สวัสดีค่า ชื่อ นุ่นนะคะ ปัจจุบันเรียนที่ Lancaster University ปริญญาโทสาขา Human Resources and Consulting หรือ HRC ค่ะ บล็อกนี้จะมาขอเล่าประสบการณ์การเรียนที่นี่ให้เพื่อนๆ ฟังค่ะ
พอพูดถึงสาขา HRC แล้ว หลายคนมักจะสับสนกับอีกสาขานึงคือ Human Resources Management และคิดว่าเนื้อหาที่เรียนเหมือนกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลยค่ะ ถึงแม้ว่าจะมีเรียน Introduction to HR เหมือนกัน แต่รายละเอียดมีความแตกต่างกันออกไป เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังต่อข้างล่างนะคะ
สาเหตุส่วนตัวที่เลือกเรียนสาขานี้และที่ Lancaster University เป็นเพราะอันดับแรกเลยคือ ในอังกฤษ มหาวิทยาลัยที่มีสาขานี้มีน้อยมากค่ะ เพียงแค่ 2 ที่เท่านั้นที่มีชื่อเสียง นั่นก็คือ University of Bath และ Lancaster University เองค่ะ และได้ตัดสินใจเลือก Lancaster University เพราะนอกจากจะเป็นมหาวิทยาลัย 1 ใน 10 ของ UK แล้ว ตัว Management School เองยังมีชื่อเสียงมากๆ ถึงขนาดในปีนี้ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 7 ใน UK เลยทีเดียว รวมไปถึงหอพักนักศึกษาก็ถูกจัดให้อยู่ในอันดับต้นๆ ของ UK ที่นักศึกษามีความพอใจอย่างมากกับการมาพักค่ะ เพราะโดยภาพรวมแล้วเมือง Lancaster เป็นเมืองที่สงบ มีทุ่งหญ้ากว้างเขียวขจี มีแกะและเป็ดน้ำมากมายร้องทักทายบ้างเป็นระยะๆ
แม้จะเป็นเมืองเล็กๆ ที่ไม่ค่อยมี Business ใหญ่ๆ หรือตึกสูงๆ เกิดขึ้นเหมือนเมืองอื่นๆ แต่เมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยสูงมากเลยค่ะ อันนี้รับรองเองได้ 100 เปอร์เซ็นต์เพราะได้ไปถามเพื่อน native มาเองแล้ว เขาบอกว่าระดับอาชญากรรมไม่ค่อยสูงเลย เขาเดินกลับบ้านช่วงเช้าตรู่ (ระหว่างตี 1-5) ยังไม่มีอะไรอันตรายเกิดขึ้นกับเขาเลย รายงานล่าสุดที่มีคนแจ้งตำรวจก็คือ เรื่องมีคนแอบขโมยชีสในตู้เย็นไป ฟังละใจชื้นขึ้นมาทันทีเลยใช่ไหมคะ ข้อดีอีกอย่างนึงคือมหาวิทยาลัยให้ทุนสำหรับทั้งนักศึกษาต่างชาติและในอังกฤษแบบอัตโนมัติ นั่นคือ เราไม่ต้องสมัครทุนแยก แต่หาใครที่มีคุณสมบัติที่ตรงตามเกณท์ มหาวิทยาลัยก็จะส่ง Offer ให้พร้อมกับใบตอบรับทันทีค่ะ และนุ่นเองก็คือ 1 ในนักศึกษาต่างชาติที่ได้รับทุนมาเรียนที่นี่ และนี่ก็คือเหตุผลสำคัญที่ตัดสินใจเลือกที่นี่ค่ะ
ความพิเศษของสาขา HRC นี้ ก็คือ ตัวสาขาเองจะอยู่ Department of Leadership and Management ซึ่งเป็นคนละส่วนกันกับสาขา Human Resources and Management ในวิชาแยกย่อยที่เรียน HRC จะมีความแตกต่างตรงที่เนื้อหาจะเน้นไปในทางการพัฒนาความเป็นผู้นำในองค์กร ทำอย่างไรคนในองค์กรจะพัฒนาหรือเรียนรู้ให้ได้มากที่สุด โดยเน้นที่วิชา Leadership และ Consulting ค่ะ เนื้อหาจะถูกสอนเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปในแต่ละเทอม เพื่อให้เด็กได้ปรับตัวเข้าสู่วิชา HR โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยเรียนด้านนี้มาก่อนไม่ต้องกังวลนะคะ ตัวอาจารย์ผู้สอนเองมีความเข้าใจเด็กเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งตัวข้อสอบเองในเทอม 1 ที่เพิ่งผ่านมานี้เอง ก็ถูกออกแบบโดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจในวิธีการเรียนของนักศึกษาต่างชาติ และคนที่ไม่มีพื้นฐาน HR มาก่อนค่ะ ตัวระบบการเรียนการสอนค่อนข้างถูกออกแบบมาอย่างประณีตมากค่ะ ซึ่งเป็นเรื่องนึงที่นุ่นประทับใจมากๆในสาขานี้ เช่น แต่ละวิชาที่เรียนจะเชื่อมโยงกันเป็นลำดับขั้น จะเริ่มจากค่อยๆ ปูพื้นฐานจาก basic ไปหาระดับ advance เรื่อยๆ ในแต่ละเทอม มีการสอนวิชาวิจัยทั้งแบบ Qualitative และ Quantitative ที่เกี่ยวกับ HRC โดยเฉพาะและเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการทำวิทยานิพนธ์ในเทอมที่ 3 นอกจากนี้คือ assignment ที่ให้จะถูกคำนวณออกมาเป็นอย่างดีว่า เด็กจะใช้เวลาทำนานเท่าไหร่ เช่น Essay 1,000 คำจะให้เด็กทำนานเท่าไหร่ก่อนที่จะเอางานใหม่มาให้ทำ งานทุกงานจะไม่มีทางซ้อนทับกันเลยค่ะ ส่งผลให้ผู้เรียนไม่กดดันเรื่อง deadline และเนื้อหาที่เรียนมากจนเกินไปค่ะ และอีกส่วนนึงที่ชอบมากๆ ค่ะ สาขานี้จะค่อยข้างเน้นนำทฤษฎีที่เรียนทั้งในส่วน Human Resources, Leadership และ Consultancy มาประยุกต์ใช้ในทางปฎิบัติให้เด็กทำงานกลุ่ม ทำโปรเจคร่วมกับบริษัทลูกค้าจริงที่มาติดต่อกับมหาวิทยาลัย มีปัญหาจริงที่แต่ละคนในกลุ่มจะต้องช่วยกันหาทางแก้และนำเสนอเจ้าของบริษัทค่ะ ซึ่งอันนี้จะเรียนในเทอมที่ 2 น่าตื่นเต้นใช่ไหมล่ะคะ
มาถึงตรงนี้ จะขอเล่าประสบการณ์คร่าวๆ ตลอดเทอม 1 ให้ฟังกันนะคะ โดยตั้งแต่แรกเริ่มเลยที่เปิดเทอม เป็นช่วงที่นุ่นและเพื่อนๆตื่นเต้นกันมากที่จะทำความรู้จักกัน วันแรกที่มาพบกันเป็น Team Building Day ซึ่งก็คือวันที่อาจารย์ทุกคนในสาขามาพบปะกับนักศึกษา พูดคุยดื่มชากาแฟ ทานข้าวและขนมร่วมกัน พร้อมจัดกิจกรรมต่างๆ ตลอดวันเพื่อละลายพฤติกรรมเด็กให้คุ้นเคยกันมากขึ้น จะพูดอีกอย่างก็คือ คล้ายๆกิจกรรมรับน้องในระดับปริญญาตรีนั่นเองค่ะ กิจกรรมที่ทำมีพาเดินป่ารอบมหาวิทยาลัย (เป็น University ที่เขียวมากท่ามกลางหมู่แมกไม้ ทุ่งหญ้าและลำธารเล็กๆ สวยมากค่ะ) ให้พูดคุยทำความรู้จักกันโดยใช้ Metaphor สื่อความในใจเชื่อมโยงกับธรรมชาติรอบตัวที่เดินผ่าน และให้เล่นเกมเป็นทีมทั้งในร่มและกลางแจ้ง ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ดีมากๆ เลยค่ะ
ช่วงสัปดาห์แรกของการเปิดเทอม เป็นช่วงที่ทั้งคณะ หอพักนักศึกษา และมหาวิทยาลัยจัดกิจกรรมต้อนรับกันอย่างยิ่งใหญ่มาก ทุกๆ วันจะมีงานเลี้ยงอาหาร ขนมและเครื่องดื่มฟรีมีให้เลือกหลายๆที่มากจนตาลาย ไม่รู้จะไปที่ไหนดี มีการกล่าวต้อนรับทั้งจากคณะ สาขา และหอพักนักศึกษา มีปาร์ตี้ในแต่ละ College ให้ทุกคนพบปะสังสรรค์ทำความรู้จักกัน เรียกได้ว่า สนุกมากๆ เลยค่ะ
ส่วนการเรียนในห้องนั้น เนื่องจากว่านุ่นเองไม่เคยเรียน HR มาก่อน การเรียนช่วงแรกเลยงงๆ บ้าง ไม่ค่อยเข้าใจระบบการเรียนอังกฤษสักเท่าไหร่ วิธีการส่งงาน การหาอ่านตามอ้างอิงที่อาจารย์ให้มา การใช้ห้องสมุด การยืมคืนหนังสือ การพิมพ์งาน รวมไปถึงสำเนียงของเพื่อนและอาจารย์แต่ละคน อื้อหือ … สารพัดการปรับตัวเลยค่ะ นี่ยังไม่รวมวิธีการเอาตัวรอดทำกับข้าวทานเองและการใช้ชีวิตร่วมกับเพื่อนๆ ในแฟลตอีก แทบเวียนหัวเลยค่ะ
พอเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง ทุกอย่างเริ่มดีขึ้น ทั้งการใช้ชีวิตและการเรียน เช่น ถ้ามีปัญหาด้านการเรียนแบบนี้ เราควรปรึกษาใคร ควรหาหนังสืออ่านอย่างไร เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ค่อยๆพัฒนาไปเรื่อยๆ ตามกาลเวลา แม้กระทั่งในห้องเรียนเองที่นุ่นมีปัญหาค่อนข้างมากคือ การอภิปรายกันในห้อง ซึ่งคนที่นี่จะค่อนข้างให้ความสำคัญในเรื่องการแสดงความคิดเห็นเป็นอย่างมาก หากใครอยู่เงียบๆ จะถูกมองว่า เห็นแก่ตัว ไม่ยอมแชร์ไอเดียอะไรเลย และเนื่องจากเด็กที่นี่ส่วนใหญ่เป็นเด็กในกลุ่มที่ค่อนข้างหัวกะทิ การทำงานด้วยค่อนข้างยากมากค่ะ assignment ก็ยากมาก ไม่ค่อยเข้าใจเพราะเนื้อหาลึกระดับปรัชญา ในช่วงแรกเริ่มก็เลยรู้สึกท้อแท้มาก พอเวลาผ่านไปอย่างน้อย 3 อาทิตย์ นุ่นเริ่มเข้าใจระบบต่างๆ มากขึ้น เริ่มปรับตัวได้ รู้สึกเป็นกันเองมากขึ้นกับเพื่อนๆ ทุกอย่างเริ่มสนุกขึ้นแล้วค่ะ การเรียนเริ่มสนุก เริ่มชินกับสำเนียงเพื่อนและอาจารย์ เริ่มพัฒนาทักษะต่างๆ มากขึ้น สรุปได้ว่า นุ่นใช้เวลาในการปรับตัวทั้งหมด 3 เดือนค่ะ!! อาจจะฟังดูช้าไปนะคะ แต่รับรองได้ว่านักศึกษาต่างชาติแทบทุกคนใช้เวลาเฉลี่ยประมาณนี้พอๆ กันค่ะ
ระหว่างเทอม สาขาได้จัดทริปพาไปดูงาน CIPD ซึ่งมีชื่อเสียงมากในวงการ HR ที่ Manchester โดย 1 วันก่อนเดินทาง ทางสาขาได้จัดอบรม train นักศึกษาเพื่อเตรียมตัวก่อนไป อธิบายว่างานนี้สำคัญอย่างไร และในฐานะนักศึกษา HR เราควรสร้างบุคลิกภาพอย่างไรในการติดต่อสื่อสารกับบุคคลภายนอกและอื่นๆอีกมากมาย เมื่อไปถึงตลอดงานมีการจัดบรรยายจากบริษัทผู้นำด้าน HR Innovation มากมายจากทั่วโลกมาจัดแสดงงานนิทรรศการและขึ้นพูดหัวข้อต่างๆ เกี่ยวกับการพัฒนาบุคลากรตลอดทั้งวัน ถือว่าเป็นประสบการณ์อันล้ำค่ามากเลยค่ะในการติดต่อหา Connection กับผู้นำด้าน HR อื่นๆ และได้ความรู้มาเต็มกระเป๋า ถือว่าคุ้มค่ามากๆ ค่ะที่สาขาจัด
อาจเรียกได้ว่า เทอม 1 เป็นอะไรที่ดุเดือดเผ็ดมันมากเลยค่ะ แม้การเรียนจะค่อนข้าง Intensive ในช่วงท้ายเทอมทางสาขาก็มีจัดปาร์ตี้ฉลองวันคริสต์มาสให้ที่ร้านอาหารหรูแห่งหนึ่งใน Lancaster มีการเล่น Secret Santa แลกเปลี่ยนของขวัญกัน พูดคุยดื่มไวน์กัน เป็นคืนที่ทุกคนมีความสุขมากเลยค่ะ
ว้า…จบเทอม 1 แล้ว พอมาถึงจุดๆนี้รู้สึกว่าเวลาผ่านไปไวมาก ได้เรียนรู้อะไรเยอะแยะเลย รู้สึกได้ว่า เป็นก้าวแรกที่สำคัญในการเตรียมตัวไปสู่การต่อสู้ฟันฝ่าการเรียนในเทอมที่สองต่อไปค่ะ มาถึงตรงนี้แล้ว หากใครสนใจเรียนต่อสาขา Human Resources and Consulting ที่ Lancaster University ก็รีบๆ ติดต่อพี่ๆ Hands On กันเข้ามานะคะ พี่ๆ เขาบริการดีมาก รอช้าไม่ได้ อีกอย่างเผื่อมีลุ้นได้ทุนจากมหาวิทยาลัยด้วยน้า
สนใจเรียนต่อ Lancaster University ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเรียนต่อและคำปรึกษาจากพี่ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทย ฟรี คลิก