รวมข้อสอบวัดผลในการวางแผนเรียนต่ออังกฤษ (เรียนต่อ UK)
แนะนำข้อมูลของข้อสอบวัดผลต่าง ๆ ที่ต้องรู้จัก ในการวางแผนเรียนต่อ ป.โท อังกฤษ
ในบทความนี้พี่ Hands On จะมาพูดถึงการสอบวัดระดับต่าง ๆ น้อง ๆ ที่อยากไปเรียนต่อ ป.โท อังกฤษต้องเตรียมไว้ให้พร้อม โดยพี่ Hands On ได้รวบรวมข้อมูลการสอบทั้งหมดมาบอกน้อง ๆ อย่างครบถ้วนไม่มีตกหล่นว่าจะต้องสอบอะไรบ้าง แล้วข้อสอบแต่ละแบบควรสอบไว้เพื่ออะไร มีค่าสอบเท่าไร และสามารถสมัครสอบได้ทางไหนบ้าง ตามมาดูกันเลยดีกว่า
การสอบ IELTS (International English Language Teaching System)
เชื่อว่าการสอบ IELTS จะต้องเป็นชื่อที่คุ้นหูของน้อง ๆ หลายคนแน่นอน เพราะเป็นข้อสอบวัดระดับความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ ที่ครอบคลุมทั้งหมด 4 ทักษะด้วยกัน ได้แก่ ทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ซึ่งคนที่จะไปเรียนต่อ ป.โท ต่างประเทศ อย่างประเทศสหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ หรือการเรียนต่ออังกฤษ ฯลฯ ทุกคนจำเป็นต้องใช้การสอบประเภทนี้มีค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 7,100 บาท โดยการสอบ IELTS จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ การสอบ IELTS Academic และ IELTS General Training ซึ่งในบทความนี้พี่ Hands On จะขอให้น้อง ๆ โฟกัสแค่การสอบแบบ IELTS Academic เพราะเป็นข้อสอบสำหรับคนที่ต้องการจะสมัครเรียนต่อต่างประเทศ รวมไปถึงคนที่อยากไปเรียนต่อ ป.โท อังกฤษด้วยนั่นเอง โดยการสอบ IELTS Academic จะมีรายละเอียดการสอบแต่ละพาร์ทดังนี้
- การสอบ IELTS Academic พาร์ท Listening: พาร์ทนี้จะให้เวลาทำทั้งหมด 30 นาที ในกรณีที่สอบแบบฝนลงกระดาษจะมีเวลาเพิ่มอีก 10 นาทีสำหรับการฝนคำตอบ มีข้อสอบทั้งหมด 40 ข้อ ซึ่งเป็นการฟังเกี่ยวกับบทสนทนาต่าง ๆ บทบรรยาย หรืออาจจะเป็นบทสนทนาในเชิงวิชาการด้วยก็ได้ เช่นการจำลองบรรยากาศการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัย เป็นต้น
- การสอบ IELTS Academic พาร์ท Reading: พาร์ทนี้จะให้เวลาทำทั้งหมด 60 นาที โดยจะมีบทความเชิงวิชาการ บทวิเคราะห์ต่าง ๆ หรืออาจจะเป็นข่าวจากวารสารและหนังสือมาให้เราอ่าน 3 บทความ เพื่อให้เรานำไปตอบคำถาม
- การสอบ IELTS Academic พาร์ท Writing: พาร์ทนี้ให้เวลาทำ 60 นาทีเหมือนกัน โดยเราต้องเขียนบทความทั้งหมด 2 บทความ บทความแรกจะเป็นการอธิบายกราฟ ตาราง และแผนภาพต่าง ๆ จำนวน 150 คำ ส่วนอีกหนึ่งชิ้นจะเป็นการเขียนเรียงความเชิงวิชาการจำนวน 250 คำ
- การสอบ IELTS Academic พาร์ท Speaking: พาร์ทนี้จะเป็นการพูดคุยแบบตัวต่อตัวกับเจ้าหน้าที่ โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที ในการพูดคุยในเรื่องต่าง ๆ และเป็นการพูดคุยทั่วไป
อย่างไรก็ตามการสอบ IELTS ไม่มีคำว่าสอบตก แต่จะวัดกันเป็นคะแนน โดยคะแนนสูงสุดจะอยู่ที่ 9.0 แต่สำหรับน้อง ๆ ที่อยากไปเรียนต่ออังกฤษในระดับปริญญาตรีขึ้นไป มักจะใช้คะแนนอยู่ที่ประมาณ 6.5 เป็นอย่างต่ำ แต่ไม่ใช่มหาวิทยาลัยทุกแห่งจะยึดมาตรฐานเดียวกัน เช่น University of Warwick จะใช้คะแนนระหว่าง 6.0 – 6.5 , University of Manchester จะใช้คะแนน 6.0 เท่านั้น, University of Exeter จะใช้ 6.5 คะแนนขึ้นไป, King’s College London จะใช้ 7.5 คะแนนขึ้นไป, University of Edinburgh จะใช้ 6.5 คะแนนขึ้นไป และ University of Leeds จะใช้ 6.0 คะแนน ดังนั้นพี่ Hands On ขอแนะนำว่าทางที่ดีควรเข้าไปศึกษาข้อมูลในเว็บไซต์มหาลัยอย่างละเอียดจะดีกว่า หรือมาปรึกษาพี่ Hands On แทนได้เหมือนกัน สามารถสมัครสอบ IELTS ได้ที่ https://www.ieltsasia.org/th/
การสอบ TOEFL (Test of English as a Foreign Language)
การสอบ TOEFL เป็นอีกหนึ่งการสอบวัดระดับสำหรับคนที่อยากไปเรียนต่ออังกฤษ สามารถเลือกใช้คะแนนนี้ในการยื่นสมัครได้ โดยการสอบ TOEFL จะแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ๆ คือ TOEFL IBT และ TOEFL ITP ซึ่งข้อสอบแบบที่เราต้องใช้สำหรับไปเรียนต่อต่างประเทศ คือ TOEFL IBT โดยจะเป็นการทำข้อสอบผ่านระบบคอมพิวเตอร์ เนื้อหาการสอบประเภทนี้จะแบ่งออกเป็น 4 พาร์ทเหมือนกับ IELTS ได้แก่ การฟัง การอ่าน การพูด และการเขียน โดยให้เวลาทำทั้งหมด 3 ชั่วโมงครึ่ง รวมทั้งหมด 120 คะแนน มีค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 6,000 บาท และสามารถใช้ผลสอบได้ 2 ปี หากเกินกว่านั้นต้องสอบใหม่ ในส่วนของคะแนนขั้นต่ำในการยื่นเรียนต่ออังกฤษจะอยู่ที่ประมาณ 90 คะแนน แต่ควรเช็คจากทางมหาวิทยาลัยโดยตรงอีกที หรือถ้าน้อง ๆ คนไหนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามจากพี่ Hands On ได้ตลอดเวลาเลย สามารถสมัครสอบ TOEFL ได้ที่ https://www.ets.org/toefl.html
การสอบ GMAT (Graduate Management Admission Test)
การสอบประเภทนี้ถือว่าท้าทายพอสมควร เพราะนอกจากจะมีพาร์ทการวัดความรู้ด้านภาษาอังกฤษแล้ว ยังมีการจะการวัดทักษะการคิดคำนวณ แก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ และวัดความถนัดด้านการเขียนเชิงวิเคราะห์ด้วย ดังนั้นหากน้อง ๆ ต้องเตรียมสอบ GMAT ก็ควรทบทวนความรู้ในวิชาอื่น ๆ ด้วย โดยมีเวลาทำข้อสอบทั้งหมด 3 ชั่วโมง 30 นาที คะแนนเต็ม 800 คะแนน ผลทดสอบอยู่ได้นานถึง 5 ปี และมีค่าใช้จ่าย 250 ดอลลาร์ หรือประมาณ 8,500 บาท ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนแต่ละช่วง สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่มีแพลนไปเรียนต่อ ป.โท อังกฤษ พี่ Hands On ขอแนะนำให้ดูจากประกาศของคณะ และสาขาวิชาที่น้อง ๆ อยากสมัครเรียนเลยว่าต้องการคะแนนเท่าไร เพราะแม้ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่ถ้าคนละสาขาบางครั้งก็ใช้คะแนนไม่เท่ากัน สามารถสมัครสอบได้ที่ https://www.mba.com/
หากน้อง ๆ คนไหนอยากไปเรียนต่อ ป.โท อังกฤษ ควรเลือกมหาวิทยาลัย และสาขาที่อยากเรียนเอาไว้ก่อน เพื่อตั้งเป้าหมายในการสอบให้กับตัวเอง แต่ถ้าน้อง ๆ มีความคิดอยากจะไปเรียนต่อ ป.โท อังกฤษ แต่ยังไม่มั่นใจในมหาวิทยาลัย หรือสาขาวิชาที่ต้องการจะเลือกเรียน พี่ Hands On พร้อมเป็นที่ปรึกษาน้อง ๆ ที่มีแผนไปเรียนต่อต่างประเทศ ให้คำปรึกษาตั้งแต่การเลือกประเทศ เลือกสถาบัน และหลักสูตรที่เหมาะสม ตรงใจน้อง ๆ มากที่สุด แนะแนวขั้นตอนยื่นใบสมัคร ติดตามผลการสมัคร แนะนำเรื่องวีซ่า ที่พัก ประกันการเดินทาง และกิจกรรมพิเศษอื่น ๆ ตั้งแต่การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนการเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ จนถึงกิจกรรมพบเพื่อนหลังเรียนจบ เพื่อให้ประสบการณ์การเรียนต่อ ป.โท อังกฤษ และการเรียนต่อต่างประเทศของน้อง ๆ ทุกคนเป็นเรื่องราวดี ๆ ที่น่าจดจำ น้อง ๆ สามารถติดตามข่าวสารและปรึกษาเรื่องเรียนต่อต่างประเทศกับพี่ Hands On ปรึกษาได้ฟรีทุกขั้นตอน ไม่มีค่าใช้จ่าย
Hands On บริการให้คำปรึกษาด้านเรียนต่อต่างประเทศ เรียนต่อ ป.โท ต่างประเทศ
เรียนต่ออังกฤษ เรียนต่อ ป.โท อังกฤษ (เรียนต่อ UK) เรียนต่ออเมริกา (เรียนต่อ USA) เรียนต่อออสเตรเลีย
เปิดบริการ 6 สาขาทั่วประเทศไทย คือ สีลม (สำนักงานใหญ่), สุขุมวิท, ปิ่นเกล้า, พระราม 2, พระราม 9 และเชียงใหม่
Line : @handson
Facebook : www.facebook.com/HandsOnEdu
Tel : 02 635 5230, 02 821 6877, 084 245 1708