แนะนำตัวให้เรารู้จักหน่อยค่ะ

สวัสดีครับ ก้อนอิฐครับ เรียนปริญญาโท Business Analytics ที่ University of Nottingham ครับ ก้อนอิฐเพิ่งเรียนจบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัย Stamford ที่กรุงเทพ คณะวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ มาครับ

แล้วทำไมถึงอยากเรียนคอร์สนี้

หลักๆ เลยคืออาจารย์แนะนำมาครับ ก่อนที่จะเรียนจบเนี่ย อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยแนะนำว่าการเรียน Business Analytics เนี่ยเป็นการต่อยอดที่ดีสำหรับสายอาชีพ IT แล้วทางตลาดแรงงานก็มีความต้องการสูง แล้วคอร์ส Business Analytics ที่ไทยมีน้อย ดังนั้นการมาเรียนต่อที่ต่างประเทศถือเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ที่ทางประเทศไทยยังไม่มี อาจารย์ก็เลยมองเห็นช่องทางตรงนี้ ด้วยความที่ว่า Business Analytics ใหม่ แล้วไม่มีมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนคอร์สนี้เยอะ แล้วที่อังกฤษก็เป็นมหาวิทยาลัยต้นๆ ของโลกที่เปิดสอนคอร์ส Business Analytics ครับ

อาจารย์มีแนะนำประเทศอื่นบ้างมั้ย

ส่วนตัวก็มี 2 ประเทศครับ มีที่อเมริกากับอังกฤษ แต่ด้วยว่าหลักสูตรที่อังกฤษมันใช้เวลาเรียนไม่นาน คือเรียนแค่ปีเดียวเอง ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักเรียนที่คิดว่าจะเรียนปริญญาต่อหรือจะตัดสินใจเข้าทำงาน

การเตรียมตัวเรียนต่อ

เบื้องต้นก็ได้รับข้อมูลจากอาจารย์มาแล้วนะครับ แล้วก็ไปศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าคณะ Business Analytics เนี่ยเรียนยังไง เรียนอะไรบ้าง แล้วก็ได้เจอมหาวิทยาลัยที่สนใจประมาณ 2-3 มหาวิทยาลัย แต่ก็ยังไม่ค่อยแน่ใจว่ามันจะเป็นรูปแบบไหน ก็เลยตัดสินใจหาคนที่จะมาคอยให้คำแนะนำทั้งตัวคอร์สหรือว่ามหาวิทยาลัย

ก้อนอิฐคิดว่านักเรียนไทยทุกคนไม่ได้มีข้อมูลทางด้านการเรียนต่อหรือข้อมูลมหาวิทยาลัยมากขนาดนั้น อย่างเก่งก็แค่มีไอเดียว่าอยากจะเรียนประมาณไหน

เบื้องต้นก็มีเพื่อนที่รู้จัก Hands On แล้วมีรุ่นพี่ของเพื่อนใช้บริการกับทาง Hands On อยู่ ก็ประทับใจการบริการของพี่ๆ ทีมงาน มีความรู้สึกเลยว่าพี่ๆ Hands On มีความเป็นมืออาชีพสูงมาก คือมีความเข้าใจกับรายวิชาที่เราจะเรียนมากกว่าเราอีก

การบริการจาก Hands On

ก็ใช้บริการกับพี่อ๊อตโต้ สาขาพระราม 2 ครับ พี่อ๊อตโต้ก็จะคอยย้ำตลอดว่า ‘Business Analytics แต่ละมหาวิทยาลัยมันไม่เหมือนกันนะ’ เพื่อที่จะหามหาวิทยาลัยที่เราอยากเรียนมากที่สุด ต้องยอมรับเลยว่าส่วนใหญ่นักเรียนไทยสนใจเรื่อง ranking มหาวิทยาลัยมากเป็นอันดับหนึ่ง คือแทนที่จะเทียบกันว่าเราจะเรียนอะไร แต่ดันไปเทียบกันว่ามหาวิทยาลัยได้ ranking ดีกว่ากัน เลยคิดว่าตรงนี้เป็นสิ่งที่ไม่ดีมากๆ เลยกับการที่เราจะไปเลือกเรียนแบบนั้น เพราะบางทีคอร์สเรียนเหมือนกัน แต่รายวิชามันไม่เหมือนกัน ซึ่งพี่อ๊อตโต้ก็ให้คำแนะนำตรงนี้ดีมากๆ สุดท้ายก็ได้เลือกมาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัย Nottingham ครับ

นอกจากให้ข้อมูลแต่ละคอร์ส พี่อ๊อตโต้ได้ช่วยเตรียมเอกสารอะไรยังไงบ้าง

เรื่องการเตรียมเอกสารเรียกว่าสบายใจได้เลยครับ พี่อ๊อตโต้รับผิดชอบให้ทุกอย่างเลย เบื้องต้นพี่เค้าก็จะบอกมาให้ครบเลยครับ แล้วก็ความเป็นไปได้ว่าถ้าไม่ผ่านตรงนี้ เราจะเป็นยังไง ตอนที่ก้อนอิฐไปเนี่ย ก้อนอิฐเตรียมเอกสารเพื่อขอวีซ่าแล้วมหาวิทยาลัยออก CAS ให้ช้ามากๆ เลยครับ เหลือแค่ 3-4 สัปดาห์สุดท้ายก่อนที่จะเริ่มเรียนแล้ว ก้อนอิฐก็เลย panic มากๆ พี่อ๊อตโต้พูดคำเดียวว่า “น้องก้อนอิฐใจเย็นๆ ครับ” คือทุกอย่างมันโอเคมาก มันเป็นไปไม่ได้เลยถ้าเราไม่มี Hands On คงหัวเดียวกระเทียมลีบ แล้วก็ต้องเทไปเรียนปีหน้าแน่นอน มันไม่ทันอะไรก็ไม่ทันไปหมดแล้ว ซึ่งพี่ๆ Hands On ได้จัดการตรงนี้ให้แบบไม่ต้องกังวลเลยครับ

กิจกรรมอื่นๆ จาก Hands On

ก็ได้ไปงานที่ Hands On จัดอยู่บ่อยๆ เช่น งาน The UK Study Exhibition ที่มหาวิทยาลัยมาออกบูธ เปิดโอกาสให้เราสามารถเข้าไปพูดคุยกับมหาวิทยาลัยต่างๆ โดยที่ไม่ต้องบินไปถึงประเทศอังกฤษ ซึ่งก็มีโอกาสได้พูดคุยกับอาจารย์หรือคนที่สามารถให้ข้อมูลมหาวิทยาลัยนั้นๆ ได้อย่างดี ทำให้ได้รู้และได้เตรียมตัวก่อนที่จะไปเรียนจริงๆ

ได้ไปงาน UK Networking Party มั้ย

ตอนนั้นไม่ได้ไปครับเพราะก้อนอิฐต้องบินมาเรียน Pre-sessional ก่อน พี่อ๊อตโต้ก็เลยจัด Pre-departure ให้ก้อนอิฐแบบตัวต่อตัว

Pre-departure

พี่อ๊อตโต้ก็ให้เตรียมตัวเรื่องการเดินทาง การซื้อตั๋วรถไฟ การใช้งานโทรศัพท์ สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยคือพี่อ๊อตโต้เค้านึกทุกอย่างให้แทนเราหมดแล้ว ว่าต่อไปจากเราถึงที่อังกฤษแล้วเราจะเจออะไรบ้าง ถึงแม้ว่าเราจะมีประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยว แต่การเรียนต่อมันเป็นอะไรที่ไม่เหมือนกับการท่องเที่ยวเลยครับ ทุกอย่างเราต้องมีการเตรียมตัวและมีความพร้อมในระดับนึง การที่มี Hands On ช่วยเตรียมตัวให้ มันช่วยให้เราสบายใจไปอีกระดับนึงว่าอย่างน้อยก็มีพี่ๆ Hands On คอยดูแลช่วยให้น้องๆ แคล้วคลาดปลอดภัย

สนใจเรียนต่อ The University of Nottingham ปรึกษาพี่ๆ Hands On ฟรี คลิก

Pre-sessional Course

Pre-sessional คอร์สมันเป็นการเรียนปูพื้นฐานในการทำ paper หรือการเขียนวิทยานิพนธ์ เพื่อที่เราจะเอาไปใช้ได้จริงใน Academic course ตอนที่เราเริ่มเรียนครับ ตัวคอร์สก็จะถูกออกแบบให้นักเรียนได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงการทำ paper หรือจุดประสงค์ต่างๆ

ก้อนอิฐเรียนจบหลักสูตร inter แล้วเราได้เรียนรู้อะไรจากคอร์ส Pre-sessional บ้าง

อย่างที่บอกไปข้างต้นครับว่าตัว Pre-sessional course ไม่ได้ถูกออกแบบให้เราได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษแบบฟัง พูด อ่าน เขียน ขนาดนั้น คนที่เรียนจบอินเตอร์มาก็จะมีพื้นฐานการฟังพูดอ่านเขียนในระดับนึง แต่การที่เราจะเอาทักษะภาษาอังกฤษตรงนั้นมาใช้กับการเขียน dissertation มันจะเป็นอีกลักษณะนึง ซึ่งทาง Pre-sessional course ก็จะเอาทักษะในการเรียนเขียน dissertation ตรงนี้มาช่วย คือมันจะไม่ใช่มาเรียนท่องศัพท์หรืออะไรพวกนี้ มาถึงก็เริ่มเลยว่า คุณคิดอย่างไรกับการเข้าไป conference หรือว่าคุณจะมีเทคนิคอย่างไรกับการไปพูดหน้าชั้นเรียนได้แบบไม่ตะกุกตะกัก มีวิธีจัด content อย่างไรในตัว presentation ควรจะเน้นตรงไหนหรือควรจะเกริ่นแค่เบาๆ ตรงไหน หรือการเขียน reference ทำยังไง เป็นต้น

Business Analytics

ก็ต้องยอมรับเลยครับว่าตัวคอร์สเรียนค่อนข้างที่จะหินใช้ได้เลยครับ แต่ด้วยหลักสูตรที่เรามีความชอบด้วยส่วนนึงแล้วก็เลยคิดว่ามันไม่ได้เกินที่คิดไว้ครับ ทางมหาวิทยาลัย Nottingham เองก็ส่งเสริมนักเรียนมากๆ ให้นักเรียนสามารถ self-study หรือเป็นการเรียนที่ peer review คือเราเรียนคอร์สใน lecture ใด lecture นึงแล้วเค้าก็จะมีคลาส section เล็กๆ เพื่อที่จะ encourage ให้นักเรียนแชร์ประสบการณ์แลกเปลี่ยนกัน เพื่อพัฒนาข้อมูลให้มากขึ้น ซึ่งก็มีเพื่อนต่างชาติมาแชร์ไอเดียซึ่งกันและกัน เราก็จะมีความคิดและแนวคิดใหม่ๆ

เนื้อหาที่เรียนมีอะไรบ้าง

เนื้อหาของ Business Analytics ก็จะเรียนเกี่ยวกับพวกข้อมูลขนาดใหญ่ครับ หรือที่เรียกว่า Big Data การจัดเตรียมข้อมูลอย่างไรเพื่อที่จะเอาไปวิเคราะห์แล้วหาแนวทางใหม่ๆ ให้กับธุรกิจ

ถึงแม้ว่าคอร์ส Business Analytics มันอยู่ใน Business school แต่พื้นฐานทั่วไปก็จะเรียนเกี่ยวกับพวก programming หรือว่า coding เป็นส่วนใหญ่ คือจะมีส่วนของ engineering หรือ computer science เข้ามาเยอะอยู่เหมือนกัน การที่เราจบ computer science จากมหาวิทยาลัย Stamford ก็ช่วยให้เรามีความเข้าใจทางด้านการเขียน code การเขียนโปรแกรม แล้วการที่เรามี logic เกี่ยวกับพวกโปรแกรมก็ทำให้เราเรียนรู้ได้ไวและเข้าใจสิ่งที่อาจารย์สอนได้ดียิ่งขึ้นครับ

บรรยากาศการเรียนเป็นยังไงบ้าง

คลาสเรียนที่ก้อนอิฐเรียนส่วนใหญ่ก็จะเป็นคลาสขนาดเล็ก รับนักเรียนแค่ 24 คนเท่านั้นเอง ตั้งแต่วันที่เรามาวันแรก อาจารย์เค้าก็พูดขู่ไว้ก่อนเลยครับว่า “ถ้าคุณคิดว่าคอร์สนี้ไม่เหมาะกับคุณ คุณสามารถออกได้เลย เพราะว่ามีนักเรียนอีก 400 กว่าคนรอต่อคิวคุณอยู่” แล้วก็พูดว่า “ถ้าคุณออก คุณอย่าคิดว่าคุณจะกลับเข้ามาได้อีกนะ” อะไรแบบนี้อ่ะ (หัวเราะ) บรรยากาศการเรียนก็ค่อนข้างที่จะใกล้ชิดกันโดยเฉพาะตัวอาจารย์กับนักเรียนเอง เพราะว่าคลาสค่อนข้างเล็ก แล้วนักเรียนก็ค่อนข้างหลากหลาย โดยปกติแล้วการเรียนที่ประเทศอังกฤษ นักเรียนส่วนใหญ่ก็ค่อนข้างมาจากประเทศจีน ก็ถือว่าเป็นโชคดีของก้อนอิฐในระดับนึงที่คลาสเรียนเล็กแล้วอัตราส่วนคนจีนค่อนข้างเหมาะสม คือไม่ได้มีเยอะเกินไป แล้วก็มีนักเรียนต่างชาติ เช่น อินเดีย แคนาดา รัสเซีย เม็กซิโก เกาหลีก็มีด้วยครับ ถือเป็นเรื่องน่าสนใจ แล้วแต่ละคนก็มีพื้นฐานต่างๆ กัน ไม่จำเป็นต้องจบ Computer Science หรือ Engineering เพื่อที่จะมาเรียน Business Analytics อย่างเพื่อนบางคนก็เป็นนักเศรษฐศาสตร์ นักบัญชี บางคนก็จบวิศวะเคมีก็ยังมาเรียน

สนใจเรียนต่อ The University of Nottingham ปรึกษาพี่ๆ Hands On ฟรี คลิก

The University of Nottingham

คิดว่า facilities ที่ University of Nottingham ค่อนข้างที่จะ support นักเรียนต่างชาติมากครับ คือมหาวิทยาลัยค่อนข้างใหญ่ มีทั้งหมด 3 แคมปัสด้วยกัน ซึ่งนอกจากจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้นักเรียนได้ใช้รถสาธารณะแล้วเนี่ย เรายังสามารถใช้บัตรนักเรียนแทนบัตรทุกอย่างใน Nottingham ได้หมดเลย นอกจากจะใช้ยืมหนังสือในมหาวิทยาลัยหรือส่วนลดร้านค้าต่างๆ แล้ว เรายังสามารถเอามาใช้แทนบัตรรถไฟ บัตรแท๊กซี่ บัตร tram ในเมืองได้เลยภายในบัตรเดียว ซึ่งสะดวกสบายมากๆ ครับ เราไม่จำเป็นต้องพกหลายบัตร ทำให้เห็นได้เลยครับว่าตัวเมือง Nottingham เค้าสนับสนุนนักเรียนที่มาอยู่ในและมาเรียนที่เมืองนี้เป็นอย่างดีครับ

Nottingham

อาหารการกินที่ Nottingham เป็นยังไงบ้าง

ก้อนอิฐเป็นคนที่ทำอาหารไม่เก่ง ตอนแรกๆ มาถึงมันก็จะลำบากหน่อยครับ แต่พออยู่ไปเรื่อยๆ ใน Nottingham เองก็มีร้านขายของเอเชียที่มีขายใบกระเพรา พริกสด หรือวัตถุดิบที่มาจากประเทศไทยบ้าง เราสามารถที่จะเข้าไปซื้อแล้วเอามาลองทำเองได้ แล้วก็ยังมีร้านอาหารไทยที่รอนักเรียนให้เข้าไปใช้บริการอยู่บ่อยๆ (หัวเราะ) ซึ่งวันไหนเหนื่อยมากๆ ก็จะเข้าไปกินเพราะว่าไม่ไหวแล้ว

การเดินทาง

ส่วนเรื่องไปเที่ยว Nottingham มันอยู่ตรงกลางระหว่าง Scotland กับลงใต้ไปทาง London ใช่มั้ยครับ การเที่ยวก็เหมือนการไปคนละครึ่งทาง ถ้าเราจะขึ้นเหนือไปก็เคยมีโอกาสได้ไป Scotland ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีครับ จะลงไป London ก็ใช้เวลา 2 ชั่วโมงครับ เดินทางสะดวก แล้วก็สามารถเดินทางไป 30 นาทีก็ถึงสนามบินที่ Birmingham ครับ

Thai society ที่นี่เป็นยังไงบ้าง

ส่วนตัวนะครับ ก็ต้องบอกก่อนเลยว่าเรามาเรียนตัวคนเดียวเลย ไม่คิดว่าจะเจอคนไทยเลย แต่ต้องยอมรับว่า University of Nottingham เนี่ยเด็กนักเรียนไทยเยอะมากๆ ก็ได้สร้าง connection ที่ดีครับ เพื่อนๆ แต่ละคนก็มีจุดมุ่งหมายคนละแบบกันเพราะก็เรียนกันคนละคณะ พอเวลามาเจอกันก็ได้มาแชร์ความรู้ความเข้าใจซึ่งกันและกัน การแนะนำว่าการใช้ชีวิตเป็นยังไง เราควรจะไปซื้อของตรงไหน ก้อนอิฐคิดว่ามันเป็น community ที่ดีมากๆ เลยครับสำหรับ Nottingham

ก็จะมีกลุ่มไลน์ของนักเรียนไทยที่นี่ที่ให้นักเรียนใหม่ได้เข้ามาจอยกลุ่มนะครับ ก็จะมีแจ้งบอกอีเว้นท์ใหม่ๆ ว่าจะมีกิจกรรมต่างๆ หรือเวลามีปัญหาอะไรต่างๆ หรือโปรโมชั่นต่างๆ ก็จะมีโพสลงในกลุ่มครับ

สนใจเรียนต่อ The University of Nottingham ปรึกษาพี่ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทย ฟรี คลิก