Hands On Education Consultants

รีวิว Marketing Management ที่ University of Surrey

“ปกติแล้วเวลาเพลินอยู่ที่ทำงานเพลินก็จะรู้แค่เบื้องต้น เรียนรู้ไปตามขั้นตอนของที่ทำงานว่าทำไมเราถึงทำการตลาดแบบนี้แบบนั้น แต่พอมาเรียน Marketing Management ที่นี่ มันก็ทำให้เราได้เจาะลึก เรียนรู้ทฤษฏีต่างๆ เข้าใจพื้นฐานของการทำการตลาด และสามารถนำไปปรับใช้ ต่อยอดในการทำงานในอนาคตเราได้ค่ะ” Plearn, MSc Marketing management

แนะนำตัวให้เรารู้จักหน่อยค่ะ

ชื่อเพลินค่ะ เรียนคอร์ส MSc Marketing management อยู่ที่ University of Surrey ค่ะ

การเตรียมตัว

ทำไมถึงเลือกเรียนคอร์สนี้

เพลินจบปริญญาตรีคณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ค่ะ  คือไม่เกี่ยวกับ marketing เลย แล้วหลังจากนั้นเพลินได้ไปทำงานเป็น Retail marketing officer ที่ Central ก็เลยรู้สึกว่าการตลาดมันมีความสำคัญต่อทุกๆ สายงาน ทุกธุรกิจไม่ว่าอะไรก็ตาม อย่างเช่นเวลาทำการตลาดกับบริษัท มันก็จะมีพวกโปรโมชั่น พวก offer ต่างๆ ให้ลูกค้า ปกติแล้วเวลาเพลินอยู่ที่ทำงานเพลินก็จะรู้แค่เบื้องต้น เรียนรู้ไปตามขั้นตอนของที่ทำงานค่ะ ซึ่งคิดว่าถ้าเราได้เรียนรู้เพิ่มเติมก็จะต่อยอดในอนาคตได้ค่ะ แล้วตอนทำงานก็รู้สึกว่ามันน่าสนใจ เลยอยากมาเรียนทฤษฎี เรียนพื้นฐานทางด้านนี้เพิ่มค่ะ เพื่อนำไปปรับใช้ได้

ก่อนหน้านี้มีสนใจ Retail marketing เหมือนกันค่ะแต่พอมาศึกษาวิชาที่จะเรียนก็รู้สึกว่าบางอันมันเฉพาะทางเกินไป กลัวว่าจะเอาไปต่อยอดงานในอนาคตหลังจากเรียนจบไม่ได้ ก็เลยมาลงตัวที่คอร์ส Marketing Management นี้ค่ะ

คอร์ส Marketing เนี่ยมีทุกมหาวิทยาลัยเลย แล้วทำไมถึงต้องเลือกมาเรียนที่ University of Surrey

เพลินก็ค่อนข้างหาข้อมูลมาเยอะเหมือนกัน แล้ว Surrey ก็เป็นที่รู้จักในระดับนึงก็เลยมาลองดู module คอร์ส Marketing ของที่นี่ว่าเป็นยังไง เรียนอะไรบ้าง แล้วก็สนใจเพราะเป็น Marketing management พอยิ่งอ่าน module แล้วก็ยิ่งสนใจในหลายๆ วิชา ตอนแรกก็มีให้เลือกเป็น placement คือเรียนไป 2 เทอมแล้ว 6 เดือนหลังก็ฝึกงานกับบริษัท หรือจะทำเป็น dissertation ก็ได้ ก็เลยรู้สึกสนใจตรงนี้ว่าถ้าเรามีโอกาสที่เลือกไม่ทำ dissertation ตอนจบแล้วไปฝึกงานแทน เราก็จะได้ความรู้ ได้ประสบการณ์เพิ่มเติมค่ะ แล้วอีกอย่างคือมหาวิทยาลัยก็อยู่ไม่ไกลจากลอนดอนมาก ก็สะดวกค่ะ

การบริการจาก Hands On

มีเพื่อนเคยใช้บริการที่ Hands On แล้วบอกว่าดี คอยช่วย follow up อัพเดทให้ทุกอย่างก็เลยลองมาติดต่อดูค่ะ เพราะตอนนั้นมันเป็นช่วงเปลี่ยนเอเจนซี คือเคยใช้ที่อื่นมาแล้วรู้สึกว่าไม่โอเค ก็เลยพยายามหาเอเจนซีใหม่ค่ะ ตอนนั้นเครียดมาก มันเป็นเวลาที่กระชั้นชิด รวมถึงเอกสารต่างๆ ที่ต้องจัดการด้วย

ก็เลยติดต่อ Hands On ตามเพื่อนเลยค่ะ มาเจอพี่ตูนที่สาขาสีลม พี่ตูนก็ชิวมาก บอกให้เราส่งเอกสารมาเลยแล้วรีบทำให้ คือเค้าก็ทำให้เราสบายใจ เหมือนมีพี่ดูแลค่ะ (ยิ้ม)

อย่างเพลินก็จะหาข้อมูลเบื้องต้นมาในระดับนึงแล้วมาถามพี่ตูนอีกที เช็คเรื่องความถูกต้อง รวมถึง timeline ต่างๆ ในการสมัครของเราด้วยค่ะ อย่างเอกสารบางอย่างมีต้องเร่งทางมหาวิทยาลัย ก็ได้พี่ตูนคอยช่วยตาม ช่วย follow up กับทางมหาวิทยาลัยให้ และอัพเดทให้ว่าตอนนี้อยู่ขั้นตอนไหนแล้ว ที่สำคัญคือไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรเลย

อย่างประสบการณ์ที่เราเจอมาคือ มีปัญหาเรื่อง Hold offer จากทางมหาวิทยาลัย ซึ่งตอนนั้นมีอีกที่นึงที่เราปรึกษา แล้วเหมือนข้อมูลต่างๆ เค้าไม่อัพเดท กลายเป็นว่าเราต้องจ่ายเงินเพื่อ hold offer ซึ่งพอมาปรึกษาเพื่อนที่ติดต่อกับทาง Hands On เพื่อนก็ hold offer เหมือนกันแต่ว่าไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรเลย ก็เลยรู้ว่ามันไม่โอเคเพราะมันมาถึงขั้นตอนที่เริ่มจะมีการจ่ายเงินอะไรแบบนี้แล้ว

สนใจเรียนต่อ University of Surrey ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเรียนต่อและคำปรึกษาฟรี คลิก

University of Surrey

พอมาถึงที่ Surrey แล้ว บรรยากาศมหาวิทยาลัยเป็นยังไงบ้าง

บรรยากาศดีนะคะ รู้สึกว่า facilities ทุกอย่างก็ใหม่ดี ห้องเรียนก็มีหลากหลาย ทำให้เราสามารถเปลี่ยนบรรยากาศในการเรียนไปเรื่อยๆ เพราะเค้าก็จะเปลี่ยนตึกไปเรื่อยๆ ค่ะ อาจารย์ก็ช่วยเหลือดี เวลามีอะไรก็สามารถส่งอีเมลไปถามได้เลย เพื่อนๆ ในห้องก็ดีค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนเอเชีย คนจีนก็จะเยอะ ยุโรปก็มีส่วนนึงค่ะ

University of Surrey หนึ่งใน 20 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในสหราชอาณาจักร จาก The Complete University Guide

Marketing Management

ตอนแรกไม่ได้คาดหวังอะไรไว้มากเท่าไหร่ เพราะจากที่อ่านรายละเอียดใน module ไว้มันก็เป็นแค่ details เรายังไม่ได้มาลองเรียนจริงๆ ก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไง แต่ว่าพอมาเรียนจริงๆ ก็ได้ความรู้เยอะค่ะ อย่างตอนเรียนอาจารย์ก็จะอัพโหลด PowerPoint ไว้ให้ในเวปไซต์ที่ชื่อว่า SurreyLearn นักเรียนทุกคนก็จะสามารถเข้าไปดึงข้อมูลต่างๆ ได้ ก็รู้สึกว่าข้อมูลแน่น เนื้อหาเยอะดี แต่เวลาเรียนจริงอาจารย์ก็ค่อนข้างจะสอนเร็วนิดนึง ด้วยความที่เป็นปริญญาโทเค้าก็จะไม่มานั่งอธิบายว่าอันนี้คืออันโน้น อันโน้นคืออันนั้น อะไรอย่างงี้ค่ะ ตอนแรกก็รู้สึกว่ามันดูไม่ค่อยได้อะไรเยอะเท่าไหร่เลย แต่พอก่อนสอบเรามานั่งอ่านทบทวนก็รู้สึกว่าเราก็ได้ความรู้เยอะเหมือนกันเนอะ ส่วนวิชาที่เรียนก็ค่อนข้างหลากหลายค่ะ

ชอบวิชาอะไรสุดตั้งแต่เรียนมา

ชอบ Marketing ค่ะ ด้านพวก Strategy กับ Communication ค่ะ อย่าง Strategy เนี่ย สำหรับประสบการณ์ที่เพลินทำงานมาก็รู้สึกว่าเราได้รู้เยอะขึ้น ได้รู้ว่าก่อนจะออกโปรโมชั่นมันมีกลยุทธ์อะไรบ้างที่จะดึงดูดลูกค้า หรือควรใช้กับลูกค้าแบบไหนค่ะ เหมือนได้ย้อนกลับไปแล้วได้รู้เชิงลึกมากขึ้น

ส่วน Communication ก็ชอบที่เราได้เรียนรู้ช่องทางการโปรโมทของบริษัทว่ามีช่องทางไหนบ้าง Online/Offline

สไตล์การเรียนการสอน

ส่วนใหญ่จะเป็น lecture ค่ะ แล้วก็จะมีแยกออกมาเป็นชั่วโมงนึงเป็น tutorial แล้วงานที่อาจารย์สั่งเค้าก็จะเอาไปใส่ใน SurreyLearn อยู่แล้ว ก็จะมีบอกตั้งแต่ต้นเทอมเลยค่ะว่าวิชาไหนจะเป็น project ให้ทำงานกลุ่ม ส่วนกลุ่มก็จะให้จับกันเอง ก็สามารถไปลงชื่อไว้ใน SurreyLearn ได้เลย คือทุกอย่างมีพร้อมหมดแล้วค่ะ นอกจากเวลาเรามีปัญหาหรือสงสัยอะไรก็สามารถถามอาจารย์ในห้องเรียน หรือนอกห้องเรียนก็ได้ค่ะ

Work placement

work placement เหมือนกับการฝึกงานค่ะ

MSc Marketing management ที่เพลินเรียนเนี่ย เปิด placement ปีนี้เป็นปีแรก

มหาวิทยาลัยก็จะช่วยเหมือนเป็น provider ให้แหล่งข้อมูล ให้เวปไซต์เรามา ส่วนขั้นตอนหลังหลังจากนั้นคือเราต้องไปติดต่อบริษัทเองซึ่งขั้นตอนนี้ไม่ได้มีปัญหาเลยค่ะ แต่ว่าทุกๆ บริษัทต้องการนักเรียนที่สามารถทำงานได้ประมาณ 1 ปี และอยากได้เป็นนักศึกษาป.ตรี ประมาณปี 3 ที่ฝึกงานเสร็จแล้วก็จะกลับมาเรียนต่อให้จบ ก็เลยจะเป็นปัญหาสำหรับเด็กป.โทว่าเรามีระยะเวลาการฝึกงานมากสุดแค่ 6 เดือน บวกกับต้องแข่งขันกับเด็กยุโรปด้วยในการฝึกงาน ตรงนี้ก็อยากฝากถึงน้องๆ ที่สนใจทำ work placement ว่าเราอาจจะต้องเตรียมพร้อมให้มากๆ ค่ะ

สนใจเรียนต่อ University of Surrey ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเรียนต่อและคำปรึกษาฟรี คลิก

 

กิจกรรมนอกห้องเรียน

Course representative

เพลินมีไปสมัครเป็น Course representative ของ Marketing ค่ะ ทุกเดือนหรือสามเดือนก็จะได้เข้าไปประชุมกับเพื่อนๆ ที่เรียนปริญญาโทเหมือนกัน แล้วก็ประชุมกับ Board of Study ว่าในวิชาที่เราเรียนหรือในคณะของเรามีอะไรขาดหรือเกินมั้ย มีอะไรที่ต้องปรับปรุงหรือพัฒนามั้ย เพื่อที่ทางมหาวิทยาลัยจะได้เอาไปพัฒนาต่อไปกับรุ่นอื่นๆ หรือถ้าอะไรที่สามารถปรับได้เลยก็จะปรับให้เลยค่ะ

ซึ่งเพื่อนๆ ในห้องส่วนมากทุกคนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรที่เป็นประเด็นใหญ่มากค่ะ แต่ช่วงแรกๆ ก็จะมีปัญหาเวลาไปเรียนแล้วห้องค่อนข้างเล็กเพราะจำนวนนักเรียนเยอะค่ะ ทำให้ที่นั่งติดกันบ้าง ที่นั่งไม่พอบ้าง ประมาณนี้ค่ะ

สามัคคีเกมส์

สามัคคีเกมส์เค้าจะมี 2 งานค่ะ จะมีเป็นคอนเสิร์ตกับลงแข่งกีฬา อันที่เป็นแข่งกีฬาจะไม่ได้ไปเพราะงานเยอะด้วย แล้วก็ไม่ได้เล่นกีฬาอะไรจริงจังเท่าไหร่ค่ะ

แต่ไปอันที่เป็นคอนเสิร์ตค่ะ ก็เหมือนไปเจอเพื่อนค่ะ เพราะเพื่อนที่ไทยก็แยกย้ายกันไปเรียนหลายมหาวิทยาลัยค่ะ ก็สนุกดีค่ะ

 

เมือง Surrey

จากที่เพลินอยู่กรุงเทพมาก็รู้สึกว่าเมืองนี้เล็ก แต่ไม่ใช่ว่าเล็กแล้วไม่ดีนะคะ เล็กแล้วสงบค่ะ อาจจะเงียบเหงาไปนิดนึง แต่คนปกติไม่น่าเหงาเพราะว่าเพลินชอบอยู่กับคนเยอะๆ ก็เลยรู้สึกว่ามันเงียบ ขนาดมากับเพื่อนแล้วอยู่ห้องเดียวกับเพื่อน ถ้าตัดความเหงาในเรื่องส่วนตัวออกไปก็รู้สึกว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่ดีค่ะ ไม่มีความน่ากลัว ไม่ต้องคอยระวังกระเป๋า แล้วคนก็น่ารักค่ะ ไม่เหยียด เฟรนลี่ค่ะ

หอพัก

เพลินอยู่หอในค่ะ คือจะเป็นหอ type Family flat มี 2 ห้องนอนแล้วก็แชร์ห้องน้ำกับห้องครัวด้วยกัน เหมือนอยู่ในคอนโดค่ะ

นักเรียนไทยใน Surrey

เยอะพอสมควรค่ะ ประมาณ 50-60 คนค่ะ ซึ่งไม่คิดว่าน่าจะเยอะเท่ากับมหาวิทยาลัยอื่น เราสนิทกันนะคะ มีอะไรก็ช่วยเหลือกันดี จริงๆ เราจะเริ่มรู้จักเพื่อนๆ ตั้งแต่เรียน Pre-sessional ค่ะ

งานพิเศษ

เพลินจะทำร้านอาหารไทยในเมืองทุกวันศุกร์กับเสาร์ค่ะ ใส่ชุดไทย แบ่งเป็นชุดหน้าร้อนกับหน้าหนาวค่ะ ด้วยความที่ชุดมันไม่ได้ยืดค่ะ เวลาเสิร์ฟก็จะเก้ๆ กังๆ นิดนึงค่ะ (หัวเราะ) อย่างร้านที่เพลินทำก็จะไม่ได้เสิร์ฟเพียงอย่างเดียว คือเราจะต้องทำตั้งแต่รับลูกค้าเข้าร้าน ส่งลูกค้าเข้าโต๊ะ ปูผ้าให้ รับออเดอร์ เอาออเดอร์ไปส่งที่ครัว เสิร์ฟ เก็บผ้า รับเมนูขนม คิดเงินด้วยค่ะ สนุกดีค่ะ ได้อะไรเยอะดี

มีอะไรอยากเล่าให้น้องๆ ที่สนใจมาเรียนต่อที่อังกฤษฟังอีกมั้ย

เพลินว่าการเตรียมตัวที่สำคัญที่สุดคือการที่เราศึกษาข้อมูลมหาวิทยาลัยและคอร์สเรียนนั้นมา เพราะมันเป็นสิ่งที่เราจะต้องอยู่กับมันไปอีกเป็นปีค่ะ คือถ้าเราเลือกถูกให้มันตรงกับเรา เราก็จะมีความสุข อย่างเช่นเพลินก็รู้สึกว่าโอเคที่เลือกมหาวิทยาลัยนี้ แต่ว่าเราต้องดูตัวเราด้วยว่าเราเป็นคนชอบแบบไหน ชอบอยู่เมืองใหญ่มั้ย แต่ที่สำคัญกว่าเรื่องนั้นคือเรื่องคอร์สเรียน เพราะว่าอย่างบางคนก็อาจจะเลือกคอร์สโดยยังไม่ได้อ่าน module ว่าจะต้องเรียนอะไรบ้าง มี requirement อะไรบ้าง อย่างเพื่อนเพลินบางคนที่มาเรียนก็มีปัญหาว่าไม่เคยรู้เลยว่าเค้าเรียนแบบนี้ แล้วก็ควรเตรียมใจมานิดนึงเกี่ยวกับการที่เราจะต้องก้าวออกมาจาก comfort zone ของตัวเอง เพราะว่าบางทีมาคนเดียว บางมหาวิทยาลัยอาจารย์ก็จะจับกลุ่มให้เลย เราก็อาจจะต้องทำงานกับเพื่อนหลากหลายชาติ เราก็ต้องคอยปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนแต่ละชาติให้ได้ แล้วก็อยากให้คิดบวก เพราะมาที่นี่เราต้องใช้ชีวิตด้วยตัวเอง ดูแลตัวเองทุกอย่าง ถ้าเจอปัญหาอะไรก็ให้มองแง่บวกเข้าไว้ เราก็จะได้รู้สึกมีความสุขกับเวลาที่นี่ของเรา ไม่ต้องมาเสียเวลาเปล่ากับการมานั่งโศกเศร้า เพราะคิดว่าคนที่มาเรียนที่นี่ก็ต้องปรับตัวเยอะค่ะ แล้วบางคนก็อาจจะท้อ เซ็ง รวมถึงเรียนที่หนักด้วยค่ะ

 

สนใจเรียนต่อ University of Surrey ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเรียนต่อและคำปรึกษาจากพี่ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทย ฟรี คลิก