“หนูรู้แค่ว่า หนูอยากเรียน marketing ค่ะ แต่คอร์สนี้สอนเรามากกว่านั้น คือเนื้อหาจะมีเรื่องการ PR เข้ามาด้วย สอนให้เรามองว่านอกจากลูกค้าแล้ว องค์กรยังต้องดูแลอะไรอีกบ้าง” – กัน, University of Leeds
แนะนำตัวกันหน่อยค่ะ
สวัสดีค่ะ กัน เรียน Corporate Communications, Marketing and Public Relations ที่ University of Leeds ค่ะ
Preparation
ก่อนหน้านี้เรียน Hotel management ที่มหาวิทยาลัยศิลปากรค่ะ ตอนที่เรียน Hotel management ก็มีเรียน Marketing พื้นฐานด้วย แล้วรู้สึกว่าสนใจและชอบด้านนี้เลยอยากเรียนต่อด้านนี้ดูค่ะ
ทำไมถึงเลือกมาเรียนที่ University of Leeds
ตอนแรกก็โนไอเดียมากค่ะ ก็ยังไม่รู้ว่าจะเรียนที่ไหนดีแต่ตั้งเป้าแล้วว่าจะไม่เรียนที่ลอนดอน ก็เลยดูเมืองรอบๆ แล้วก็ดู ranking ของสาขาวิชา Marketing ว่าที่ไหนอันดับสูง แล้วก็ดูตัวมหาวิทยาลัยโดยรวมด้วยค่ะ เลยมาลงตัวที่ University of Leeds แล้วก็ชอบทางเหนือๆ มากกว่าทางใต้ ไม่ค่อยชอบทะเล ชอบภูเขาค่ะ แล้ว University of Leeds การจัดอันดับเค้าโดยรวมก็ได้คะแนนสูง ranking คณะก็สูงค่ะ
University of Leeds 1 ใน 15 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดใน UK และ 1 ใน 100 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก
บริการจาก Hands On
รู้จักพี่ๆ Hands On ได้ยังไงคะ
ที่จริงก็มีเพื่อนหลายคนมากเลยค่ะที่แนะนำ Hands On ทั้งเพื่อนสมัยมัธยม หรือเพื่อนๆ ที่เคยเรียนที่อังกฤษ คือแนะนำ Hands On หมดเลยค่ะ
หนูก็คุยกับเพื่อนแล้วก็รู้ว่ามีสาขาพระราม 2 ซึ่งอยู่แถวบ้านเลย ใกล้แบบตรงข้ามบ้านเลยค่ะ 5 นาทีถึง หนูก็เลยเข้าไปคุยพร้อมกับคุณแม่ค่ะเพราะคุณแม่จะค่อนข้างเป็นห่วง แล้วเค้าก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับเรียนต่อต่างประเทศเท่าไหร่ แล้วตอนนั้นพี่ๆ Hands On ก็อธิบายให้จนเข้าใจ คุณแม่ก็เลยโอเคค่ะ
Hands On ช่วยอะไรเราบ้าง
ช่วยเยอะมากค่ะ เพราะตอนแรกหนูก็ไม่รู้อะไรเลย ในใจรู้แค่ว่าอยากเรียน Marketing แต่ไม่รู้เลยว่ามหาวิทยาลัยไหนดี พี่ Hands On เค้าก็ดูจากเกรดแล้วก็ลิสต์มหาวิทยาลัยออกมาให้ ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่มีผลคะแนน IELTS ด้วยเพราะยังไม่ได้สอบ ก็คือเตรียมตัวช้าค่ะ พี่เค้าก็ช่วยดู SoP ดูเอกสารให้ทุกอย่างเลยค่ะ
ที่จริงตอนแรกเราก็ดูมหาวิทยาลัยที่อันดับลงมาหน่อย แต่พี่อ๊อตโต้เค้าก็เชียร์ที่นี่เพราะเห็นว่าเกรดเราถึงนะ เอามหาวิทยาลัย rank ดีๆ มั้ย ไหนๆ เกรดเราก็ถึงแล้ว เราเอามหาวิทยาลัยที่ rank ดีๆ มั้ยแต่การเรียนก็จะเข้มข้นกว่านะ ก็เลยรู้สึกว่าโอเค สู้ค่ะ (ยิ้ม)
อีกอย่างนะคะ พี่ๆ ช่วยเหลือดีมาก ไม่ได้ทิ้งเราเลยค่ะ นอกจากเรื่องเรียนแล้ว เรื่องการใช้ชีวิตก็คอยดูแล มีอะไรถามได้ตลอด อย่างตอนหนูจะไปเที่ยวยุโรป หนูก็ทักไปถามเรื่องประกันที่ทำไว้ พี่เค้าก็ตอบเร็วมาก ก็ช่วยส่งเอกสาร
หรือจะทำงาน part time ช่วงเรียนที่นี่ พี่โจอี้เค้าเคยรู้จักร้านไทย เค้าก็ช่วยฝากให้ค่ะ คอยติดตามตลอด
สนใจเรียนต่อ University of Leeds ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเรียนต่อและคำปรึกษาฟรี คลิก
Pre-sessional
หนูว่าการมาเรียน Pre-sessional มันดีมากๆ เลย เพราะเหมือนช่วยปรับพื้นฐานเราด้วย อย่างมหาวิทยาลัยที่ไทยกับที่นี่มันไม่เหมือนกันค่ะ ที่ไทยก็เหมือนจะเรียน lecture อย่างเดียว แต่ที่นี่มีทั้ง lecture และ seminar อาจารย์เค้าจะให้ case มาแล้วก็อ่านเพื่อมาแลกเปลี่ยนกับเพื่อนในกลุ่มค่ะ ซึ่งตอนเรียน Pre-sessional เค้าก็มีสอนแล้วก็มีทำเหตุการณ์จำลองให้เราเหมือนตอนเรียนจริงตอนป.โทเลย นอกจากนี้ก็มีสอนเขียน reference เพราะที่นี่เวลาเขียนอะไรต้องมีอ้างอิงทุกอย่างค่ะ คือถ้าเราไม่ reference แล้วเค้าจับได้จะถือว่าเป็นการโกงเลยค่ะ ก็ถือว่าได้เรียนปรับพื้นฐานค่ะ อย่างบางคนที่คะแนนถึงแล้วก็อยากแนะนำให้มาเรียนค่ะ ให้มาปรับตัว มาลองอยู่ก่อน มาเจอเพื่อน อย่างกันเองทุกวันนี้เวลาเจอกันก็ยังโบกมือทักทายกันตลอดค่ะ แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นคนจีน ไทย ไต้หวัน ค่ะ
Corporate Communications, Marketing and Public Relations
ก็คือเรียนเป็น Marketing แล้วก็ PR ค่ะ ก็จะมีเรียน Marketing strategy ด้วย แล้วก็จะเน้นด้าน PR ค่ะ อย่างเช่น การดูแลภาพลักษณ์แบรนด์หรือบริษัท ก็จะไม่ใช่แค่กับลูกค้าอย่างเดียว จะต้องดูแลทั้งองค์กร, supplier เราก็ต้องดูแลค่ะ คือต้องดูแลทุกฝ่ายเลยค่ะ
บรรยากาศในห้องเรียน
เวลาเรียน lecture ก็เรียนห้องใหญ่ๆ ใช่มั้ยคะก็เหมือนฟังอาจารย์อย่างเดียว แต่ตอนเรียน seminar ก็เหมือนมีคุย มี discuss กันมากขึ้น เราก็ต้องเตรียมตัวไปไม่งั้นเราก็จะเงียบแล้วเพื่อนๆ ก็จะถามว่าทำไมยูเงียบ? ยูมีความคิดเห็นยังไง? เราก็ต้องคอยใส่ไอเดียตลอด เงียบไม่ได้เดี๋ยวเพื่อนจะมองแรงค่ะ (ยิ้ม) ส่วนตอนเรียน lecture ก็แล้วแต่อาจารย์ค่ะ บางคนก็พูดเร็ว ฟังยากนิดนึง แต่อย่าง Business school เค้าก็จะมีอัดวิดีโอไว้ให้ค่ะ ก็สามารถกลับไปย้อนฟังในเวปไซต์มหาวิทยาลัยได้ค่ะ ซึ่งตรงนี้ก็ช่วย support เราในการเรียนด้วยค่ะ
ส่วนอาจารย์ก็ไม่ดุนะคะ เวลาเค้าสอนๆ อยู่ ใครมีอะไรอยากโต้แย้งหรือถามก็สามารถยกมือถามได้เลยค่ะ อาจารย์เค้าก็จะรับฟังแล้วก็อธิบาย เหมือนเป็นการแชร์ไอเดียกันเลยค่ะ
วิธีการเรียนการสอน
จริงๆ แล้วการมาเรียนปริญญาโทก็ค่อนข้างแตกต่างจากตอนเรียนปริญญาตรีนะคะ ตอนแรกๆ มาก็ต้องปรับตัว ยากเหมือนกันเพราะที่ไทยจะไม่มีเรียน seminar แล้วมานั่ง discuss กันอะไรแบบนี้ค่ะ หนูชอบนะคะ เพราะจะไม่เหมือนที่ไทยที่เราจะแค่นั่งฟังแล้วรับข้อมูลมาอย่างเดียว แต่ที่นี่อย่างบางคนเค้ามีประสบการณ์ทำงานมาแล้วเค้าก็จะมาแลกเปลี่ยนกันว่าประเทศเค้าเป็นแบบนี้นะ คิดแบบนี้นะ มันก็เปิดโลกเราเลยเพราะบางทีเราคิดไม่ถึง
สนใจเรียนต่อ University of Leeds ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเรียนต่อและคำปรึกษาฟรี คลิก
University of Leeds
มหาวิทยาลัยดีนะคะ อยู่ใน Russell’s group มีชื่อเสียง คือจบไปก็การันตีแน่นอน อาจารย์ก็ใส่ใจนักเรียน สามารถอีเมลไปถามนัดคุยได้เลยค่ะ อาจารย์ตอบอีเมลเร็วมากค่ะ
แล้วก็มี supervisor ส่วนตัวให้ปรึกษาทุกเรื่องยกเว้นเรื่องเรียนได้ด้วยค่ะ ก็ช่วยเหลือนักศึกษามากๆ เลยค่ะ
บรรยากาศภายในมหาวิทยาลัยก็สวยนะคะ มีห้องสมุดเยอะ ทั้งห้องสมุดใหม่ ห้องสมุดเก่า มีหลายชั้น แล้วตัวมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้ไกล city centre มาก พอเรียนเสร็จก็สามารถออกมาช้อปปิ้งแล้วก็กลับเข้าไปเรียนต่อได้ แล้วก็มีชมรมให้ร่วมมากมาย ทั้งโยคะ, dance club อะไรประมาณนี้ค่ะ
Life Style
กิจกรรมนอกห้องเรียน
หนูไม่ได้เข้าชมรมของมหาวิทยาลัยค่ะ แต่มีช่วยของ Thai society ค่ะ ทำพวก PR ค่ะ ก็มีสร้างกรุ๊ปแล้วแชร์ข่าวสารให้เพื่อนๆ แล้วก็มีจัด Thai Night Party ถ้าปาร์ตี้ใหญ่ก็เทอมละครั้ง ก็จะมีธีมแต่งตัว แจกของรางวัล มีแข่งเกมกันให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกันมากขึ้นด้วยค่ะ
มีขายบัตรแล้วถ้าได้กำไรมาก็เอามาช่วยเหลือเพื่อนๆ ในเรื่องต่างๆ อย่างเช่น จะไปสามัคคีเกมส์ ก็จะออกค่ารถให้ถ้าเราได้กำไรมาค่ะ ก็ช่วยสนับสนุน society เพื่อให้คนมาร่วมทำกิจกรรมกันมากขึ้นค่ะ
งาน Part time
ก็ทำร้านไทย ทำเสิร์ฟค่ะ ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ค่ะ แล้วเราก็ได้คุยภาษาอังกฤษกับลูกค้าทุกวัน เหมือนได้ฝึกพูดแล้วก็ฝึกฟังมากขึ้นค่ะ ให้กล้าแสดงออกแล้วก็มั่นใจมากขึ้นด้วยค่ะ
Leeds
หนาวค่ะ แต่ปีนี้ไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่นะคะเพราะมีรุ่นพี่บอกว่าปีก่อนๆ หนาวกว่านี้มากเลยค่ะ อากาศก็สไตล์อังกฤษค่ะ เพี้ยนไปเพี้ยนมา ฝนตกบ้าง แต่ถ้าให้พูดถึงการใช้ชีวิตก็รู้สึกว่าเมืองนี้มันไม่ได้ใหญ่มากค่ะ ไม่ได้วุ่นวายเท่าลอนดอน แล้วก็ไม่ได้เงียบเกิน เพราะใน city centre ก็มีทุกอย่างค่ะ ทั้ง Zara, Topshop คือไม่ต้องขนเสื้อผ้ามาเลยค่ะ ขนมาก็ต้องมาซื้ออีกอยู่ดี ตอนนี้คือเสื้อผ้าเยอะมากเลยค่ะ ซื้อออนไลน์ก็ง่ายส่งฟรีด้วย ไม่ชอบก็ส่งคืนได้ แล้วเมืองนี้ก็เหมือน support นักศึกษามาก ทุกร้านส่วนใหญ่จะมี student discount หมดเลยค่ะ
Concert Taylor Swift เป็นเหตุ!
จริงๆ หนูก็มีเรื่องดราม่าตอนวีซ่าด้วยค่ะ (กระซิบ) คือหนูยื่นด่วนไปเพราะอยากมาเร็วกว่าคนอื่น อยากมาดู concert ของ Taylor Swift คือหนูชอบมากกกก หนูบอกแผนการหนูหมดเลย ว่าอยากบินไปก่อน 2 อาทิตย์เพราะอยากดูคอนเสิร์ต
ปรากฎว่าได้อีเมลมาว่า BRP มาถึงมหาวิทยาลัยแล้วนะ แต่ passport ยังไม่ได้ make decision ค่ะ งงมากก็โทรไปถามที่สถานทูต เค้าก็บอกว่ายังเช็คให้ไม่ได้เพราะสเตตัสยังเป็น make decision อยู่นะ ต้องรออย่างเดียว แล้วอีก 3 วันก็ต้องบินแล้ว คือยังไม่ได้ passport สักทีเลยคิดว่าอดไปแล้วแน่ๆ เลย ปรากฎว่าพี่ที่ Hands On ค่ะ ทั้งพี่โจอี้ พี่อ๊อตโต้ ก็ช่วยประสานงานให้กับทางสถานทูตไทยที่อังกฤษค่ะ เลยได้ก่อนบิน 1 วันค่ะ แล้วตอนนั้นก็จัดกระเป๋าเตรียมไว้แบบ hopeless ค่ะ ไม่รู้ว่าจะได้ไปมั้ย บัตรคอนเสิร์ตต้องยกเลิกมั้ย คุณพ่อกับคุณแม่ก็ลุ้นว่าลูกจะได้ไปมั้ย ทุกอย่างลุ้นหมดเลยค่ะ สุดท้ายก็ขอบคุณพี่ๆ Hands On นะคะที่ทำให้หนูได้มาเรียน แถมได้ดูคอนเสิร์ตด้วย! (หัวเราะ)
สนใจเรียนต่อ University of Leeds ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเรียนต่อและคำปรึกษาจากพี่ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทย คลิก