แม้ว่าช่วงฤดูร้อนจะเป็นสวรรค์สำหรับคนที่นี่ แต่สำหรับชาวไทยเหงื่อไหลอย่างเราแล้ว อากาศร้อนอาจจะเป็นอะไรที่เราพากันส่ายหน้า คนที่นี่ชอบแดดมากค่ะ วันไหนที่แดดดีๆ จะเห็นคนนั่งกลางสนามหญ้ารับแดดเป็นดอกทานตะวันกันเลยค่ะ ตามร้านอาหารที่นั่ง outdoor ที่แดดแรงๆ ก็จะแน่นไปด้วยผู้คน หลายคนคงคิดว่าแดดที่อังกฤษนี้คงร้อนสู้บ้านเราไม่ได้แน่ๆ ใช่ไหมคะ? … บอกเลยว่า ณ จุดๆ นี้ เพื่อนๆ อาจจะกำลังคิดผิด! เพราะถึงแม้ว่าแดดที่นี่อยู่ท่ามกลางลมเย็นๆ ไม่เหมือนกับบ้านเราที่แดดแรงลมร้อน แต่ที่นี่เขามีปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Heatwave” ค่ะ

“Heatwave” คือช่วงที่อากาศจะร้อนกว่าปกติค่ะ แม้ว่าอุณหภูมิจะสูงสุดอยู่ที่แค่ 32 องศาเท่านั้นในปีที่ผ่านมา และมีระยะเวลาแค่ประมาณ 1 สัปดาห์เท่านั้น แต่ก็สามารถที่จะทำให้เราป่วยได้เลยล่ะค่ะ ทางมหาลัยฯ ยังถึงกับต้องส่งจดหมายมาแนะนำการรับมือกับสภาพอากาศแบบนี้กันเลยทีเดียว

ถามว่าทำไม Heatwave ถึงน่ากลัว ความแตกต่างของฤดูร้อนที่อังกฤษกับไทยอยู่ที่ความชื้นค่ะ เพราะว่าอากาศที่อังกฤษจะค่อนข้างแห้ง อากาศในช่วงฤดูร้อนของเขาจึงให้ความรู้สึกร้อนแบบแห้งๆ ค่ะ ในขณะที่ประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตภูมิอากาศร้อนชื้น ทำให้อากาศร้อนของบ้านเราเป็นแบบร้อนชื้นค่ะ

ตอนแรกเราเองก็คิดว่ากับอีแค่อากาศร้อนแห้งจะทำอะไรคนไทยที่ทนร้อนมากว่า 20 ปีได้ยังไง แต่คิดผิดเลยค่ะ เพราะในช่วงที่มี Heatwave นั้น เราถึงกับมีร้อนในขึ้นเต็มปากเลยค่ะ เพราะเกิดจากการที่เราขาดน้ำ เนื่องจากอากาศที่แห้ง และร้อนค่ะ

วิธีการรับมือกับ Heatwave

1) เปิดหน้าต่างห้องทิ้งไว้ แต่ปิดผ้าม่าน: วิธีนี้ทางมหาวิทยาลัยแนะนำมาค่ะ ให้เปิดหน้าต่างทิ้งไว้แม้ว่าเราจะไม่อยู่ห้องก็ตาม มันจะช่วยระบายความร้อนได้ค่ะ อันนี้เราลองแล้ว เวิร์คอยู่ เวลาออกไปเรียนกลับมาแดดส่องห้องก็จริง แต่ไม่ร้อนเลยค่ะ พอแดดร่มค่อยเปิดผ้าม่านรับลมเย็นต่อ

2) พัดลม: เราสามารถซื้อพัดลมได้ จาก ร้านต่างๆ หรือซุปเปอร์มาร์เก็ตอย่าง Tesco, Asda, Wilko, Clas Ohlson, Argos หรือแม้แต่ Amazon ก็มีขายค่ะ จริงๆ อยากจะแนะนำให้ซื้อเป็น Fan Heater ไว้เลยค่ะ เพราะว่าสามารถปรับเป็น Heater ใช้ต่อในช่วงฤดูหนาวได้ด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับกฎของแต่ละหอด้วย อย่างหอในของมหาวิทยาลัยเรา ไม่อนุญาตให้ใช้ Fan Heater ค่ะ (เขามีมาตรวจถึงห้องด้วยนะ ถ้าจับได้ก็โดนยึดไป เสียดายเงินกันเป็นแถว)

3) เครื่องดื่มร้อน: แบบนี้ก็ได้ด้วยดหรอ เราก็งงค่ะ แต่ในอีเมล์ของมหาวิทยาลัยบอกมาแบบนี้ เขาบอกว่ามันอาจจะฟังดูแปลกๆ แต่เขาบอกว่ามีงานวิจัยออกมาว่า การดื่มเครื่องดื่มร้อนที่ไม่มีส่วนผสมของคาเฟอีน จะช่วยทำให้อุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้นจนทำให้เหงื่อออก แล้วเหงื่อจะช่วยในการลดอุณหภูมิของร่างกายอีกที … วิธีนี้เราไม่ได้ลอง ตลอดสัปดาห์ Heatwave เราก็กินน้ำเย็นตลอดเลย 55555

4) ดื่มน้ำมากๆ: ข้อนี้สำคัญจริงๆ ค่ะ ตอนอยู่ไทยเราเป็นคนกินน้ำน้อยมาก พอมาอยู่นี่ มาเจอ Heatwave แล้วร้อนในขึ้นเต็มปาก รู้เลยว่าต้องพกน้ำติดตัวไว้จิบตลอดเวลาแล้ว จริงๆ ควรจิบตลอดเลยแหละ เพราะอากาศที่นี่ค่อนข้างแห้ง เดี๋ยวจะป่วยเอา ใครที่อยากประหยัดจะทำแบบเราก็ได้นะ คือซื้อกระติกน้ำมา แล้วกรอกจากที่หอไปกินระหว่างวัน เอาอยู่ แป๊บเดียวร้อนในยุบ

5) เอาน้ำใส่แก้ววางไว้ในห้อง: วิธีนี้ไปเอามาจากรุ่นพี่ที่อยู่ที่นี่ค่ะ เพราะเจอปัญหาว่าเวลาตื่นนอนจะเจ็บคอ เป็นเพราะว่าเรานอนเปิดหน้าต่างไว้ แล้วอากาศมันค่อนข้างแห้ง ตื่นเช้ามาเลยแสบคอ พี่เขาก็แนะนำให้เอาน้ำใส่ในแก้วแล้วตั้งวางทิ้งไว้ ซึ่งก็ได้ผลเกินคาดค่ะ ไม่เจ็บคออีกเลย หรือถ้าใครมีทุนหน่อย ก็สามารถซื้อเป็นเครื่องทำความชื้นได้ค่ะ คิดว่าเดี๋ยวพอช่วงอากาศหนาวจัดๆ เราก็จะไปซื้อมาเหมือนกันค่ะ

สำหรับเพื่อนๆ ที่จะมาเรียน pre-sessional ในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม เจอแน่ๆ ค่ะ ไม่ต้องกลัว ให้เตรียมเสื้อผ้าบางๆ สั้นๆ มาด้วย เพราะเสื้อผ้าฤดูร้อนของที่นี่ ราคาไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ 55555 รองเท้าแตะหิ้วมาเพื่อช่วงเวลานี้เลยล่ะค่ะ แต่รับรองว่าคุ้มอุ่นใจแน่นอน ส่วนสาวๆ นี่ครีมกันแดดคือภาคบังคับเลยนะคะ เพราะแดดที่นี่เผาจริงๆ เราคล้ำขึ้นภายใน 2-3 วันประมาทแดดที่นี่มาแล้ว มาเรียนเมืองนอกอย่ากลัวหนาวอย่างเดียว เตรียมตัวรับมือความอากาศร้อนไว้ด้วยนะคะ สุขภาพเป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่ง เพราะฉะนั้นดูแลตัวเองกันด้วยนะคะทุกคน 🙂