หลายคนอาจจะคุ้นหู ชื่อพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 (King Richard III) ผ่านบทประพันธ์ของเชคสเปียร์ที่ให้นิยามภาพกษัตริย์พระองค์นี้ในแบบฉบับตัวร้ายในละครไว้ว่าเป็นผู้ชายหลังค่อม มีความขี้โกง และเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน คือทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ ตามที่ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ พระเจ้าริชาร์ดที่ 3 คือกษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์แพลนทาเจเน็ท (Plantagenet) เป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายที่มาจากสายสกุลยอร์ค (York) ที่ครองราชย์อังกฤษด้วยระยะเวลาเพียงแค่ 2 ปี นับว่าเป็นกษัตริย์ที่ครองราชย์สั้นที่สุดของอังกฤษเลยก็ว่าได้ และยังมีจุดจบที่ไม่สู้ดีนัก เพราะตามหน้าประวัติศาสตร์แล้วกษัตริย์ริชาร์ดที่ 3 ถูกสังหารในสนามรบ เรียกง่ายๆ ก็คือตายในหน้าที่ แต่มีการสันนิษฐานว่าหมวกและชุดเกราะของท่านน่าจะหลุดออกไประหว่างการรบ ร่างถูกลากไปตามทาง ไม่มีการจัดพิธีศพหรือแม้แต่โลงศพ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พระเจ้าริชาร์ดที่ 3 ไม่ค่อยเป็นที่กล่าวขานสักเท่าไรนัก
แต่หลังจากมีการประโคมข่าวกันออกมาอย่างเนืองแน่นเกี่ยวกับการขุดพบโครงกระดูกมนุษย์ ณ ใจกลางเมืองเลสเตอร์ (Leicester) เมื่อประมาณปลายปี 2012 ซึ่งก็เชื่อกันว่านี่คือร่างของพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 ที่หายสาบสูญไปกว่าห้าร้อยปี และหลังจากผ่านการพิสูจน์ด้วยนานาวิธีทางวิทยาศาสตร์แล้ว ก็ได้มีการแถลงข่าวต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการจากทีมวิจัยทางด้านโบราณคดีของมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ เพื่อยืนยันว่าโครงกระดูกที่ขุดพบนั้นเป็นของพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 ซึ่งการขุดค้นครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นการค้นพบครั้งสำคัญครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์อังกฤษก็ว่าได้ ผู้คนจึงเริ่มหันมาให้ความสนใจประวัติศาสตร์อังกฤษในช่วงเวลานั้น และยังเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้คนเริ่มรู้จักเมืองเลสเตอร์ (Leicester) มากขึ้นด้วย …
สำหรับใครที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์หรือมีความสนใจเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของบ้านเมืองต่างๆ ตอนนี้เค้าได้มีการสร้าง King Richard III Visitor Centre ตรงบริเวณที่ขุดพบโครงกระดูก ซึ่งแต่เดิมนั้นเป็นลานจอดรถโล่งๆ ที่ตั้งอยู่กลางเมืองเลสเตอร์เพื่อให้นักท่องเที่ยวและชาวเมืองหรือใครก็ตามที่มีความสนใจได้เข้าไปเยี่ยมชม ศึกษาประวัติความเป็นมา และเรื่องราวในการค้นหาพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 โดยละเอียดกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ชีวประวัติของกษัตริย์ผู้นี้ว่าเป็นใครมาจากไหน มีเรื่องราวเป็นมาอย่างไร ตลอดไปจนถึงประวัติในการค้นหาว่าใครเป็นผู้ริเริ่ม, ทำไมถึงได้ให้ความสนใจ, เริ่มมีการศึกษาจากตรงไหน, ทำไมถึงได้มาหยุดที่เลสเตอร์ และต้องใช้ระยะเวลาในการค้นหานานแค่ไหน กว่าจะได้ผลสรุปออกมาเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เราเยี่ยมชมกันอย่างทุกวันนี้ เรียกได้ว่าทุกเรื่องราวของหน้าประวัติศาสตร์ได้ถูกบันทึกไว้ที่นี่หมดแล้ว ใครที่อยากศึกษาประวัติศาสตร์อังกฤษหรือสนใจพวกโบราณคดี นี่ก็เป็นอีกสถานที่ที่น่าค้นหาและคุ้มค่ากับการเยี่ยมชมในเมืองเลสเตอร์ค่ะ และค่าเข้าที่นี่ก็จ่ายเป็นแบบตั๋วปีนะคะ (ราคาตั๋วผู้ใหญ่ประมาณ 10 กว่าปอนด์ ถ้ามีบัตรนักศึกษาก็ได้ discount ไปตามระเบียบ) ใครที่ชื่นชอบเรื่องแบบนี้ไม่ควรพลาดค่ะ ถ้าไปครั้งเดียวมันไม่หนำใจ ก็เข้าวนไปค่ะ! เข้าวนไปจนกว่าจะหมดปี! ;D
King Richard III Visitor Centre แห่งนี้นับว่าเป็นพิพิธภัณฑ์เพิ่งสร้างใหม่แห่งเมืองเลสเตอร์ แต่ก็มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ยาวนาน ไม่ต่างจากพิพิธภัณฑ์อื่นๆ เลย ถ้าอยากจะรู้ประวัติความเป็นมาว่าทำไมร่างของกษัตริย์สายสกุลยอร์คผู้นี้จึงมาอยู่ที่เมืองเลสเตอร์ได้ ก็ต้องลองมาที่พิพิธภัณฑ์นี้กันค่ะ และถ้าใครมีเวลาก็แนะนำให้ดู ซีรี่ย์เรื่อง The White Queen ก่อนไปดูสถานที่จริง จะอินขึ้นมาเป็นพิเศษและจะได้เข้าใจประวัติศาสตร์มากขึ้นด้วย
นอกจากพิพิธภัณฑ์ของพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 ที่แนะนำกันไปแล้ว อีกหนึ่งสถานที่สำคัญทางประวัตศาสตร์ในเมืองเลสเตอร์ คือ Leicester Cathedral อนุสรณ์สถานแห่งยุคกลางที่สวยสะดุดตาและยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของราชวงศ์อังกฤษ ซึ่งก็ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันกับพิพิธภัณฑ์ของพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 นั่นแหละค่ะ นอกจากจะได้ตื่นตากับการตกแต่งภายในอันสวยงามของวิหารและสถาปัตยกรรมแบบโกธิกแล้ว บริเวณรอบๆ วิหาร จะมีสวนหย่อมเล็กๆ และรูปปั้นสำริดของพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 ตั้งเด่นเป็นสง่า ง่ายต่อการสังเกตเห็น วิหารแห่งนี้จึงเหมาะที่จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการทัวร์เดินเท้าบนเส้นทางตามรอยพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 สามารถเข้าไปดูรายละเอียดทั้งหมดได้ที่เว็บไซด์ https://kriii.com/
สนใจเรียนต่อ University of Leicester ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเรียนต่อและคำปรึกษาจากพี่ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทย ฟรี คลิก