Hands On Education Consultants

เรื่องน่ารู้ก่อนไปเรียนหมอ กับ St. George’s University หนึ่งในมหาวิทยาลัยการแพทย์ที่มีชื่อเสียงในฝั่ง US

หากน้อง ๆ สายวิทย์-คณิตคนไหนตั้งเป้าหมายว่าจะเรียนจบไปเป็นหมอ มาศึกษาข้อมูลการเรียนต่อในสาขาวิชาแพทยศาสตร์ หรือ Doctor of Medicine กับโอกาสที่ดีมาก ที่เราจะได้เก็บความรู้และประสบการณ์ในวิชาชีพขั้นสูงที่หาไม่ได้จากที่ไหนในโลก เพราะมหาวิทยาลัยการแพทย์ที่พี่ Hands On จะแนะนำให้รู้จัก มีหลักสูตรการสอน สื่อการเรียนรู้ เครื่องมือสายแพทย์ และแล็ป พร้อมประสบการณ์ชีวิตแบบจัดเต็ม มาอ่านและทำความรู้จักกับ St. George’s University กันเลยค่ะ

St. George’s University หรือ SGU เป็นหนึ่งใน School of Medicine ชื่อดังจากประเทศเกรนาดา (Grenada) ที่จะช่วยเปิดประตูสู่โลกการแพทย์ให้กับผู้เรียน ด้วยหลักสูตร Doctor of Medicine (MD) ที่ได้การรับรองจากแพทยสภาของประเทศไทย โดยหลักสูตรนี้เปิดทางเลือกให้ผู้เรียนได้เรียนในอังกฤษ (UK) และอเมริกา (US) ระหว่าง 4-7 ปี ตามที่หลักสูตรกำหนด

มาอ่านเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยกันต่อเลย

 

ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย SGU และการขับเคลื่อนให้วงการแพทย์ได้ตัวบุคลากรชั้นดีเข้าทำงาน

ในตอนนี้ต้องถือว่าเราได้เข้าสู่สังคมผู้สูงวัยกันอย่างเต็มตัวมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว แถมยังมีโรคภัยไข้เจ็บมากมายที่เปลี่ยนแปลงกลายพันธุ์ได้ วงการแพทย์ผ่านเหตุการณ์การระบาดของโควิดที่ต้องทำงานอย่างหนักหนา ส่งผลให้ความต้องการของบุคลากรการแพทย์สูงยิ่งขึ้น ซึ่ง St. George’s University เป็น มหาวิทยาลัยการแพทย์ ที่ได้สร้างปรากฏการณ์ส่งออกคุณหมอเป็นจำนวนมากที่สุด ให้กับ US Healthcare System1 และยังเป็นมหาวิทยาลัยที่ผลิตบุคลากรทางการแพทย์เข้าสู่วงการแพทย์ระดับโลกมากกว่า 22,000 คน รวมนักศึกษา บัณฑิต และเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยจาก 150 กว่าประเทศรอบโลก2

1 ด้วยอัตราการเรียนจบแพทย์ของนักศึกษา SGU มีจำนวนที่สูงมากที่สุดในแต่ละปี St. George’s University ได้ส่งนักศึกษาระดับคุณภาพไปฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านหรือ Residency มากที่สุดในแต่ละปีเช่นกัน จากการอัปเดตข้อมูลในเดือนมีนาคม 2024

2 อ้างอิงจากจำนวนนักศึกษาทั้งหมดที่เรียนจบหลักสูตรการแพทย์ Doctor of Medicine ตั้งแต่ปี 1981-2023

 

คอร์สเรียนการแพทย์ Doctor of Medicine (MD) ที่ St. George’s University

มหาวิทยาลัย SGU ได้ออกแบบหลักสูตร Doctor of Medicine (MD) ที่ตอบโจทย์ที่สุด มีทั้งโอกาสการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้าน และมีทางเลือกขึ้นคลินิกกับโรงพยาบาลในอังกฤษหรืออเมริกา เพื่อให้ผู้เรียนได้เติบโตในสายงานหมอ ด้วยประสบการณ์การลงมือปฏิบัติที่แน่นและชั่วโมงบินที่สูง พร้อมเข้าวงการแพทย์ได้ทันทีหลังเรียนจบ

สำหรับการเรียนต่อในสาขาแพทยศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย SGU จะใช้เวลาเรียนทั้งหมด 4-7 ปี ขึ้นอยู่กับการศึกษาที่ผ่านมาของผู้เรียน ว่ามีพื้นฐานมาแค่ไหน จะต้องเรียนเสริมเพื่อปูพื้นฐานให้แน่นเป็นระยะเวลากี่ปี อย่างผู้สมัครที่มีพื้นฐานความรู้การศึกษาก่อนการทดลองทางคลินิก (Preclinical studies) มาก่อน ก็จะสามารถสมัครเรียนเข้าหลักสูตร 4 ปีได้เลย เป็นต้น และยังเป็น

*สอบถามข้อมูลรายละเอียดการเรียนต่อแพทย์ในแต่ละประเทศกับ SGU ได้เลยกับ Hands On

 

อัตราการเข้าฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้าน หรือ Residency สูงสุด 97% ในปี 2023

จากผลสำรวจในปี 2023 ของ St. George’s University นักศึกษานานาชาติที่เรียนแพทย์ได้ฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านในสหรัฐอเมริกา ได้ Residency placement คิดเป็น 97%3 และตลอด 5 ปีที่ผ่านมา นักศึกษานานาชาติที่เรียนการแพทย์ที่มหาวิทยาลัย SGU ได้เข้าฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านที่สหรัฐอเมริกา มีค่าเฉลี่ยสูงถึง 86%4 นับเป็นการการันตีระบบการสนับสนุนนักศึกษาแพทย์ให้ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์และพัฒนาความเชี่ยวชาญเฉพาะทางได้อย่างเต็มที่

โดยนักศึกษาไทยที่เลือกไปเรียนต่อ Doctor of Medicine ที่มหาวิทยาลัย SGU ต่างได้คว้าโอกาสอบรมเป็นแพทย์ประจำบ้าน ใน Residency Program กันสำเร็จ ดังนี้

  1. สาขาเวชศาสตร์ครอบครัว (Family Medicine) ที่ St. Agnes Medical Center ใน US
  2. สาขาประสาทวิทยา (Neurology) ที่ JFK Medical Center ใน US
  3. สาขาเวชศาสตร์ครอบครัว (Family Medicine) ที่ SIU School of Medicine Quincy ใน US
3 ผลสำรวจวัดจากนักศึกษาทุกคนที่ไม่ใช่ประชากรของสหรัฐฯและไม่ใช่แคนาดา ที่ได้ฝึกแพทย์ประจำบ้าน เป็น US Residency ในปี 2022-2023 วัดผลล่าสุดเมื่อเดือนกันยายน 2023

4 ผลค่าเฉลี่ย ตั้งแต่ 2019, 2020, 2021, 2022, 2023 ของอัตราการเข้าฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้าน (Residency placement) ที่สหรัฐอเมริกา ของนักศึกษาทุกคนที่ไม่ใช่ประชากรของสหรัฐฯและไม่ใช่แคนาดา วัดผลล่าสุดเมื่อเดือนกันยายน 2023

 

โอกาสเก็บประสบการณ์ขึ้นคลินิกของนักศึกษาแพทย์ ในโรงพยาบาลกว่า 75 แห่ง ที่ US และ UK

การขึ้นคลินิก เพื่อขึ้นวอร์ด การราวน์ การเรียน bedside และการอยู่เวรของหลักสูตร Doctor of Medicine ต่างก็เป็นประสบการณ์การฝึกอบรมที่นักศึกษาแพทย์แต่ละคนจะประสบพบเจอและทำความคุ้นเคย ตั้งแต่ส่วนของการประยุกต์ความรู้ภาคทฤษฎีต่าง ๆ มาใช้ในโรงพยาบาลตามเคสจริง การปรับตัวทำงานในแต่ละวอร์ด และการฝึกทักษะต่าง ๆ ซึ่งที่ St. George’s University จะมีพันธมิตรของโรงพยาบาลทั้งในสหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักรให้นักศึกษาแพทย์ได้เลือกขึ้นคลินิกได้

ตัวอย่างรายชื่อโรงพยาบาลหลักและสมทบที่สามารถขึ้นคลินิกได้ที่ SGU:

 

การเรียนต่อแพทย์เพื่อเป็นหมอ เป็นเส้นทางที่ยาก ต้องผ่านความท้าทาย และผ่านหลายปีการเรียน แต่ถ้าผู้เรียนมีประสบการณ์ที่แน่นทั้งในภาควิชาการและภาคปฏิบัติ ในระดับมาตรฐานของ St. George’s University โอกาสเติบโตในวงการแพทย์ของเราจะมั่นคงยิ่งขึ้น น้อง ๆ หรือผู้ปกครองที่สนใจสอบถามข้อมูลเรียนหมอที่ต่างประเทศ ติดต่อทีม Hands On ได้เลย