แนะนำตัวให้เรารู้จักหน่อยค่ะ

สวัสดีครับ ผมชื่อเล่นชื่อแชมป์นะครับ เรียนอยู่ที่ University of Hertfordshire คอร์ส MSc Management

ทำไมถึงตัดสินใจเลือกเรียนคอร์สนี้

ตอนป.ตรี ผมเรียน engineering มาครับ แล้วพอจบมาผมอยากต่อยอดด้านธุรกิจ ผมมองว่าด้าน management มีความสำคัญกับด้านธุรกิจ ก็เลยเลือกที่จะเรียนคอร์ส Management ครับ จริงๆ ตอนแรกก็อยากเรียนผสมกันกับที่ผมเรียนมานะครับอย่างพวก Engineering Management อะไรแบบนี้ แต่พอปรึกษากับคุณพ่อ คุณพ่อก็ให้คำแนะนำว่า ถ้าเราจะเรียนด้าน business แล้วจริงๆ ก็ควรเลือกเรียน management ไปเลย เพราะจริงๆ แล้ว Engineering Management หรือ Management เนี่ยก็คล้ายๆ กัน แต่คอร์ส Engineering Management ก็จะมีส่วนเพิ่มด้านวิศวกรรมเข้ามา ส่วน management เพียวๆ ก็จะได้เรียนอะไรที่กว้างกว่า ซึ่งคือผมอยากเรียนกว้างๆ เพื่อรู้ให้รอบด้านทั้งหมด เลยตัดสินใจเลือกเรียน management ครับ

ทำไมถึงเลือกเรียนต่อที่อังกฤษ

คือตอนมัธยมปลายผมเคยได้มาที่ประเทศอังกฤษครั้งนึงครับ ตอนนั้นมาที่เมือง Oxford เลยได้เห็นว่าที่ประเทศนี้มีความปลอดภัย สวยด้วยครับ แล้วเมื่อก่อนชอบดู Harry Potter มากๆ เลยคิดว่าถ้าได้อยู่อังกฤษคงดีนะครับ (ยิ้ม) เหมือนเราอินไปแล้วครับ ตั้งแต่ตอนเราอยู่ประถมหรือมัธยมต้นอินกับประเทศนี้ไปแล้ว

ทำไมถึงเลือกเรียนที่ University of Hertfordshire

คือต้องบอกก่อนเลยครับว่าผมไม่ชอบความวุ่นวาย แต่ในใจลึกๆ แล้วเนี่ย ยังชอบความเป็นเมืองอยู่ครับ แล้วที่ Hertfordshire นี่คืออยู่ใกล้ลอนดอนมากครับ ในบางทีเรารู้สึกว่าเรามาเรียนเราก็อยากได้ความสงบ แต่บางทีเราก็อยากออกไปเที่ยว อยากได้บรรยากาศแบบ city หรืออยากไป shopping หน่อย คือที่ Hertfordshire ตอบโจทย์มากครับ คือจากที่นี่นั่งรถไฟแค่ 25 นาทีก็ถึงใจกลางลอนดอนที่สถานี King’s Cross แล้วครับ

วันธรรมดาที่เราต้องเรียนก็อยู่ที่ Hertfordshire ไป วันไหนอยากเที่ยวก็แค่นั่งรถไฟเข้าลอนดอนครับ ผมก็เลยเลือกที่จะไปเรียนที่ University of Hertfordshire

สนใจเรียนต่อ University of Hertfordshire ปรึกษาพี่ๆ Hands On ฟรี คลิก

รู้จัก University of Hertfordshire ได้อย่างไร

ผมก็รู้จักจากงาน UK Study Exhibition ที่พี่ Hands On จัดนี่แหละครับ (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่องานเป็น Hands On Study Abroad Exhibition งานนิทรรศการศึกษาต่อต่างประเทศ จัดขึ้นปีละครั้ง ช่วงเดือน ตุลาคม – พฤศจิกายน ของทุกปี) คือก่อนที่จะเข้าไปในงานนี้ทางพี่ Hands On ก็จะลิสมาให้ผมว่ามีมหาวิทยาลัยไหนบ้างที่ตรงกับความต้องการของเรา ว่าเราอยากได้มหาวิทยาลัยประมาณไหน

คือตอนแรกก็มีรายชื่อมหาวิทยาลัยอยู่ในใจประมาณ 2-3 ชื่อนะครับ แต่อย่างมหาวิทยาลัยหนึ่งในลิสก็คือถ้าอยากเรียน management จะต้องเข้าไปเรียนที่แคมปัสที่ลอนดอนครับ ซึ่งผมค่อนข้างจะไม่ได้อยากอยู่ที่ลอนดอนโดยตรง ทีนี้พี่ Hands On ก็เลยบอกว่า มีมหาวิทยาลัยหนึ่งนะที่อยู่ใกล้ลอนดอนเลย แล้วก็ค่อนข้างจะสงบด้วย ซึ่งก็ทำให้ผมได้รู้จัก University of Hertfordshire เนี่ยแหะครับ

บริการจากพี่ๆ Hands On

ไม่รู้เป็นพรหมลิขิตหรือป่าวนะครับ (หัวเราะ) คือช่วงก่อนหน้านี้ที่เตรียมตัวจะเรียนต่อผมหาข้อมูลเยอะมากครับ ก็เลยเจอว่า จริงๆ แล้วการไปเรียนต่อต่างประเทศสมัครผ่านเอเจนซี่เนี่ยง่ายกว่า เพราะเค้าจะรวบรวมข้อมูลและเอกสารไว้ให้เรา ผมก็เลยเสิร์ชหาดู ก็มีหลายเอเจนซี่นะครับ แต่เหมือนกับว่าผมหาข้อมูลอยู่แล้วใน feed Facebook ก็ขึ้นมาเป็นของ Hands On โป๊ะเช๊ะมากครับ ผมก็เลยเลือกที่จะทักทาง Hands On ไปครับ ก็ได้พี่ Hands On ที่สาขาพระราม 2 ดูแลครับ

ผมเป็นคนขี้สงสัยครับ คืออะไรนิดอะไรหน่อยผมก็จะทักไปครับ พี่อ๊อตโต้ที่ดูแลผมเนี่ยดูแลดี ตอบทุกคำถาม ตั้งแต่ว่าคอร์สนี้เป็นยังไง คอยดู SoP คอยรวบรวมเอกสารให้ ก็เลยช่วยได้เยอะเลยครับ รวมถึงเรื่องวีซ่าด้วย อย่างตอนแรกพ่อกับน้องชายผมก็บินมาส่งอยู่ด้วยที่อังกฤษเดือนหนึ่ง ก็พี่อ๊อตโต้ก็คอยช่วยดูแลตลอด คือพี่อ๊อตโต้ใจดีมากจริงๆ ครับและมีเวลาให้เราตลอดเลย

รีวิว pre-sessional course

ผมเรียน pre-sessional course ด้วยนะครับ เป็นการเรียน 6 สัปดาห์ครับ จะมีการแบ่งกลุ่มไปตามคลาส แต่ละคลาสก็ไม่เกิน 15 คน ในกลุ่มก็จะมีเพื่อนหลากหลายชาติเลยครับ อย่างคลาสที่ผมเรียนก็จะมีทั้ง แม็กซิโก, ตุรกี, อินเดีย, ปากีสถาน, และจีน คือผมรู้สึกว่าคอร์สนี้มันได้อะไรมากกว่าที่ทุกคนคิดนะครับ

อย่างตอนแรกเลยผมคิดว่ามันจะต้องเป็นการเรียนที่เคร่งมาก เพราะเป็นการเตรียมความพร้อมเราก่อนเข้าเรียนปริญญาโทใช่ไหมครับ

แต่กลายเป็นว่าผมได้เพื่อนที่สนิทที่สุดมาจนถึงทุกวันนี้ก็จากคอร์สนี้เลยครับ ผมก็เลยรู้สึกว่าคอร์สนี้มันได้อะไรเยอะกว่าเนื้อหาการเรียน รวมถึงเนื้อหาที่เรียนก็ช่วยให้ผมเรียนในคอร์ส ป.โทได้ดีเลยครับ อย่างเช่นเรื่องการเขียน essay หรือ report ที่ทุกมหาวิทยาลัยในอังกฤษจะต้องมี บางที่ก็ต้องเขียนไม่เหมือนกัน ซึ่งคอร์สนี้ช่วยได้มากเลยครับ คอร์สนี้จะบอกว่าเราควรต้องเตรียมตัวอย่างไรก่อนที่จะเข้าไปเรียน ส่วนตัวคือผมเชียร์ให้ทุกคนมาเรียนคอร์สนี้มากครับคือได้ทั้งเพื่อนและได้ความรู้ด้วย

Management

สำหรับคอร์สเรียน Management ที่นี่วิชาที่ผมชอบที่สุดก็คือ Entrepreneurship & Enterprise ครับ ก็เป็นวิชาที่เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจ สิ่งที่มันเจ๋งที่สุดสำหรับวิชานี้ก็คือ การที่เราได้รวมกลุ่มกับเพื่อนต่างชาติแล้วคิด project ธุรกิจ ธุรกิจหนึ่งขึ้นมาสำหรับของกลุ่มเราเอง แล้วหาเงินเพื่อทำ charity ให้กับองค์กรใดองค์กรหนึ่งครับ ที่ชอบเพราะได้ทำงานจริงๆ กับเพื่อน เริ่มตั้งแต่การเขียน Business Plan ขึ้นมา จนถึงขั้นตอนลงมือปฏิบัติ ตรงนี้แอบเสียดายนิดหนึ่งตรงที่มีโควิดมาซะก่อน project เลยยังทำได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควรครับ

สนใจเรียนต่อ University of Hertfordshire ปรึกษาพี่ๆ Hands On ฟรี คลิก

บรรยากาศในห้องเรียนและการใช้ชีวิตที่ University of Hertfordshire

ในคลาสผม คนไม่เยอะมากนะครับ มีแค่ประมาณ 40 คนครับ ก็เลยทำให้ในคลาสเราค่อนข้างสนิทกันครับ เวลาไปทำกิจกรรมอะไรก็จะไปทำด้วยกัน เช่นกิจกรรมของมหาวิทยาลัยเอง ที่ University of Hertfordshire ก็จะมีการเล่นกีฬาที่ในแต่ละวันจะมีไม่ซ้ำกันครับ ส่วนตัวผมจะชอบไปเล่นแบดมินตันกับบาสเกตบอล ก็คือจะได้ทั้งเพื่อนๆ ที่อยู่ในคลาสเดียวกับเราและเพื่อนๆ ที่อยู่ในมหาวิทยาลัยเดียวกันครับ

ที่มหาวิทยาลัยก็จะคนเอเชียน้อยนะครับ อย่างตอนแรกที่ผมไปถึงมหาวิทยาลัยมีคนไทยทั้งหมดแค่ 5 คนเองครับ ส่วนคนเอเชียทั้งมหาวิทยาลัยตอนนั้นมีแค่ประมาณ 500 คนเองครับ คือรวมทุกเชื้อชาติโซนเอเชียแล้วนะครับ จากนักเรียนที่มหาวิทยาลัยทั้งหมดมีประมาณ 20,000 กว่าคน ก็ตอนแรกๆ อาจจะเหงานิดหน่อยตอนช่วงปรับตัวครับ หลังจากเราเริ่มคุ้นเคยและมีเพื่อนๆ ก็แฮปปี้มากครับ

รีวิวเมือง

ก็เมืองนี้ใช่อย่างที่ผมคิดไว้เลยครับ เป็นเมืองเล็กๆ เล็กมากครับ คือถ้าเรามีเวลา 1 วัน ผมว่าเราเดินได้ทั่วเมืองเลยครับ แล้วก็ใกล้ๆ มหาวิทยาลัยมี outlet อยู่ที่หนึ่งครับ ส่วนถ้าเป็นของใช้ปกติก็มีซุปเปอร์มาร์เก็ต 2 ที่ครับ เป็นที่เล็กกับใหญ่ มี Lidl กับ ASDA ก็สะดวกสบายมากครับ อย่างตอนที่มีช่วงโควิดก็ไม่ต้องกักตุนของอะไรมากนะครับเพราะที่ซุปเปอร์มีของเพียงพอครับ

โดยรวมคือเมืองนี้มีทุกอย่างครบนะครับ แล้วก็ปลอดภัยมากครับ ไปไหนมาไหนก็เดินทางง่าย อย่างในตัวเมืองเองก็เดินเท้าได้ถึงทุกที่เลยครับ

รีวิวชีวิตนักเรียนอังกฤษ (ก่อนมีโควิด)

ผมเรียน pre-sessional ด้วยครับ ก็คือมาอังกฤษตั้งแต่พฤศจิกายนปี 2019 แล้วครับ โควิดระบาดหนักก็ช่วงกุมภาพันธ์ 2020 ผมก็กลับไทยมาตอนมีนาคม 2020 ครับ

ช่วงก่อนมีโควิดคือชีวิตดีครับ ช่วงไหนมีการบ้านก็จะรีบทำตั้งแต่แรกๆ ครับ ช่วงมกราคม เป็นช่วงหน้าหนาวผมก็อยากจะไปเที่ยว เมืองผมอยู่ใกล้สนามบิน Luton ด้วยครับ เดินทางไปแค่ 20 นาที ผมก็เลยไปสก็อตแลนด์ ช่วงนั้นก็คือชีวิตดีมากครับ ได้ไปเที่ยวนอกจากอังกฤษที่อยู่ใน UK นะครับ แล้วก็ทุกอาทิตย์ก็จะไปลอนดอน ไปกินข้าว ช้อปปิ้ง เดินเล่นตามประสาครับ การอยู่อังกฤษก็ไม่ได้น่าเบื่อหรือไม่ได้น่ากลัวอะไรขนาดนั้นครับ

แต่พอมาช่วงมีโควิดช่วงเดือนกุมภาพันธ์ มหาวิทยาลัยผมก็มีการปรับตัวหลายอย่าง มีการจัดแอลกอฮอล์เจลให้ทุกที่เลยแล้วก็มีหน้ากากอนามัยแจกให้ครับ บังเอิญช่วงนั้นเป็น reading week ครับ มหาวิทยาลัยก็มีการปรับตัวเปลี่ยนทุกอย่างให้เป็นออนไลน์ได้ภายในหนึ่งสัปดาห์นั้นครับ คือเป็น online class ก่อนที่สถานการณ์ทุกอย่างจะแย่ลงครับ หลังจากนั้นทุกคนก็เริ่ม panic ตอนนั้นตัวผมเองก็แอบกังวลด้วย เพราะเราไม่รู้ว่าโรคนี้มันติดต่อยังไง แล้วจะรักษาอย่างไร ก็เลยตัดสินใจกลับเมืองไทยครับ ซึ่งตอนนั้นที่สนามบินคนจีน  panic กว่าเราเยอะครับ มีใส่เป็นชุดป้องกันโรคเข้าสนามบินเลย

รีวิวการเรียน online ที่ University of Hertfordshire

ก็ที่มหาวิทยาลัยผมจะมีการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์นะครับ อย่างบางวิชาที่อาจารย์กลัวว่านักศึกษาจะไม่เข้าใจก็จะมีการทำ power point ไว้ให้พร้อมเสียงอธิบายประกอบไว้ให้ทุกๆ หน้า หรือประโยคไหนสำคัญๆ อาจารย์ก็จะไฮไลท์ไว้ให้เลยครับ อาจารย์บางท่านก็จะใช้ zoom ในการสอนครับ แล้วก็ของผมมีการสอบตอนสิ้นเทอมด้วยครับ ก็ต้องสอบผ่านระบบ online เหมือนกัน ถือว่าเป็นอะไรใหม่ๆ ที่ต้องเรียนรู้แล้วก็ผ่านมาได้ด้วยดีครับ

ส่วนการเรียนออนไลน์สำหรับผมแล้ว ผมว่าค่อนข้างดีเลยนะครับ อย่างถ้าตรงไหนที่เราไม่เข้าใจ เราก็สามารถเปิดย้อนกลับมาทบทวนใหม่ได้ เพราะอย่างที่มหาวิทยาลัยผมทุกครั้งที่เป็นการสอนผ่านระบบออนไลน์ก็จะมีการบันทึกการสอนเอาไว้ใน application การเรียนของที่มหาวิทยาลัยครับ

คือมหาวิทยาลัยก็ปรับตัวกับสถานการณ์ได้ไวมากจริงๆ ครับแค่ 1 อาทิตย์เองครับ

ตัดสินใจบินกลับไปเรียนที่อังกฤษ

คือตอนนั้นที่ตัดสินใจ ก็ทางมหาวิทยาลัยเค้าก็มีประกาศว่าจะเป็นการเรียนแบบผสมครับ คือครึ่งหนึ่งเป็น online ครึ่งหนึ่งเป็น face-to-face ครับ ตอนนั้นก็คิดว่าถ้าเราอยู่เมืองไทยไปมันก็ไม่ได้อะไรเท่าไหร่ คือเรากลับมาเรียนที่นี่ดีกว่า อย่างน้อยเราก็ได้ใช้ชีวิตที่นี่ ได้ใช้ภาษา ถึงแม้ว่ามันจะเหลือแค่ครึ่งเดียวก็ตามก็ยังได้ใช้ภาษา หรือบางทีเราก็ได้เข้าไปในเมืองบ้าง

อย่างตอนที่ตัดสินใจกลับมาตอนนั้นมาคนเดียวเลยครับ ยังไม่ค่อยมีคนกลับมาเรียนกัน ก็บิน economy class ของการบินไทยมา ก็ที่นั่งเหลือเต็มเลยครับ พอมาถึงที่นี่ก็เรียนไปสักเดือนหนึ่ง ก็ทุกอย่างก็เริ่มปกตินะครับมีการปรับตัว อย่างเช่นใน 1 สัปดาห์เราก็จะได้เข้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัยสัก 1 วัน อีกสองวันเรียน online อย่างนี้ครับ

สักพักหนึ่งสถานการณ์โควิดแย่ลงมากครับ ทางมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ก็ปรับทุกอย่างกลับมาเป็น online class หมดเลยครับ ซึ่งอันนี้ผมว่าก็ดีนะครับเป็นการเซฟเรื่องความปลอดภัย สุขภาพของนักศึกษาไว้ก่อน ทางบ้านก็ไม่ต้องห่วงเรามาก ก็ส่วนใหญ่ก็อยู่ในห้อง หรืออาจจะไปซื้อของบ้างถ้าจำเป็น แต่ตอนนี้ทุกอย่างดีขึ้นมากแล้วครับ อะไรต่างๆ ก็เริ่มกลับมาเป็นปกติ ร้านค้าร้านอาหาร และมหาวิทยาลัยก็มีการปรับตัวตามมาตรการผ่อนคลายล็อคดาวน์ของทางรัฐบาลเป็นอย่างดีครับ

ฝากถึงน้องๆ ที่สนใจเรียนต่อต่างประเทศ

ก็น้องๆ คนไหนที่สนใจมาเรียนที่อังกฤษ พี่ก็แนะนำว่าให้มาเรียนดีกว่าครับ มันได้ทั้งประสบการณ์การใช้ชีวิต ประสบการณ์การเรียน และได้เพื่อนใหม่ๆ ถ้าน้องๆ คนไหนสนใจ University of Hertfordshire ก็อยากแนะนำให้มากันนะครับ เมืองนี้ปลอดภัยและอยู่ใกล้ลอนดอนมากเลยครับ เผื่อน้องๆ คนไหนสนใจแบบ อยากใช้ชีวิตเรียนก็ได้เรียน อยากเที่ยวก็ได้เที่ยว ก็แนะนำที่ University of Hertfordshire นะครับ (ยิ้ม)

สนใจเรียนต่อ University of Hertfordshire ปรึกษาพี่ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทยฟรี เพียงกรอกแบบฟอร์มด้านล่าง หรือ คลิก