เคยสงสัยไหม? เรียนภาษาอังกฤษมาตั้งนานแต่ทำไมพูดไม่ได้สักที การเรียนภาษาต่างประเทศนั้น ไม่ว่าจะเป็นภาษาอะไรก็ตาม นอกจากการเรียนหลักไวยากรณ์หรือการท่องคำศัพท์แล้ว การฝึกฝนบ่อย ๆ และนำสิ่งที่เรียนไปฝึกใช้จริงก็สำคัญไม่แพ้กัน อย่างไรก็ตาม หลาย ๆ คนอาจจะไม่ได้มีโอกาสฝึกใช้ภาษามากนักในชีวิตประจำวัน ดังนั้น การเรียนภาษาที่ต่างประเทศก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับใครหลาย ๆ คนที่อยากจะพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษแบบก้าวกระโดดเพื่อนำไปต่อยอดในอนาคต พร้อมหาประสบการณ์และแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตผ่านผู้คนและวัฒนธรรมที่หลากหลายในต่างประเทศ บทความนี้ Hands On Education Consultants จะมาแนะนำ 8 ประเทศยอดฮิตเหมาะกับการบินไปเรียนภาษาอังกฤษระยะสั้นที่ต่างประเทศ พร้อมเปรียบเทียบและเจาะลึกทั้งบรรยากาศการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของผู้คนจากแต่ละประเทศ
สหราชอาณาจักร (United Kingdom) 
สำหรับใครที่อยากสัมผัสชีวิตในเมืองแห่งประวัติศาสตร์ระดับโลกจากฝั่งยุโรป ต้องเลือกมาเรียนภาษาที่สหราชอาณาจักรเลย เพราะที่นี่มีครบทั้งพิพิธภัณฑ์ชื่อดัง โรงละครเก่าแก่ และ หอศิลป์มากมายที่รวบรวมและเก็บรักษาผลงานศิลปะของจิตรกรผู้ล่วงลับไปกว่าร้อยปี เช่น The British Museum และ The National Gallery อีกทั้งยังเป็นแหล่งรวมความเจริญก้าวหน้าทางอุตสาหกรรม เทคโนโลยีและธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงมีระบบการศึกษาที่อัดแน่นด้วยคุณภาพและได้รับการยอมรับในระดับสากล นอกจากนั้น สหราชอาณาจักรยังเป็นต้นกำเนิดภาษาอังกฤษอย่างแท้จริง จึงมั่นใจได้ว่าการมาเรียนภาษาที่นี่ จะได้ฝึกความคุ้นชินในการใช้ภาษากับ Native Speaker โดยตรง ฝึกฝนสำนวนและวลีที่หลากหลาย สำเนียงและการออกเสียงที่ถูกต้อง ผ่านบทเรียนในห้องเรียนและการใช้ชีวิตประจำวัน เมืองที่น่าไปเรียนต่อ ได้แก่ London, Brighton, Bristol, Cambridge และ Manchester เป็นต้น
ตัวอย่างสถาบันสอนภาษาใน UK
ประเทศออสเตรเลีย (Australia) 
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ประเทศออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศยอดฮิตของนักเรียนไทยในปัจจุบันที่อยากไปฝึกภาษาที่ต่างประเทศ เพราะนอกจากคุณภาพการศึกษาที่ได้มาตรฐานระดับสากลแล้ว บ้านเมืองก็น่าอยู่ อากาศดี ความปลอดภัยสูง ผู้คนมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมเป็นอย่างมาก ทำให้นักเรียนต่างชาติปรับตัวได้ไม่ยากและมีโอกาสได้ฝึกใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารแบบจัดเต็ม ยิ่งไปกว่านั้น ทำเลที่ตั้งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากประเทศไทยมากนักและมีสภาพอากาศใกล้เคียงกับประเทศไทยอีกด้วย น้อง ๆ นักเรียนไทยที่ไปเรียนภาษาก็สามารถทำงาน Part-time ระหว่างเรียนได้แบบถูกกฎหมาย เรียกได้ว่าเหมาะกับการไปเก็บประสบการณ์ชีวิตสุด ๆ เมืองที่น่าไปเรียนต่อได้แก่ Brisbane, Melbourne, Sydney, Adelaide และ Perth เป็นต้น
ตัวอย่างสถาบันสอนภาษาใน Australia
ประเทศนิวซีแลนด์ (New Zealand) 
นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติสีเขียว มีเทือกเขาสูงพาดผ่าน บ้านเมืองสงบ ผู้คนต่างใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่าย บรรยากาศเหมาะกับการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษแบบชิล ๆ อีกทั้งที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทำให้ผู้คนใช้ภาษาอังกฤษกันเป็นหลักและมีความเป็นมิตรกับชาวต่างชาติสูง ดังนั้น เพื่อน ๆ ที่กำลังวางแผนมาเรียนภาษาที่นิวซีแลนด์ ไม่ต้องกังวลเรื่องการปรับตัวให้เข้ากับคน Local เลย นอกจากนั้น ค่าครองชีพก็ไม่แรงมากเมื่อเทียบกับ UK และ Australia ใครที่มองหาบรรยากาศชิล ๆ ในการฝึกภาษาอังกฤษและคนไทยยังไม่เยอะมาก ประเทศนิวซีแลนด์ตอบโจทย์สุด ๆ เมืองที่น่าไปเรียนต่อได้แก่ Auckland และ Wellington เป็นต้น
ตัวอย่างสถาบันสอนภาษาใน New Zealand
สหรัฐอเมริกา (United States) 
ออกไปใช้ชีวิตให้เต็มที่กับประเทศที่ขึ้นชื่อว่ามีเสรีภาพมากที่สุดในโลก สหรัฐอเมริกา ประเทศมหาอำนาจที่เต็มไปด้วยอิทธิพลทางวัฒนธรรม เศรษฐกิจ การเมือง และ การเงินในระดับโลก เปิดโอกาสให้การมาเรียนภาษาที่นี่เต็มไปด้วยเรื่องน่าตื่นตาตื่นใจและความท้าทายนอกห้องเรียน พร้อมสร้างเสริมความมั่นใจของผู้เรียนให้กล้าพูด กล้าคิด กล้าแสดงออกด้วยภาษาอังกฤษอย่างเต็มที่ สัมผัสชีวิตและวัฒนธรรมแบบชาวอเมริกา ฝึกฝนทักษะการใช้ชีวิตพร้อมพบปะผู้คนจากหลากหลายเชื้อชาติ เมืองที่น่าไปเรียนต่อได้แก่ Boston, New York, San Francisco, California และ Oregon เป็นต้น
ตัวอย่างสถาบันสอนภาษาใน United States
ประเทศแคนาดา (Canada) 
แคนาดา หนึ่งในประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยและมีอาชญากรรมเกิดขึ้นน้อยที่สุด! ด้วยเหตุผลนี้ ทำให้การออกไปใช้ชีวิตนอกห้องเรียนนั้นสนุกสุด ๆ เพราะที่นี่นอกจากจะมีพื้นที่สีเขียวเยอะและธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ยังมีกิจกรรมนอกห้องเรียนอื่น ๆ ให้ได้ทำอีก เช่น ปีนผา เล่นสกี แล่นเรือใบ พายเรือคายัค อีกทั้งสถาบันสอนภาษาส่วนใหญ่มักจะมี Social Programmes ให้ผู้เรียนได้ออกไปสัมผัสชีวิตนอกห้องเรียนพร้อมกับเพื่อน ๆ และฝึกทักษะทางภาษาอังกฤษร่วมกัน เรียกได้ว่าครบทั้งได้ความรู้ ได้พัฒนาภาษาอังกฤษ และได้ประสบการณ์ดี ๆ กลับไปแน่นอน ใครมองหากิจกรรม Adventure ทำระหว่างเรียนภาษา ต้องเลือกมาเรียนที่แคนาดาเลย เมืองที่น่าไปเรียนต่อได้แก่ Toronto และ Vancouver เป็นต้น
ตัวอย่างสถาบันสอนภาษาใน Canada
สาธารณรัฐมอลตา (Malta) 
สาธารณรัฐมอลตา ประเทศที่มีลักษณะเป็นหมู่เกาะเล็ก ๆ อยู่ในทวีปยุโรป อีกทั้งเคยได้รับการคัดเลือกให้เป็น “เมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมยุโรป” ในปี 2018 และถึงแม้ว่าจะเป็นประเทศเล็ก ๆ แต่ สาธารณรัฐมอลตาก็ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ มีความหลากหลายทาง Civilizations ภาษาอังกฤษเองก็เป็น 1 ในภาษาหลักที่ผู้คนใช้สื่อสาร ที่นี่จึงเหมาะมากกับคนที่อยากเรียนภาษาไปด้วย หาเวลาพักผ่อนไปด้วย อีกทั้งค่าเรียนและค่าครองชีพไม่สูงมาก ใครอยากฉีกแนวหาที่เรียนภาษาพร้อมที่เที่ยวแถบเมดิเตอร์เรเนียน ต้องเลือกมาเรียนภาษาที่นี่เลย
ตัวอย่างสถาบันสอนภาษาใน Malta
ดูไบ (Dubai) 
มหานครดูไบ จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมืองแห่งเทคโนโลยีทันสมัยและมีเศรษฐกิจเติบโตไวจนเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการเงินระดับโลก ปัจจุบันมีชาวต่างชาติอาศัยอยู่มากกว่า 80% ทำให้ภาษาอังกฤษเป็นหนึ่งในภาษาหลักที่ใช้ในการสื่อสารมากที่สุด การมาเรียนต่อที่นี่ นอกจากจะได้พัฒนาภาษาอังกฤษแล้ว ยังสามารถสร้างมิตรภาพและคอนเนคชั่นได้จากเพื่อนรอบโลกอีกด้วย เรียกได้ว่ามีความเป็น International Community สูงมาก ๆ ยิ่งไปกว่านั้น มหานครดูไบยังเป็นศูนย์กลางการทำงานระดับนานาชาติ ใครที่กำลังมองหาโอกาสต่อยอดการเรียนต่อ หรือ ทำงานในต่างประเทศล่ะ เลือกมาเรียนภาษาที่ดูไบก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
ตัวอย่างสถาบันสอนภาษาใน Dubai
ประเทศสิงคโปร์ (Singapore) 
ประเทศเล็ก ๆ ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากประเทศไทยในแถบ Southeast Asia มีชื่อเสียงด้านการค้าขายและการทำธุรกิจ ทำให้เป็นประเทศที่มีชาวต่างชาติเดินทางเข้าออกอยู่ตลอด มีความเป็นนานาชาติสูง อีกทั้งคุณภาพการศึกษาได้มาตรฐานและดีที่สุดติดอันดับ Top 10 ของโลกเลยทีเดียว จึงไม่น่าแปลกใจถ้าที่นี่จะเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของนักเรียนไทยที่อยากมาพัฒนาภาษาอังกฤษ ดังนั้นใครที่มองหาประเทศใกล้ ๆ เดินทางง่าย บินไม่นาน และยังมีคุณภาพมาตรฐานการศึกษาระดับโลกก็ปักหมุดมาที่สิงคโปร์ได้เลย เมืองที่น่าไปเรียนต่อได้แก่ Orchard และ Bukit Timah เป็นต้น
ตัวอย่างสถาบันสอนภาษาใน Singapore
เรียนภาษาอังกฤษที่ต่างประเทศ ปรึกษา Hands On Education Consultants ฟรี
สำหรับน้อง ๆ วัยเรียน หรือ เพื่อน ๆ ที่ทำงานแล้ว และอยากเปลี่ยนบรรยากาศไปฝึกภาษาที่ต่างประเทศ พร้อมหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ชีวิต สามารถปรึกษา Hands On Education Consultant ฟรี! เพราะ Hands On เป็นตัวแทนและพาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการของโรงเรียนสอนภาษาชั้นนำในต่างประเทศมากกว่า 45 แห่ง คลิกดูรายชื่อสถาบันทั้งหมดที่นี่ 
