ้นอันดับหนึ่งเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลกประจำปี 2021 (โดย Economist Intelligence Unit) ที่นิวซีแลนด์ยังมุ่งมั่นพัฒนาด้านการศึกษาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี การศึกษาของที่นิวซีแลนด์มุ่งเน้นทักษะเพื่อให้ผู้เรียนนำไปใช้ได้ตลอดชีวิต แถมที่นี่ดูแลนักเรียนต่างชาติดีมาก เป็นประเทศที่ปลอดภัย ได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความสงบสุขที่สุดในโลก ติดต่อกันเป็นเวลาถึง 9 ปี เรียกได้ว่าใครไปนิวซีแลดน์ก็คงต้องตกหลุมรักประเทศนี้แน่ ๆ

จุดเด่น

• เปิดโอกาสให้นักเรียนที่มาเรียนภาษาทำงาน Part time ได้!
• ผู้คนเป็นมิตร ยินดีต้อนรับและช่วยเหลือนักศึกษาต่างชาติ
• เป็นประเทศที่สงบสุขและทุจริตน้อยที่สุดในโลก แน่นอนว่ามีความปลอดภัยสูง
• สามารถท่องเที่ยวในประเทศได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะไปเดินป่า เที่ยวภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ หรือชายหาด
• ให้ความสำคัญกับ work-life balance และความเท่าเทียมทางเพศ

__________

5. Canada 🇨🇦

แคนาดาเป็นประเทศที่มีคุณภาพการศึกษาสูง หลักสูตรและการสอนมีความทันสมัย มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม มีชื่อเสียงด้านความปลอดภัย อัตราการก่ออาชญากรรมต่ำมาก และยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่ดีที่สุดในโลกในปี 2021 (โดย U.S. News and World Report) มีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่หลากหลายและสวยงาม เช่น Rocky Mountains, Banff National Park, Niagara Falls เป็นต้น นอกจากนี้ 3 เมืองใหญ่ของแคนาดายังมีมหาวิทยาลัยติดอันดับ Top 50 QS World University Rankings 2021 ซึ่งได้แก่ Toronto, Montreal และ Vancouver

จุดเด่น

• มีมาตราฐานการศึกษาดี เป็นที่ยอมรับทั่วโลก
• เป็นประเทศที่ดีที่สุดในโลกในปี 2021 และมีความปลอดภัยสูง
• คุณภาพชีวิตดีอันดับ 1 ของโลก (2019 US News’ world report)
• สัมผัสกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ แบบวิวหลักล้าน
• มีภาษาราชการ 2 ภาษาคือ ภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส ไปเรียนภาษาอังกฤษอาจจะได้ภาษาฝรั่งเศสกลับมาด้วย

__________

6. Singapore 🇸🇬

เป็นประเทศที่ครองอันดับ 1 ใน ASEAN ทางด้านการศึกษา อาจารย์ทุกคนมีความตั้งใจพร้อมที่จะมอบความรู้ให้กับนักเรียนทุกคนอย่างสุดความสามารถ บ้านเมืองสะอาด และต้องถือว่าเป็นประเทศที่มีความวุ่นวายน้อยกว่าเมืองใหญ่ ๆ ในประเทศอื่น ๆ ผู้คนตรงต่อเวลาและมีระเบียบวินัยสูง เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ส่วนใครที่ชอบกินอาหารแนว street food ต้องไม่พลาด นอกจากจะมีความหลากหลายแล้วยังอร่อยและราคาไม่แพง ที่สิงค์โปร์มีแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอย่างเกาะ Sentosa ให้ได้พักผ่อนและมีกิจกรรมให้ทำมากมาย

จุดเด่น

• อยู่ใกล้ประเทศไทยมากที่สุดเดินทางสะดวก เวลาต่างจากที่ไทยไม่กี่ชั่วโมง
• เป็นประเทศที่มีความอินเตอร์สูง มากกว่า 40% เป็นชาวต่างชาติ
• มีระบบการเรียนการสอนตามมาตราฐานสากล
• มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและกิจกรรมให้ทำมากมาย
• อาหารมีให้เลือกหลากหลายทั้ง มาเลย์ จีน อินเดีย ตะวันตก และยุโรป

__________

📌 ทั้ง 6 ประเทศต่างก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน แต่หนึ่งสิ่งที่เหมือนกันก็คือไม่ว่าจะเลือกเรียนภาษาที่ประเทศอะไร น้อง ๆ จะได้ความรู้ และประสบการณ์การใช้ชีวิตในต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ หากเลือกประเทศที่ต้องการไปเรียนต่อได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคืออะไร สามารถหาคำตอบได้ที่ เช็คลิสต์ สำหรับคนอยากไปเรียนภาษาที่เมืองนอก แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง

สำหรับค่าใช้จ่ายของแต่ละประเทศขึ้นอยู่กับเมือง ที่พัก และระยะเวลาในการเลือกเรียนภาษาของเราค่ะ รายละเอียดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสามารถกรอกข้อมูลที่แบบฟอร์มด้านล่างเพื่อให้พี่ Hands On ติดต่อกลับไปให้ข้อมูลโดยตรงได้เลยค่ะ หรือ Add Line มาพูดคุยกันได้ที่ @handson