Hands On Education Consultants

รีวิว University of York กับเหตุผลว่าทำไมถึงต้องเรียนคอร์ส MA TESOL โดย Pang

ถ้าจะให้เริ่มต้นแนะนำ ก็ต้องเกริ่นก่อนว่า เราชื่อเล่นว่า “แป้ง” ค่ะ ตอนนี้เรียนอยู่ที่ University of York สาขา MA TESOL ซึ่งย่อมาจาก Teaching English to Speakers of Other Languages ค่ะ เป็นหลักสูตรที่สอนทฤษฎีเกี่ยวกับการสอนภาษาอังกฤษ ว่าต้องสอนยังไงถึงจะมีประสิทธิภาพหรือมีทฤษฎีอะไรที่นำมาปรับปรุงใช้ในห้องเรียนได้ จะไม่เจาะลึกแกรมม่าสักเท่าไร ถ้าใครไม่ชอบแกรมม่าก็ถอนหายใจโล่งอกได้เลยค่ะ

(( บรรยากาศห้องเลคเชอร์ที่มหาวิทยาลัย ))

การเรียนของ University of York แบ่งเป็นสามเทอมค่ะ เทอมแรกกับเทอมที่สองจะเป็นการเรียนหลักสูตร เทอมละสามหลักสูตร ทั้งหมดรวมเป็นหนึ่งร้อยยี่สิบหน่วยกิต มีการเข้าฟังเลคเชอร์และการสัมมนาย่อย พูดว่าสัมมนาย่อยแล้วอาจจะฟังดูน่ากลัว แต่จริงๆ ก็คือการแบ่งกลุ่มย่อยกันเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับเลคเชอร์ในแต่ละสัปดาห์ ซึ่งบรรยากาศในห้องเรียนดีมาก ผู้สอนไม่เคยพูดว่าความเห็นนี้ไม่ดี ความเห็นนี้ใช้ไม่ได้ เขาให้ค่าความคิดของผู้เรียนทุกคนมากและช่วยนำเสนอมุมมองต่อยอด และในสัมมนาย่อยก็เป็นโอกาสดีที่เราจะได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ด้วยค่ะ ในรุ่นของเรา เพื่อนส่วนใหญ่จะมาจากประเทศจีน (เกือบๆ 99.99%) ในขณะเดียวกัน ผู้สอนส่วนใหญ่ก็เป็นคนยุโรปหรือคนเอเชีย ตอนแรกเราก็แปลกใจว่าทำไมถึงไม่มีคนอังกฤษ แต่พอมาคิดอีกที ก็นี่วิชา TESOL นี้นะ คนอังกฤษคงไม่เรียนวิชานี้สักเท่าไร

การที่ผู้สอนเป็นคนต่างชาติเหมือนกัน เราคิดว่าก็มีข้อดีนะ เขาจะค่อนข้างเข้าใจเรา เพราะเขาก็เคยผ่านประสบการณ์การเรียนที่เหมือนๆ กัน นอกจากนี้เขายังให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปรับตัวได้ด้วย

การวัดผลก็จะแล้วแต่รายวิชาค่ะ บางวิชาอาจจะเป็นการสอบข้อเขียน สอบข้อกา หรืออาจให้เขียนรายงานส่งโดยมีจำนวนคำขั้นต่ำกำหนด โดยช่วงกำหนดสอบจะอยู่ในสัปดาห์แรกของเทอมถัดไป เช่น วิชาที่เรียนเทอมหนึ่งจะสอบสัปดาห์แรกในเทอมสอง เปิดเทอมมาก็เจอแจ็กพ็อตเลย ถ้าใครจะวางแผนไปเที่ยวช่วงปิดเทอมต้องดูปฏิทินดี ๆ นะ เราเองก็เกือบแล้ว

 

 

โค้งสุดท้ายก่อนจบ

เทอมที่สามคือเทอมสุดท้าย เทอมนี้ไม่ค่อยมีเรียนแล้วค่ะ (แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีเลยหรอกนะ จะมีเข้าแล็บวิเคราะห์ข้อมูลกันบ้าง ตามงานกันบ้าง ใครที่กำลังจะจองตั๋วไปเที่ยวโปรดยั้งมือสักนิด) เทอมนี้ เราจะได้ทำ dissertation กัน ความยาวหนึ่งหมื่นสองพันคำบวกลบ คิดหน่วยกิตเป็นครึ่งหนึ่งของหลักสูตร ผ่านก็ได้ปริญญา ไม่ผ่านก็…เศร้า แค่ได้ยินก็ตื่นเต้นจนน้ำตาไหลพรากแล้วสินะคะ บางคนอ่านมาถึงตอนนี้ก็เริ่มกังวลแล้ว ใครจะไปเขียนได้ ยาวกว่าเรียงความวันไหว้ครูหกปีเอามาต่อกันอีก แถมเป็นภาษาอังกฤษล้วนทั้งฉบับ ไม่ต้องกังวล (มาก) หรอกค่ะ ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้อยู่ ๆ โยนระเบิดลูกใหญ่นี้ให้โดยไม่ทันตั้งตัว แต่เราจะได้รับการเตรียมใจตั้งแต่เทอมหนึ่งแล้ว ตั้งแต่วิชาที่เรียนไปจนถึงการนัดพบกับอาจารย์ที่ปรึกษา

อาจารย์ที่ปรึกษาจะเป็นคนช่วยแนะนำค่ะ ว่าเราจะทำ dissertation เรื่องไหนดี ควรหาข้อมูลอะไรเพิ่มเติม ช่วยตรวจร่างให้เราหนึ่งครั้ง นอกจากนี้ ถ้าปวดหัวปวดท้องหรือต้องลากิจนาน ๆ มีปัญหาอะไร ฉุกเฉินขึ้นมาไม่รู้จะหันไปพึ่งใครก็ให้หันไปหาอาจารย์ที่ปรึกษาได้ค่ะ อาจารย์เป็นทุกอย่างให้เราแล้ว ดังนั้นเวลาอาจารย์ที่ปรึกษานัดต้องไปนะคะ (เพราะถ้าไม่ไปอาจจะมีผลเกี่ยวกับวีซ่าด้วย… ก็ไหนว่าขอวีซ่ามาเรียนไง! ทำไมอาจารย์ที่ปรึกษาเรียกแล้วไม่มา! มาเรียนปลอม ๆ ใช่ไหม ฉันจะส่งเธอกลับบ้านเดี๋ยวนี้ล่ะ!)

นอกจากนี้ ทางมหาวิทยาลัยยังมีวิชาเรียน Academic Support ซึ่งไม่เก็บหน่วยกิต ไม่เก็บคะแนน แต่ผู้สอนจะช่วยสอนทักษะที่จำเป็นต่าง ๆ ในการทำ dissertation ให้เรา เช่น ควรเขียนโครงเรื่องยังไง ควรเขียนบรรณานุกรมยังไง งานเขียนแบบไหนถึงจะถูกใจคนตรวจ ถ้าใครเข้าเรียนแล้วยังรู้สึกไม่จุใจ ที่มหาวิทยาลัยก็มี Writing Centre ที่เราสามารถจองเวลาเพื่อไปขอรับคำปรึกษาได้ด้วยนะคะ หรือถ้าไม่เข้าใจบทเรียนหรือมีคำถามเพิ่มเติม ก็สามารถส่งอีเมลติดต่อผู้สอนได้เลยค่ะ

พอเขียน dissertation ผ่าน เราก็หลุดพ้นจากการเรียนแล้วค่ะ ไปเที่ยวได้อย่างสบายใจ ใครอยากทำกิจกรรมก็ทำ หรือจะไปทำงานพิเศษก็ได้ ในวีซ่านักเรียนของพวกเราจะอนุญาตให้ทำงานได้ยี่สิบชั่วโมงค่ะ

 

 

แล้วทำไมต้องเรียนที่นี่ล่ะ?

นอกจากที่ University of York แล้ว จริง ๆ อังกฤษก็ยังมีอีกหลายมหาวิทยาลัยที่มีหลักสูตรปริญญา TESOL ที่เราเลือกเรียนได้ค่ะ แต่ที่เราเลือกที่นี่เพราะคณะครุศาสตร์ของมหาวิทยาลัยถือว่าติดอันดับ 1 ใน 100 ของโลกค่ะ ส่วนอันดับของหลักสูตร MA TESOL ก็สูงไม่แพ้กัน นอกจากนี้ York ยังเป็นเมืองเล็ก ๆ ค่อนไปทางด้านเหนือ บรรยากาศสงบ สถาปัตยกรรมสวยงาม ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จะถูกกว่าเมืองใหญ่ค่ะ ตอนแรกเราก็ยังลังเลระหว่าง University of York กับมหาวิทยาลัยอีกแห่ง แต่สุดท้ายพอมาแล้ว เราก็ชอบที่นี่มากจริง ๆ ค่ะ ไม่ใช่แค่ในด้านหลักสูตร แต่เป็นจังหวะการดำเนินชีวิตในเมืองและทุก ๆ คนที่ได้เจอในมหาวิทยาลัยด้วย

(( บรรยากาศรอบ ๆ มหาวิทยาลัยค่ะ ที่นี่มีเป็ดอยู่เยอะมาก งานอดิเรกของเราคือการให้อาหารเป็ดซึ่งซื้อจากร้านค้าในมหาวิทยาลัยถุงละหนึ่งปอนด์ เป็ดพวกนี้ไวมาก แค่ฉีกถุงก็กรูกันมาเหมือนวิ่งมาทวงหนี้แล้ว น่ารักสุด ๆ ))

 

 

เพื่อน ๆ ที่สนใจมาเรียนต่อที่ University of York หรือกำลังวางแผนการเรียนต่อในสาขา TESOL อยู่ ลองมาปรึกษาพี่ Hands On ก่อนนะคะ พี่ ๆ เขาช่วยดูแลให้ทุกเรื่องทุกขั้นตอนเลยค่ะ