Hands On Education Consultants

Edinburgh Weekend Markets: ตามไปส่องสินค้าท้องถิ่นของเอดินบะระ

สวัสดีค่ะ เราตาณเองนะคะ ตอนนี้กำลังศึกษาปริญญาโทสาขา Entrepreneurship & Innovation ณ The University of Edinburgh Business School (ใกล้จบแล้ว เตรียมจุดพลุให้เราด้วย) บล็อกก่อนหน้านี้เราได้แนะนำร้านอาหารคาเฟ่สายสุขภาพในเอดินบะระกันไปแล้ว รอบนี้เราเลยสานฟีลคนท้องถิ่นกินข้าวแกงต่อด้วยการเดินตลาดในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งในเมืองนี้ก็มีอยู่หลายแห่งให้เลือกสรรไปเดินตามแต่สะดวก โดยส่วนตัวเราเคยไปตลาดในย่าน Grassmarket, Castle Terrace และ Stockbridge มาแล้ว แต่นอกจากสามที่นี้ก็มีที่อื่นๆ ให้ไปเดินเล่นเหมือนกัน บล็อกนี้เราเลยมาสรุปเล่นๆ ว่าจุดน่าสนใจของตลาดท้องถิ่นที่นี่มีอะไรมั่ง เผื่อใครเบื่อๆ เดินซูปเปอร์ฯ หรือร้านขายของฝากทั่วไปก็ลองไปตระเวนดูตลาดท้องถิ่นได้ค่ะ

 

Product – สินค้าพื้นเมือง 

 

 (ร้านขายน้ำผึ้งกับเทียน @Castle Terrace)

การมาเดินตลาดเปรียบเสมือนการค้นหาสมบัติลึกลับของเมืองอะเราว่า เพราะหลายๆ อย่างที่ขายในตลาดนั้นส่วนใหญ่มักจะเป็น rare ไอเท็ม หายากตามร้านสะดวกซื้อหรือร้านทั่วๆ ไปไรงี้ ยกตัวอย่างก็อาหารเลย (เพราะเราเป็นสายกิน) บูธอาหารที่มาตั้งกันส่วนใหญ่นั้นมักจะเป็นธุรกิจเล็กๆ ที่ไม่ได้โด่งดังอะไรมากมายแต่มีทีเด็ดตรงความเชี่ยวชาญอาหารประเภทนั้นๆ ไล่มาตั้งแต่เบสิกอย่างร้านขายขนมปัง ขายผักผลไม้ ขายช็อกโกแลต ขายเนื้อ จนไปถึงพวก Niche เช่น ขายขนมแปลกๆ ขายแต่มะกอก หรือขายแต่เครื่องจิ้ม เป็นต้น นอกจากบูธขายอาหารแบบขนกลับไปตุนที่บ้านแล้ว ก็ยังมีบูธที่ขายอาหารทำสดๆ ร้อนๆ จกกันตรงนั้นเลย ที่เห็นบ่อยๆ ก็ร้านญี่ปุ่น ร้านอินเดีย ร้านอาหารทางตะวันออกกลาง ร้านอาหารสก็อตติชขาย Scotch Egg ก็มีให้กินกันตรงนั้น บางร้านมีไฮไลท์ตรงกระทะอันมโหฬารมากชนิดที่ถ้าทำกินเองอาจอยู่ได้หลายสัปดาห์ เรียกได้ว่าเป็นจุดดึงดูดให้คนมามุงดูราวกับเป็นโชว์มายากล

(ข้าวผัด Paella แค่ไปดูเค้าผัดก็สนุกละ คิวยาวแต่คุ้ม อร่อยมาก @Grassmarket)

(อาหารญี่ปุ่นก็มา ถ้าชอบก็แวะไปทานที่ร้านได้ด้วย @ Stockbridge)

(Scotch Egg และพายต่างๆ ของโปรดที่นี่เค้าล่ะ @Stockbridge)

 

นอกเหนือไปจากอาหารก็ยังมีสินค้าอื่นๆ อีก เดี๋ยวจะหาว่าเราลำเอียงพูดแต่เรื่องอาหาร (ต้องเน้นจริงๆ เพราะกว่า 90% คืออาหาร) ที่เด่นๆ ก็มีเครื่องประดับ เครื่องสาน แผ่นเสียง โปสการ์ต สมุดโน้ต เสื้อผ้า หนังสือเก่าๆ ซึ่งถ้าใครชอบสะสมของหายากก็อยากแนะนำให้มาเดินส่องดูกัน โดยเฉพาะตรง Grassmarket นี่แหละเพียบเลย

(เครื่องประด่งประดับก็มีนะ เยอะเลย @Grassmarket)

(ร้านนี้งานทำมือน่ารักดี เหมาะเป็นของฝากของที่ระลึก @Stockbridge)

 

Place – พิกัด

 

(ตลาด Castle Terrace ได้แบ็กดร็อปเป็นปราสาทเอดินบะระ หรูมั้ยล่ะ)

อย่างที่เอ่ยไปข้างต้นแล้วว่าตลาดสุดสัปดาห์ในเอดินบะระนั้นกระจายอยู่หลายที่ เท่าที่เราเคยได้ยินก็มีย่าน Grassmarket, Castle Terrace, Stockbridge, Fountainbridge และ Leith ซึ่งเราเคยไปเดินแค่สามที่แรก แต่ถ้าถามว่าแต่ละที่นั้นสินค้าแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน เราว่าไม่ต่างกันเท่าไร หลายครั้งเราจะเห็นร้านชื่อเดิมโผล่ไปตลาดนู้นบ้างตลาดนี้บ้าง เป็นขาประจำตลาดว่างั้นเลย ดังนั้นสบายใจว่าไม่ว่าจะไปเยือนที่ไหนก็มีโอกาสเจอของดีๆ ด้วยกันทั้งนั้น บางทีจะมีการวนเวียนย้ายเปลี่ยนร้านค้าไปบ้างตามแต่ความสะดวกของร้านนั้นๆ (เช่น บางร้านอาจจะมาแค่วันเสาร์ที่สองของเดือน ไรงี้) แนะนำว่าถ้าโปรดปรานร้านไหนเป็นพิเศษก็ติดตามเค้าผ่านเว็บไซต์หรือโซเชี่ยล เราจะได้รู้ว่าครั้งหน้าเค้าจะไปออกบูธที่ไหน

 

Price – ค่าเสียหาย

ความคิดที่ว่าช็อปตลาดได้ราคาถูกกว่าอาจใช้ไม่ได้สำหรับที่นี่ เพราะของหลายอย่างก็ราคาพอๆ กันกับซื้อที่อื่น หรือบางทีอาจจะแพงกว่าด้วยซ้ำ อย่างเช่นพวกผักผลไม้ แอบสังเกตเจอว่าแพงกว่าในซูปเปอร์มาร์เก็ตนิดนึง แต่ถึงอย่างนั้น… (รออ่านพาร์ทต่อไป) ส่วนพวกสินค้าพื้นเมืองต่างๆ ก็ราคาไม่ใช่เบาๆ เพราะเค้าถือว่าเป็นของ artisan หรือของที่ทำโดยผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นราคามันก็จะต้องพรีเมี่ยมให้สมกับความโก้หรูหน่อยอะนะ

(Chocolate Tree เป็นแบรนด์ของที่นี่ แต่ละชิ้นสวยมาก แลดูงานศิลปะ @Castle Terrace)

เอ้อ และที่สำคัญคือ ร้านที่ตลาดส่วนใหญ่นั้นไม่มีเครื่องรับบัตรเดบิตหรือเครดิต (อันนี้หลายคนน่าจะพอเดาได้) ดังนั้นถ้าจะไปช็อปตลาดต้องเตรียมเงินสดไว้ อาจจะพูดง่ายหากอยู่ไทย แต่ถ้าอยู่ที่นี่มาระยะนึง ใช้การ์ดจนคล่องมือ ก็จะค้นพบว่าในชีวิตแทบไม่ได้แตะธนบัตรหรือเหรียญเลย เปิดกระเป๋าตังค์มาแล้วไม่เจอเงินสดถือเป็นเรื่องธรรมดา…ธรรมดาจนสะเทือนไตเมื่อได้รู้ว่าร้านอาหารที่จะไปกินนั้นรับแต่เงินสด

 

Promotion – ดีลงามๆ

(โปรโมชั่นลวงให้กินเฮลตี้ @Castle Terrace)

อย่างที่โหมโรงไปในพาร์ทที่แล้ว โอเคว่าถึงราคาจะล้ำกว่าแหล่งอื่นบ้าง แต่อย่าเพิ่งแหยงหนีตลาดไป เพราะเจ้าของบูธมักจะขายของพร้อมโปรโมชั่นเสมอ โดยส่วนใหญ่จะเป็นแนวยิ่งซื้อมากยิ่งลด อย่างผลไม้งี้ ยิ่งซื้อหลายกล่อง ราคาต่อกล่องก็จะน้อยลงๆ ผู้มีความต้านทานโปรโมชั่นต่ำโปรดระวัง (//กรรม สรุปโปรโมชั่นมันดีหรือไม่ดี) เป็นแบบนี้หลายบูธเลย เราเคยเหมาขนมทุกรสมาแล้วเพียงเพราะโปรโมชั่นล่อจัด การตลาดนี่มันการตลาดจริงๆ

อีกอย่างที่เหมาะเจาะสำหรับนักกินคือชิมฟรี ขาดไม่ได้เลยจริงๆ ที่นี่คือแหล่งรวมของกินแปลกมากหน้าหลายตา บางอย่างอาจจะไม่เคยเห็นมาก่อน เพิ่งมารู้จักเพราะตลาดนี่แหละ

 

People – ผู้คน

 

 (ตลาด Stockbridge คนเยอะสุดแล้วมั้ง ร้านค้าก็น่าจะเยอะสุดแล้ว)

แน่นอนว่าสุดสัปดาห์อะนะ คนก็ต้องเยอะเป็นธรรมดา เราค้นพบว่าตลาดที่ Stockbridge คึกคักสุดแล้วตั้งแต่เคยไปมา (ไม่รู้ว่าที่อื่นที่ไม่เคยไปจะคึกคักเท่ามั้ยนะ) คงเป็นเพราะย่านนี้เป็นย่านคึกคักอยู่แล้ว ร้านเลยมาออกเยอะ คนเลยแยะตาม และพื้นที่ตลาดก็ไม่ได้กว้างใหญ่มากเลยรู้สึกว่าคนเบียดกันสุดๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้เดินลำบากแต่อย่างใด เรายังสามารถแวะดูของตามร้านได้โดยไม่โดนเบียดเป็นปลากระป๋อง ไม่โดนขัดทางเดินหายใจ ไม่โดนล้วงกระเป๋า (แต่ระวังไว้หน่อยก็ดี) เจ้าของบูธก็อัธยาศัยดี หากอยากถามอะไรเกี่ยวกับสินค้าพวกเค้าก็จะยินดีคุยเต็มที่ ก็นะ ตลาดมันเป็นสถานที่ของการพบปะกันระหว่างลูกค้าและคนขายอยู่แล้ว

———

การมาเดินตลาดจึงกลายเป็นหนึ่งในกิจกรรมโปรดของเราช่วงสุดสัปดาห์ด้วยประการฉะนี้ ใครอยากหาข้อมูลก่อนเดินตลาดก็สามารถเช็คในเว็บไซต์ตลาดแต่ละที่ได้ว่าสัปดาห์นี้จะมีร้านไหนมาออกบูธบ้าง

ปอลิง: ตลาดบางที่ปิดเร็วมากนะ เช่น Castle Terrace ปิดบ่ายสอง เร็วมาก จิตใจทำด้วยอัลไล

 

สนใจเรียนต่อ University of Edinburgh ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเรียนต่อและคำปรึกษาจากพี่ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทย ฟรี คลิก