วันนี้เรามาลุ้นว่าจะได้เจอกับเเสงเหนือที่หน้าน้ำตกเเห่งนี้หรือเปล่า เพราะแสงเหนือเป็นสิ่งที่เอาเเน่เอานอนไม่ได้เลย วันนี้ผมจอดรถนอนฟ้าเปิดตอนเที่ยงคืนถึงตีสาม ตามพยากรณ์ในเวป http://en.vedur.is/weather/forecasts/aurora/
อย่างที่บอกไว้ครั้งก่อนเรากินข้าวเเล้วนอนสักพักก็เรียกว่าฟื้นพลังได้มากเลยทีเดียว ตื่นมาก็เจอว่ามีรถจอดอยู่ข้างๆ จากตอนเเรกที่เรามาถึงจุดนี้เป็นคนเเรก ระหว่างรอเเสงเหนือมาก็เลยลองออกไปเดินดูอะไรสักหน่อย อย่างที่บอกว่าผมไม่รู้ว่าที่เรามาที่นี่มันเป็นน้ำตกแบบไหน ผมได้ดูรูปแต่ก็ไม่ได้จำชื่อมา มันตื่นเต้นดีที่เรามาถึงก็มืดมองอะไรไม่เห็นได้ยินเเต่เสียงน้ำตกที่ดังมาเเต่ไกล เราจอดได้ใกล้สุดเท่านี้เเต่ยังได้ยินเสียงของน้ำตก เเสดงว่ามันต้องใหญ่มากเเน่ๆ ผมเดินออกมาจากรถตู้พร้อมกับมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เรียกว่านานมากเเล้วที่ไม่ได้มองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวมากมายขนาดนี้
ยืนมองพร้อมกับอาการที่เย็นราวๆ -1 เรียกว่าหนาวจนตัวสั่น ผมรีบหยิบอุปกรณ์ขาตั้ง กล้อง เเล้วก็ หมวกถุงมือ ไฟฉายที่ติดหัวมาใส่เพื่ออกไปหามุมถ่ายรูป เดินมาสักพักก็ลองเอากล้องตั้งเเล้วถ่ายดู ความรู้สึกเเรกที่เห็นรูปคือ มันสวยอะไรขนาดนี้…
ส่วนแสงเหนือนี่ก็เล่นซ่อนแอบกับเราไปเรื่อย สุดท้ายเเสงเหนือก็ไม่มาตามนัดเลยได้มาเป็นดาวหมุนๆ เเทน (มุมนี้เดินไปมาหลายรอบจนลื่นล้มเเผ่นน้ำเเข็งเเตกกันเลยทีเดียว)
แต่ Iceland ก็ไม่ใจร้ายกับผมมากนัก ปลอบใจกันตอนเช้ากับบรรยากาศนี้
ผมกับเพื่อนก็เตรียมอาบน้ำที่สระน้ำที่แอบซ่อนตัวอยู่หลังเขาใดเขาหนึ่งที่เราเดินตามหากัน จนเพื่อนร่วมทางของผมแทบจะล้มเลิกความตั้งใจ ตอนที่เจอคือรู้สึกภูมิใจมาก เพราะมันคือสระน้ำส่วนตัวกลางหุบเขาจริงๆ ไม่มีใครเลยมีห้องอยู่สามห้องไว้เก็บของอากาศเย็นจนหนาวแต่ใจก็อยากเล่นเพราะเตรียมมาเเล้ว พอลงน้ำไปอุ่นกว่าน้ำในเเม่น้ำปกติ เพราะเค้าบอกว่าน้ำนี่ต่อท่อมาจากน้ำบนเขาที่อุ่นตามสภาพอากาศ จะอุ่นมากน้อยขนาดไหนเราไม่สามารถกะเอาได้ต้องมาลองเอง เเต่ส่วนที่ใกล้ท่อจะอุ่นจนร้อนเลย เเต่บริเวณนั้นน้ำจะลึกมากจนหาก้นสระไม่ได้
เล่นน้ำไปสักพักมีฝรั่งมาสองคนมองมาที่เราทำหน้าตกใจ เค้าบอกว่าไม่คิดว่าจะมีคนมาเจอสถานที่นี้ (เราก็คิดในใจว่าอืม เราก็ไม่คิดว่าจะหาเจอเหมือนกัน) ฝรั่งคนนึงก็เล่นน้ำกับพวกเราสักพักมีคู่รักตามมาเจอก็ตกใจพวกเราเหมือนกัน พอเล่นน้ำกันจนหนำใจแล้ว เราก็ออกเดินทางกันต่อครับ
คืนนี้เราไปตามหาภูเขาเพื่อหาเพื่อนมาให้เจ้าแสงเหนือได้ถ่ายรูปด้วย (วัดดวงกันไปด้วยว่าจะเจอกันไหมแสงเหนือ) ปรากฏว่าเเสงเหนือมาจริงๆ กับอากาศที่ – 4 องศา ผมก็ยอมละครับตอนนี้
คืนนี้ผมนอนแถวหน้าโรงแรม (เพราะไม่มีที่ไหนเปิดบริการเลย เช็คกันดีๆ นะครับ) เช้ามา ขอเก็บบรรยากาศกันต่ออีกสักหน่อย
ผมขับรถไปเรื่อยๆ ฝากบรรยากาศระหว่างทาง (ที่เกิดเหตุการณ์ adventure กันตลอดๆ แนะนำว่าว่างแผนกันดีๆ พร้อมคิดแผนสำรองกันไว้ตลอด บวกกับมีสตินะครับ)
แอบเจอชายหาดที่ไม่มีเม็ดทราย แต่มีก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่แบบนี้กันเลยทีเดียว
ปิดท้ายทริปนี้กับทัวร์ถ้ำน้ำแข็งกัน (จากตรงนี้ผมซื้อเป็นทัวร์ครับ) Iceland ทั้งเจ้าแสงเหนือ เจ้าถ้ำน้ำแข็งเนี่ย ต้องอาศัยดวงด้วยจริงๆ ผมกับเพื่อนนี่ลุ้นอยู่ว่าจะเห็นน้ำเเข็งในถ้ำเป็นสีฟ้าชัดๆ ไหมเพราะสีเกิดจากเเสงพระอาทิตย์ส่องลงมา
ที่บริษัททัวร์มีแจกอาวุธประจำกาย! ผ่าง………..อาวุธเราหน้าตาเเบบนี้
อันนี้ฟรีนะรวมในค่าทัวร์ไม่ต้องเช่าเพิ่ม ตอนเเรกผมกะจะใส่ที่ผมใช้ประจำ เเต่อันนี้มันดีกว่าเยอะแบบคนละเรื่อง อุปกรณ์พร้อม แล้วเริ่มเดินกันเลยครับ มีทางชันบาง ทางลาดบ้าง หนาวจัดบ้าง ลมแรงบ้าง แต่เมื่อถึงจุดหมายมันมักทำให้เราลืมเหนื่อย เหมือนเป็นของขวัญให้เราเสมอ
ปิดท้ายการเดินทางครั้งนี้กับแสงเหนือที่มาส่งผมเข้านอนในคืนสุดท้ายกัน (ขึ้นอยู่กับดวงจริงๆ)
ถือเป็นการเดินทางที่ตากล้องอย่างผมประทับใจกับความแสบสนของ Aurora และ Iceland มากๆ ครับ
สนใจเรียนต่อ Bournemouth University ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเรียนต่อและคำปรึกษาจากพี่ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทย ฟรี คลิก