สวัสดีค่ะ พี่กิ๊กจาก Hands On สาขาสีลมนะคะ วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์การเรียนดีไซน์ที่ประเทศอังกฤษของพี่มาฝากกันค่ะ

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า Background พี่จบศิลปะมาค่ะ และทำงานในด้านออกแบบมาตลอด เพราะฉะนั้นการตัดสินใจเรียนต่อครั้งนี้เลยโฟกัสไปทางฝั่งยุโรปและประเทศอังกฤษเป็นหลักค่ะ ด้วยความที่เป็นคนชอบงานดีไซน์ พิพิธภัณฑ์ และคอนเสิร์ตมาก และอยากไปประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ตัวเลือกเลยเป็นอังกฤษเท่านั้นเลยค่ะที่มีครบ

การที่เราเรียนด้านดีไซน์มาตลอด ทำให้ทักษะส่วนใหญ่ก็จะเป็นการทำสเก็ต ดูเรื่อง Artwork เรื่องสี concept ไอเดียต่างๆ ทำให้ทักษะด้านภาษาของเรานั้น… เข้าขั้นน่าเป็นห่วงค่ะ ในตอนนั้นพี่เชื่อว่าเด็ก Art มักตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันเมื่อคิดจะไปเรียนต่อ แต่ไม่ต้องตกใจไปค่ะ แทบจะทุกมหาวิทยาลัยมี Pre-sessional English Course ให้เราไปเรียนปรับพื้นฐานภาษาก่อนเข้าเรียนจริง

ซึ่งแน่นอนพี่ตัดสินใจไปเรียน Course นี้แบบด่วนๆ ที่ University for the Creative Arts ค่ะ และ course หลักที่เลือกเรียนคือ Design Innovation and Brand Management ค่ะ เพราะอยากเอามาต่อยอดในด้านดีไซน์ที่เรามี การเรียน Pre-sessional English Course ที่นี่เป็นการฝึกสกิลทั้งหมดของภาษาอังกฤษของเราก็ว่าได้ค่ะ ซึ่งไม่ใช่เป็นการเรียนแค่แกรมม่าหรือแบบที่เราเคยเรียนที่ไทยเลย

ในอาทิตย์แรกต้องปรับตัวหนักมาก ทั้งเรื่องภาษาและอาหารการกิน เพราะเป็นคนชอบอาหารเอเชียและทำอาหารไม่เป็นเลย โชคดีเมืองที่ไปอยู่น่ารักค่ะ ชื่อเมือง Fanham ห่างจาก London ประมาน 40 นาที ขาดเหลืออะไร อยากได้อะไรเข้าลอนดอนค่ะ เมือง Fanham เป็นเมืองเล็กๆ มีคนแก่กับเด็กจูงหมากันรอบเมือง อยู่แล้วเหมือนชีวิตในเกม The Sim ค่ะ คนน่ารักเป็นกันเองมากๆ ส่วนคอร์สหลักต้องย้ายไปอีกแคมปัสนึงที่ชื่อ Epsom ค่ะ ที่นี่ก็ใกล้ลอนดอนอีกเหมือนกัน แค่ประมาน 25-30 นาทีเองค่ะ

บรรยากาศห้องเรียนจะแบ่งเป็นคลาสเล็กๆ ต่อครู 1-2 คนค่ะ ประมาน 15 คน การสอนจะเน้นเป็นสกิลที่จะได้ใช้จริงๆ ในการเรียนคอร์สหลักค่ะ เช่น สอนการเขียนงานส่ง การทำ presentation มีการตรวจสมุดสเก็ตและที่นี่จะโฟกัสที่การพรีเซนต์ค่ะ คือเราจะต้องเอาไอเดียเราไปเล่าให้เพื่อนทั้งห้องฟังว่าทำอะไรมาบ้าง เจออะไรมาบ้าง ได้แรงบันดาลใจจากที่ไหน

ซึ่งเราจะได้ออกไปเก็บรายละเอียดพวกนี้โดยการไปสำรวจสถานที่จริง ดูงานจริงๆ อันนี้จะเป็น field trip ที่ทางมหาวิทยาลัยจัดให้ในแต่ละโปรเจ็คค่ะ มีเวลาประมาณ 1-2 อาทิตย์ในการทำหนึ่งโปรเจ็ค ซึ่งจะมีทั้งเดี่ยวและกลุ่มค่ะ ความสนุกอีกอย่างของคอร์สนี้คือ เราต้องเดาสำเนียงของแต่ละชาติพร้อมกับดูงานดีไซน์ของเพื่อนๆ ซึ่งถือว่า Challenge มากเพราะทุกคนใม่ใช่ native speaker บวกกับจินตนาการอันล้ำเลิศของแต่ละคนนั้น เรียกได้ว่าได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ทุกวันเลยค่ะ การเรียนศิลปะที่ไทยเจอคนแปลกๆ แล้ว มาเจอวัฒนธรรมและสไตล์ของแต่ละชาติมารวมกันนี่แปลกยิ่งกว่าอีกค่ะ

แต่สุดท้ายพอจบคอร์สได้เพื่อนสนิทเยอะมากและยังติดต่อกันจนถึงตอนนี้ ด้วยที่ UCA มี 4 แคมปัส ทำให้พอทุกคนแยกไปเรียนต่างที่กันตามสาขาวิชา เรายังได้มีโอกาสไปเยี่ยมเพื่อนที่เมืองอื่นตามแคมปัสต่างๆ ด้วยค่ะ เรียกได้ว่าไปที่ไหนก็มีที่นอนค่ะ เพราะ make friend ไว้เยอะ และสิ่งที่ดีอีกอย่างคือมหาวิทยาลัยนี้คนไทยน้อยมากค่ะ ในคลาสมีคนไทยรวมพี่แล้วก็แค่ 3 คน กับเพื่อนคอร์สแฟชั่นอีกหนึ่งคน รวมรู้จักคนไทย 4-5 คนในการไปเรียนที่โน่นทั้งปีค่ะ นั่นหมายความว่าถึงแม้ว่าเพื่อนในคลาสส่วนใหญ่จะเป็นเอเชีย แต่พอไม่มีคนไทยเราก็ต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการสื่อสารอยู่ดีค่ะ

อันนี้ก็เป็นประสบการณ์เล็กๆ ของพี่ตอนเริ่มต้นเรียนดีไซน์ที่นั่นนะคะ ถ้าน้องๆ สนใจเรียนต่อคอร์สทางด้านนี้สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมมาได้เลย แล้ววันหลังจะเอาประสบการณ์อื่นๆ มาเล่าให้ฟังอีกนะคะ ^^