Cambridge
เเคมบริดจ์ เป็นเมืองที่มีมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่เป็นอันดับสองของประเทศอังกฤษ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ – ตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงลอนดอน เป็นเมืองที่รายล้อมไปด้วย College ต่างๆ ของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ และร้านค้าเล็กๆ ที่แสดงถึงกลิ่นอายของความอบอุ่น เป็นกันเอง ของชาวเมืองเคมบริดจ์ นักท่องเที่ยวนิยมนั่งเรือท้องแบนที่เรียกว่า “The Backs” เพื่อชมวิทยาลัยและสถานที่ต่างๆ ริมฝั่งแม่น้ำแคม
การเดินทาง
โดยรถไฟจากสถานีคิงส์ครอส (King’s Cross Station) กรุงลอนดอน ไปสถานีเคมบริดจ์ (Cambridge Station) โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง และเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองทางรถบัส รถแท็กซี่ หรือเดินเท้า
สถานที่ และ สิ่งที่ไม่ควรพลาด ใน เคมบริดจ์
- เยี่ยมชมวิทยาลัย– มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ มีความสวยงามด้วยสิ่งปลูกสร้างย้อนหลังไปหลายร้อยปี มีเนื้อที่ขนาดใหญ่ อาคารที่สวยงาม วิทยาลัยจะเปิดให้คนทั่วไปได้เข้าชมตลอด แต่จะมีช่วงที่ปิด คือช่วงเวลาการสอบ สัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคม และในสัปดาห์แรกของเดือนมิถุนายน
- สวนพฤกษศาสตร์มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์– หากต้องการใช้เวลาในช่วงบ่ายที่เงียบสงบ ควรมุ่งหน้าไปยังสวนพฤกษศาสตร์ สวนนี้มีความสวยงามและเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของการเข้าชม มีค่าใช้จ่าย 5 ปอนด์ นับว่าคุ้มมากๆ กับการผ่อนคลายในยามบ่ายที่นี่
- King’s College Chapel ใช้เวลาสร้างกว่า 70 ปี ออกแบบในสไตล์โกธิค ด้านในโบสถ์มีความสวยงามมาก สังเกตได้จากเพดานที่ออกแบบในสไตล์ Fan Vault ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก รอบด้านนั้น มีกระจกสีที่มีความสวยงามกว่า 26 บานใหญ่ โดยมี 24 บานเป็นกระจกที่เก่าแก่มาก ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16
- Punting– เป็นกีฬาสุดคลาสสิกของเคมบริดจ์ คือการล่องเรือไม้ท้องแบนนั่นเอง นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือเหมาลำแบบส่วนตัว แถมบนเรือยังมีการให้บริการทั้งอาหารและเครื่องดื่มอีกด้วย
- เยี่ยมชมมหาวิหารเซนต์แมรี่– เยี่ยมชม สถาปัตยกรรมอังกฤษ ที่ถูกยกย่องว่า ดีที่สุด ในศตวรรษที่ 15 พร้อมขึ้นไปยังหอระฆังเพื่อชมวิวมุมสูงของเมือง ก็ได้ความรู้สึกที่ดีไปอีกแบบ
- พิพิธภัณฑ์ฟิทซ์วิลเลี่ยม– พิพิธภัณฑ์ Fitzwilliam เป็นศิลปะและโบราณวัตถุ ของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ไฮไลท์คือ ผลงานชิ้นเอกโดยทิเชียนรูเบนส์ , โฮการ์ ธ เกนส์, เดอกาส์, และปิกัสโซ ที่สำคัญ ที่นี่เป็น พิพิธภัณฑ์ที่เปิดให้เข้าชมฟรีจ้า
- แคลร์คอลเลจ (Clare College) ก่อตั้งในปี ค.ศ.1326 โดย Richard Badew มีความเก่าแก่เป็นอันดับสองของ
มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ เดิมนั้นเป็นที่รู้จักในชื่อของ “Clare Hall” แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น Clare College ในปี ค.ศ.1856 ปัจจุบัน เป็นสถาบันการศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษาหรือปริญญาโทเท่านั้น
- The Scholar’s Garden สวนสวยๆ ด้านในวิทยาลัย เป็นสถานที่พักผ่อนของบรรดานักศึกษาที่นี่ นอกจากนี้ สวนนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นสวนที่สวยที่สุดในเคมบริดจ์อีกด้วย
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจแล้ว เมือง Cambridge ยังมีโรงเรียนสอนภาษาชื่อดัง และมีคุณภาพอีก อาทิ
1. Bell English
ได้รับการรับรองคุณภาพการสอนจาก British Council มีหลักสูตร University Pathway เช่น University Foundation Programme, A Levels, Master Preparation Programme และยังเป็นพันธมิตรกับมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหราชอาณาจักรมากกว่า 30 แห่ง
2. Embassy English
เป็นโรงเรียนสอนภาษาที่ทันสมัย ได้นำนวัตกรรมและได้นำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการสอนให้กับนักเรียน ได้รับการรับรองคุณภาพการสอนจาก British Council ทั้งยังได้รับเลือกให้เป็น International Chain School of The Year โดย Language Travel Magazine (LTM) เมื่อปี 2007, 2009, 2010 และ 2013
3. Language Studies International
ดำเนินการสอนมานานกว่า 40 ปี มี 4 วิทยาเขตในสหราชอาณาจักร คือ London Central, London Hampstead, Brighton และ Cambridge อาจารย์ของ LSI ทุกท่านล้วนมีประสบการณ์การสอนภาษาแก่นักเรียนต่างชาติมายาวนาน และสถาบันยังตั้งอยู่ใจกลางเมือง สะดวกแก่การเดินทางอีกด้วย LSI ได้รับการรับรองคุณภาพจาก British Council
4. EC English Language Centres
ได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 1991 มีวิทยาเขตอยู่กว่า 20 แห่งทั่วโลก โดยตั้งอยู่ในสหราชอาณาจักรถึง 6 แห่ง คือ London, Cambridge, Brighton, Bristol, Manchester และ Oxford รวมถึงมี 1 สาขาใน Dublin ที่ประเทศไอร์แลนด์ โดยแต่ละแห่งต่างตั้งอยู่ใจกลางของเมือง รายล้อมไปด้วย ร้านค้า ร้านอาหาร และแหล่งให้ความบันเทิง ในด้านการเรียนการสอน EC มีมาตรฐานที่สูง ได้รับการรับรองจาก British Council เช่นกัน
5. Kaplan International English
มีหลักสูตรที่เรียกว่า K+ เป็นหลักสูตรที่ทันสมัยและถูกออกแบบมาเพื่อให้นักเรียนได้ใช้งานได้อย่างสะดวก รวดเร็ว สามารถเรียนและทบทวนบทเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา ทั้งยังได้รับการรับรองคุณภาพการสอนจาก British Council และเป็นพันธมิตรกับมหาวิทยาลัยชื่อดังหลายแห่ง
6. Stafford House
มีสื่อการสอน และห้องเรียนที่ทันสมัย สาขาแต่ละที่ของ Stafford House ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่ง่ายต่อการเดินทาง และใกล้แหล่งคมนาคม หรือศูนย์การค้าต่างๆ ทางสถาบันยังมีการจัดขนาดชั้นเรียนที่พอเหมาะ ทำให้ครูผู้สอนสามารถดูแลเอาใจใส่นักเรียนทุกคนได้อย่างทั่วถึง ดังนั้น นักเรียนทุกคนจะสามารถบรรลุศักยภาพสูงสุดของตนเองได้ดี
**สนใจเรียนภาษาที่ประเทศอังกฤษ สอบถามข้อมูลโรงเรียน หลักสูตร โปรโมชั่น และคำปรึกษาได้ที่ Hands On ทุกสาขา หรือ กรอกแบบฟอร์มออนไลน์ ที่นี่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับจ้า