Hands On Education Consultants

ข้อมูล Tube ในลอนดอน จากพราว รุ่นพี่นักเรียนไทย ที่ Queen Mary University of London

สวัสดีค่ะ ชื่อพราวนะคะ เรียนปริญญาโท (MSc) อยู่ที่ลอนดอนค่ะ Blog นี้จะเกี่ยวกับ London Tube หรือว่ารถไฟใต้ดินค่ะ

โดยในลอนดอนจะแบ่งทั้งหมด 9 โซน ไล่จากใจกลางเมืองนับเป็นโซน 1 ไล่ออกไปเป็นวง ๆ จนถึงโซน 9 ใจกลางเมืองก็จะเป็นย่านที่เราจะคุ้นเคยกันเช่น Piccadilly Circus, Oxford Street, Regent Street, Liverpool Street, Kensington, และ London Bridge เป็นต้น ส่วนที่จะอยู่โซน 6 ที่น่าจะรู้จักกันก็คือ สนามบิน Heathrow และโซน 7-9 ก็จะไกลไปอีก

รถไฟใต้ดินในลอนดอนจะมีหลัก ๆ อยู่ 12 สายได้แก่ Bakerloo, Central, Circle, District, Hammersmith & City, Jubilee, Metropolitan, Northern, Piccadilly, Victoria, Waterloo & City, และสายใหม่ล่าสุดคือ Elizabeth line นอกเหนือจากสายเหล่านี้แล้วก็ยังมี DLR, London Overground, London Trams, และ London Cable Car ของ Emirate ด้วย ในส่วนของ DLR, Overground และ Trams

ส่วนมากจะอยู่บนดินเป็นหลัก และ Trams จะมีในโซนนอกเมืองค่ะ ในเมืองจะไม่มีเลย แต่ละสายในแผนที่จะแบ่งเป็นสี ๆ ออกไป เพื่อที่จะได้ดูได้ง่าย และจะสังเกตได้ว่า public transport จะค่อนข้างครอบคลุม สามารถเดินทางได้สะดวก มีการเชื่อมกันระหว่างสายเยอะ ทำให้สะดวกต่อการเปลี่ยนสาย นอกจากนี้ จะมีสถานีที่ใช้ร่วมกันกับ National rail service เพื่อนั่งไปต่างจังหวัดเช่น Waterloo station ก็สามารถนั่ง tube ไปลง และไปเปลี่ยนรถไฟ นั่งออกไป Brighton ก็ได้เป็นต้น

สายที่มีอายุเก่าที่สุดก็คือ Metropolitan Line ซึ่งได้เปิดตัวใช้งานครั้งแรกเมื่อตอนปี 1863 จากนั้นก็ตามมาด้วย Circle Line ในปี 1884 และก็ค่อย ๆ เพิ่มมาทีละสาย ๆ จนมาถึงสายใหม่ล่าสุด Elizabeth Line เปิดใช้เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2022 ซึ่งตั้งชื่อตาม Queen Elizabeth II และตรงกับปีที่เฉลิมฉลองครบรอบการครองราชครบ 70 ปี Platinium Jubilee โดย เส้นทาง เริ่มตั้งแต่ สนามบิน Heathrow และ Reading ผ่าน Paddington, Bond Street, Liverpool Street ไปจบที่ Shenfield และ Abby wood  ช่วยถ่ายเทผู้โดยสารจาก Piccadilly Line ในช่วงชั่วโมงเร่งรีบ เอาจริง ๆ ส่วนตัวคิดว่า Elizabeth Line ก็คือ MRT บ้านเรา

 

ในส่วนของรูปแบบขบวน ก็จะมี 2 แบบหลัก ๆ คือแบบเก่า ที่เป็นแยก ๆ โบกี้กัน คือระหว่างโบกี้ไม่สามารถเดินทะลุผ่านกันได้ และอีกแบบก็คือคล้ายรถไฟฟ้าบ้านเรา คือมองทะลุ เดินทะลุ ได้ทั้งคันค่ะ

อันนี้คือ Tube แบบคันเก่า ก็จะเป็น Piccadilly Line, Bakerloo Line, Victoria Line, Jubilee Line, Central Line, Northern Line, และก็ Waterloo & City

ส่วนแบบใหม่ขึ้นมาก็จะเป็น District Line, Circle Line, Hammersmith & City Line, Overground, DLR, และก็ Elizabeth Line

 

ส่วนอันนี้จะเป็น Rail Train นั่งไปได้ทั้งโซนไกล ๆ และก็ออกนอกเมืองค่ะ

 

อีกเสน่ห์ของรถไฟใต้ดินอังกฤษก็คือแต่ละสาย ลายที่นั่งก็จะไม่เหมือนกัน ทั้งลาย และสีทุกสายจะมีเอกลักเป็นของตัวเอง เช่น Piccadilly Line ถ้าดูดี ๆ ก็จะเห็นได้ว่าเป็นที่ท่องเที่ยวที่เรา ๆ รู้จักกันอย่าง London Eye, Big Ben, Tower Bridge, และ St. Paul’s Cathedral เป็นต้น มีเรื่องราวเยอะมากเกี่ยวกับที่นั่ง และ design ถึงกับมีหนังสือที่พูดถึงที่นั่งอย่างเดียวเลย

https://www.ltmuseumshop.co.uk/seats-of-london

 

นอกจากนี้การจัดวางที่นั่งบางสายก็ไม่เหมือนกันเช่นกัน เช่น Bakerloo Line จะมีบางที่ ที่หันหน้าเข้าหากันเป็นคู่ ๆ แทนที่จะเป็นแถว ๆ

https://www.timeout.com/london/news/these-bakerloo-line-trains-are-now-half-a-century-old-062922

 

อีกอย่างที่โด่งดังมาก เกี่ยวกับรถไฟใต้ดินของลอนดอนก็คือ ประโยคน์ที่ว่า “Mind the gap” ที่เตือนผู้โดยสารให้ระวังช่องว่างระหว่างชานชลากับตัวรถ เป็นอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่กลายเป็นเอกลักษ์ของรถไฟใต้ดินที่นี่ไปแล้ว

ค่าโดยสารจะตกอยู่วันละ 7.70 ปอนด์ต่อวัน ถ้าอยู่ในโซน 1 อย่างเดียว แต่ถ้าออกไปไกลขึ้นก็จะแพงขึ้นตามลำดับ เช่นถ้าไปถึงโซน 3 ก็จะเป็น 9 ปอนด์ ถึงโซน 4 ก็จะเป็น 11 ปอนด์ เป็นต้น

เช็ครายละเอียดค่าโดยสารได้ที่นี่ https://tfl.gov.uk/fares/find-fares/tube-and-rail-fares

 

การจ่ายค่าโดยสารก็จะมีหลัก ๆ อยู่ 2 แบบคือ contactless คือเราเอา credit card หรือ Debit card แตะได้เลย   แต่ถ้าจะใช้เงินสดหรือซื้อเป็นรายอาทิตย์หรือรายเดือนก็คือต้องไปซื้อ Oyster Card ที่เครื่องที่สถานี ซึ่ง Oyster Card สามารถใช้ได้กับทั้ง รถไฟใต้ดิน (Tube), รถเมล์ (Bus), รถราง (Trams), รถไฟบนดิน (Overground) และ เรือ (Ferry) เลย

ใด ๆ ก็คือควรเช็คในเว็บ Transport For London (TFL) ก่อนที่จะเดินทาง เพราะบางทีอาจจะมีปัญหา หรือล้าช้า เราก็สามารถเลี่ยงได้ ในเว็บไซต์จะมีอัพเดทตลอดว่ามีเหตุการณ์อะไรที่เราควรรู้ก่อนเดินทางไหม เช่น วันไหนปิด สายไหนซ่อม สถานีไหนลงไม่ได้

สนใจเรียนต่อ UK ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยใน UK อย่างเป็นทางการประจำประเทศไทยกว่า 100 มหาวิทยาลัย บริการให้คำปรึกษาฟรีทุกขั้นตอน เพียงกรอกแบบฟอร์มด้านล่าง