เล่าเรื่องเมือง ลิเวอร์พูล และทุนเต็มจำนวนเพื่อนักเรียนไทยโดยเฉพาะ!
สวัสดีค่ะน้องๆ พี่เอินเป็น English School Counsellor ที่ Hands On สาขาสีลมค่ะ วันนี้พี่เอินอยากจะมาแชร์เรื่องราวของตัวเองบ้าง ทั้งเรื่องการเรียน สภาพบ้านเมือง และการใช้ชีวิตในเมืองฟุตบอลเมือง ลิเวอร์พูล ค่ะ
ย้อนกลับไปสมัยเรียนอยู่ปี 4 คณะศิลปศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตอนนั้นพี่เอินมีความตั้งใจอยากไปเรียนต่อต่างประเทศมากๆ ค่ะ ส่วนสาขาที่จะเรียนนั้นต้องเป็นสายศิลป์ อาร์ตๆ หรือภาษาเท่านั้น ก็นั่งหาข้อมูลเองในอินเตอร์เน็ตและก็หาทุนควบคู่ไปด้วย เพราะไม่อยากรบกวนทางบ้านมาก หาจนตาลายก็ยังไม่เจอคอร์สที่ถูกใจเสียที จนไปเจอเว็บไซต์ของ University of Liverpool เลยไล่ดูคอร์สไปเรื่อยๆ และได้เจอกับคอร์ส MA in Art, Aesthetics, and Cultural Institutions ซึ่งบอกเลยว่าโดนใจมากๆ เพราะเป็นการเรียนเกี่ยวกับศิลปะเชิงปรัชญาผสมกับพิพิธภัณฑ์ศึกษา ที่สำคัญที่นี่มีทุนการศึกษาเต็มจำนวนให้แก่นักเรียนไทยอีกด้วย ซึ่งทุนนี้ก็คือ HRH Princess Sirindhorn Scholarship เรียกสั้นๆ ว่าทุนพระเทพ เป็นทุนให้เปล่าที่นอกจากจะเรียนฟรีแล้วยังมีค่าครองชีพให้ด้วย แถมพี่เอินเป็นแฟนฟุตบอลทีม ลิเวอร์พูล อีกต่างหาก โอ้ว! สมัครเรียนเลยสิคะ จะรออะไร ขั้นตอนการขอทุนคือต้องสมัครเรียนให้ได้ offer จากทางมหาวิทยาลัยก่อนนะคะ จึงจะมีสิทธิ์สมัครทุน ส่วนตัวพี่ไม่คิดว่าจะได้ทุนนี้เพราะคนแข่งขันกันเยอะ แถมคนอื่นเกรดดีกว่าพี่เยอะแยะ และทุนนี้ก็พิจารณาจากเกรดเฉลี่ยซะด้วยสิ แต่ก็สมัครไปไม่ให้เสียสิทธิ์ แล้ววันประกาศผลก็มาถึง อีเมลเด้งมาตอนสามทุ่มว่า คุณได้ทุนนี้จ้ะ หยิกแก้มตัวเองหนึ่งทีเพื่อเมคชัวร์ว่าไม่ได้ฝัน ก่อนเดินไปบอกคนที่บ้าน แทบจะปิดซอยเลี้ยงกันทีเดียวจ้า และนี่ก็เป็นการเริ่มต้นชีวิตนักเรียนโทที่อังกฤษ
มาที่เรื่องการเรียนบ้าง เนื่องจากคอร์สนี้มีพื้นมาจากปรัชญาจึงไม่มีถูกผิด เน้นการเรียนแบบสัมมนา วิเคราะห์และ discussion กันมากกว่า นอกจากเข้าห้องเรียนแล้ว ยังได้ออกไปฟังบรรยายที่ Victoria Gallery & Museum และ Tate Gallery อีกด้วย นับว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ เลยเพราะได้ความรู้จากบุคคลในวงการตัวจริงเสียงจริง สิ่งที่น่าประทับใจอีกอย่างของคอร์สนี้คือ พี่เอินเป็นคนไทยคนเดียวในรุ่น มีคนจีนและคนอิตาเลียนอีกสองคนที่เป็นนักเรียนต่างชาติ พี่เอินเลยได้มีโอกาสใช้ภาษาอังกฤษอย่างเต็มที่ และนักเรียนก็มีไม่เยอะ รู้จักกันหมดเลยค่ะ
ส่วนเมืองลิเวอร์พูลก็แน่นอนว่าเป็นเมืองฟุตบอลเพราะมีทีมระดับโลกประจำเมืองถึงสองทีม นั่นคือ สโมสรลิเวอร์พูลและสโมสรเอเวอร์ตัน พี่เอินได้ไปดูเกมลิเวอร์พูลที่สนามแอนฟิลด์อยู่บ่อยๆ มาอยู่เมืองเขาทั้งที อิอิ ยังไม่รวมถึงการเจอสตีเวน เจอร์ราร์ด โดยบังเอิญในเมืองและการเข้าคิวท่ามกลางหิมะตกอันหนาวเหน็บเพื่อขอลายเซ็นจอร์แดน เฮนเดอร์สันและอีกหลายๆ คน ประสบการณ์นี้ ฟินเฟร่อออ!! ถ้าน้องๆคนไหนมาเรียนต่อที่อังกฤษ อย่าลืมเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นแฟนฟุตบอลหรือไม่ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องเข้าไปดูเกมในสนามให้จงได้ เก็บไว้เป็นความทรงจำอันล้ำค่าก่อนกลับไทยค่ะ
แต่ลิเวอร์พูลไม่ได้มีดีแค่ฟุตบอลนะคะ ในเมืองมีทั้งแหล่งช๊อปปิ้ง ห้างร้านมากมายให้น้องๆ ได้เดินช๊อปกันจนเมื่อยขาเลย ไม่ว่าจะเป็น John Lewis, Debenhams, Met Quarter และ Liverpool One และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่มีทั้ง แนว Waterfront หรือบริเวณอู่ต่อเรือเก่าที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก้, บ้านเกิดของวง The Beatles, ที่ตั้งของบริษัทเจ้าของเรือไททานิค พิพิธภัณฑ์และแกลอรี่มากมายที่ถือว่ามากเป็นอันดับสองรองจากลอนดอนเลยค่ะ อีกทั้งร้านอาหารไทยก็มีเยอะ ถึงแม้จะได้ทุนแต่พี่เอินก็ทำงานพิเศษที่ร้านไทยด้วยเพื่อหาค่าตั๋วดูบอล…เอ้ย ค่าขนมเพิ่มเติมแถมได้อาหารไทยกลับบ้านอีกด้วย เย้! เมืองนี้ถือว่าคนไทยน้อยถ้าเทียบกับเมืองใหญ่ข้างๆ อย่างแมนเชสเตอร์ สมาคมนักเรียนไทยในลิเวอร์พูลก็มีการประชุมและจัดกิจกรรมกันบ่อยๆ ทำให้นักเรียนรู้จักกันหมด อบอุ่นมากๆ ค่ะ มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน ไม่ทิ้งกัน ใครจะกลับก็ส่งต่อข้าวของเครื่องใช้ให้กันช่วยประหยัดไปได้มากเลย เห็นมั้ยคะ นอกจากจะได้ปริญญาโทกลับมาแล้ว ยังได้มิตรภาพดีๆ กลับมาด้วย ทุกวันนี้พี่เอินก็ยังติดต่อกับนักเรียนไทยชาวลิเวอร์พูลคนอื่นๆ อยู่ ถึงแม้จะกลับไทยกันมานานแล้วแต่ก็ยังมานั่งรำลึกความหลังด้วยกันอยู่เรื่อยๆ เหมือนคำคมประจำเมืองที่ว่า You may leave Liverpool, but Liverpool never leaves you.
หากน้องๆต้องการปรึกษาเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน โดยเฉพาะการเรียนภาษาหรือทุนการศึกษา ก็สามารถติดต่อพี่เอินได้ที่ Hands On สาขาสีลม 02-635-5230 ต่อ 122 หรืออีเมลที่ kanokwalee@hands-onconsultants.com และ ทางไลน์ handson-earn ค่ะ