Hands On Education Consultants

เรียนต่อปริญญาโทสาขา Food Science ที่ University of Leeds

สวัสดีค่ะทุกคน ปุ๋มเองนะคะ ตอนนี้ก็อยู่อังกฤษมาได้ 3 เดือนแล้ว เลยอยากมาเล่าถึงคอร์สปริญญาโท ที่ตัวเองเรียนอยู่ให้ฟังค่ะ ตอนนี้เราเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยลีดส์ ในสาขา Food Science and Nutrition เรามักจะคุ้นชื่อมหาวิทยาลีดส์ว่ามาคู่กับการเรียนด้านธุรกิจ แต่ที่หลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้ก็คือสายวิทยาศาสตร์ อาหาร (Food Science) ของลีดส์นั้นก็ครองแรงค์อยู่ในระดับท๊อปๆ ของประเทศอังกฤษเหมือนกัน

 

การเรียน Food Science ที่ลีดส์ จะอยู่ใน School of Food Science and Nutrition ค่ะ ซึ่งหลักสูตรปริญญาโทก็จะมีสาขาย่อยแตกไปให้เลือกมากมาย เช่น  MSc Food Science, MSc Nutrition และ MSc Food Innovation เป็นต้น แต่ละสาขาก็จะมุ่งเน้นไปที่อาหารในด้านต่าง ๆ กัน อย่างสาขา Nutrition ก็จะโฟกัสไปที่คุณค่าทางโภชนาการกับสุขภาพ หรือ Food Innovation ก็จะเน้นไปที่การศึกษาแนวทางพัฒนา ผลิตภัณฑ์อาหารใหม่ ๆ ส่วนตัวเรานั้นอยู่ในสาขา Food Science and Nutrition ก็จะเป็นการมองอาหาร ทั้งในด้านวิทยาศาสตร์และแง่มุมสุขภาพรวมกันค่ะ เรียกได้ว่าทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับอาหารมีเปิดสอนที่นี่ หมดเลย (ยกเว้นสอนทำอาหาร 555)

 

หน้าตาของ School of Food Science ก็จะเป็นอาคารหลังน้อยหน้าตาน่ารักแบบนี้ค่ะ เห็นภายนอกดูเรียบ ๆ แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยเครื่องจักรในอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร และห้องปฏิบัติการมากมาย แถมยังเป็นที่สุมหัวของนักเรียนและบุคลากร Food Science หลายร้อยชีวิตอีกด้วย

ใครที่เดินผ่านแวปแรกอาจจะตกใจ เพราะตึกอะไรมีปล่องไฟปล่อยควันออกมาตลอดเวลา (จากเครื่องจักรแปรรูปอาหารในห้องปฏิบัติการณ์นั่นเอง) แต่ความจริงแล้วบรรยากาศข้างในอบอุ่นที่เดียวค่ะ เรามีมุมโซฟาพักผ่อน มีห้องนั่งเล่น (Common Room) ที่มีไมโครเวฟสำหรับอุ่นข้าวกล่องเวลา ห่อข้าวกลางวันไปกิน และมีล็อกเกอร์สำหรับเก็บของ ทำให้แม้เวลาเรียนอาจจะต้องมีแวะเวียนไปตึกอื่น แต่สุดท้ายเด็กฟู้ดก็มักจะมารวมตัวกันที่ตึกนี้เพื่อเก็บของและทานมื้อกลางวันค่ะ

ส่วนการเรียนที่นี่นั้น หลักสูตรปริญญาโทใช้จะเวลา 1 ปี แบ่งเป็นเทอม 1 เทอม 2 และช่วง Summer สำหรับทำ Research Project ค่ะ อยู่ที่นี่เราเรียนกันอาทิตย์ละ 3 – 5 วัน แล้วแต่ตารางเรียนที่จะจัดไม่เหมือนกันในแต่ละอาทิตย์ การเรียนก็จะมีทั้งคลาสเรียนเลคเชอร์ เรียนทำแลป ซึ่งก็จะแบ่งย่อยเป็นแลปเคมี (Food Analytical Lab) และแลปเกี่ยวกับการผลิตอาหาร (Food Technical Lab ) ทั้งนี้ทั้งนั้นจะเน้นเรียนแบบไหนก็จะขึ้นอยู่กับแต่ละหลักสูตรค่ะ

 

มาพูดถึงการเรียนเลกเชอร์กันก่อน เนื่องจากตึกของคณะเราเป็นเพียงตึกเล็ก ๆ ที่เน้นห้องปฏิบัติการ เพราะงั้นคลาสเรียนเลคเชอร์ก็จะต้องไปเรียนกันที่อาคารเรียนรวมค่ะ เป็นห้อง lecture theater ใหญ่ ๆ ที่จุนักเรียนได้หลายร้อยคน เพราะจะมีบางวิชาที่เราต้องเรียนร่วมกับเด็กปริญญาตรี หรือเด็กฟู้ดภาคอื่่น ๆ ค่ะ ตัวอย่างวิชาเรียนรวมกันก็เช่น Food Processing และ Food Safety ที่ถือว่าเป็นวิชาแกนหลักของสาขาเราเลย

คลาสเลคเชอร์ที่นี่นั้นส่วนใหญ่จะกินเวลา 1- 2 ชั่วโมง ทุกวิชาจะมีการบันทึกวิดีโอแล้วอัพโหลดลงระบบเพื่อให้นักศึกษาสามารถดูย้อนหลังได้ ถือเป็นการซัพพอร์ทที่ดีมาก ๆ  และเนื่องจากเป็นปริญญาโท ทำให้ต้องไปศึกษานอกเวลาเพิ่มเติมเองเยอะมาก แต่อาจารย์ก็มักจะมีชื่อหนังสือหรือบทความที่น่าสนใจมาคอยไกด์ให้ค่ะ วิชาที่เรียนบางวิชาก็จะมีแค่เทอมเดียว บางวิชาก็เรียนยาวทั้งสองเทอม ส่วนรูปแบบการเก็บคะแนนและการสอบก็จะแตกต่างกันไปค่ะ

 

ขยับมาดูวิชาปฏิบัติการหรือแลปกันบ้าง สำหรับภาคเรานั้นในเทอมแรกมีแลป 2 วิชาค่ะ คือแลปเกี่ยวกับโครงสร้างอาหาร (Food Structure) และแลปเกี่ยวกับการผลิตอาหาร (Food Processing)

เราประทับใจรูปแบบการสอนของที่นี่มาก เพราะเค้าจะแบ่งพวกเราออกเป็นกลุ่มเล็ก ๆ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงอุปกรณ์ได้อย่างเต็มที่ และมีบุคลากรอาจารย์เพียงต่อนักศึกษาทุกคน โดยจะแบ่งออกเป็นรอบ ๆ อาทิตย์ไหนถึงรอบของตัวเองก็ค่อยเข้าไปเรียน

 

ตัวอย่างเช่น วิชา Food Processing ที่เรียนเกี่ยวกับการแปรรูปอาหาร เช่น หลักการให้ความร้อน หรือ การฆ่าเชื้ออาหารกระป๋อง เป็นความทึ่งของเรามากที่เขาสามารถแบ่งแลปออกเป็นกลุ่มย่อยได้ถึง 20 กลุ่ม เพื่อให้ทุกคนได้ลองใช้เครื่องมือนั้นจริง ๆ  (นั่นแปลว่าอาจารย์จะต้องฉายหนังซ้ำถึง 20 รอบ ในแต่ละการทดลอง! ช่างทุ่มเทกับเด็กจริง ๆ ค่ะ)

ส่วนวิชาแลปอีกตัวอย่าง Food Structure หรือที่จริง ๆ แล้วมันก็คือแลปเคมีนั่นเอง ที่นี่เราต้องมาทดลองดูปฏิกิริยาของสารอาหารแต่ละประเภท เช่น การรวมตัวกันของโปรตีน การเกิดเจลในอาหาร ซึ่งความประทับใจของเราอีกอันก็คือ เขามีจัดคลาสสอนและทบทวนการใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ให้ด้วยค่ะ (มาสอนการใช้ปิเปตต์ หรือสอนชั่งสารนี่ ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีคลาสแบบนี้ในหลักสูตรปริญญาโทด้วย) ซึ่งอาจารย์ก็ให้เหตุผลว่า เพราะเข้าใจว่าทุกคนมาจากคนละประเทศ เครื่องมือที่เคยใช้ก็อาจจะไม่เหมือนกัน หรือบางคนจบตรีมานานอาจจะลืมวิธีใช้ไปแล้ว เลยอยากให้ทวนกันใหม่ เป็นความใส่ใจเด็กที่น่ารักจริง ๆ ค่ะ ส่วนการเรียนการสอนในแลปนั่น เค้าก็จะแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มเล็ก ๆ แล้วก็จะมีพี่ปอเอกคอยช่วยดูแล อยู่รอบๆ เราที่เคยกลัวแลปขั้นสุดยอด พอได้มาเรียนแบบนี้ก็รู้สึกว่าสนุก แล้วก็หายกลัวไปได้เยอะเลยค่ะ

ส่วนเรื่องสังคมขณะเรียนนั้น อยู่ที่นี่เพื่อนร่วมคลาสเราก็มาจากหลากหลายเชื้อชาติและหลายสายการเรียนค่ะ เนื่องจากเกณฑ์การสมัครเข้าเรียนหลักสูตรปริญญาโทของที่นี่นั้น จะรับวุฒิปริญญาตรีที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ทั้งหมด  ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นพื้นฐานด้านอาหารมาก่อนเท่านั้น เพราะงั้นเราจึงได้เจอคนจากหลากหลายแบล็กกราวน์ เช่น เภสัชกร หรือนักเคมี ประเทศที่มากันนั้นก็หลายหลายเช่นกัน ทั้งเอเชีย ยุโรป ตะวันออกกลาง หรือแม้แต่หมู่เกาะที่เราไม่เคยได้ยินมาก่อนก็มี

 

ก่อนจากกัน มาพูดถึงค่าเทอมกันบ้าง อยากจะบอกว่าเมื่อเทียบกับคณะสายอื่นแล้ว คณะทางสายวิทยาศาสตร์อาจดูมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงนิดนึง เพราะเราต้องใช้เครื่องมือทางห้องปฏิบัติการกันเยอะมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่าเพิ่งเศร้ากันค่ะ เพราะคณะเรามีทุนการศึกษาให้ด้วย โดยจะเป็นทุนแก่นักเรียนต่างชาติปีละ 10 ทุน ซึ่งแม้อาจจะไม่ใช่ทุนเต็มจำนวน แต่ก็แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายไปได้พอสมควร (เราเองก็ได้ทุนนี้ค่ะ) เอาเป็นว่าถ้าเพื่อน ๆ คนไหนสนใจ ก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดทั้งเรื่องสาขาวิชาและเรื่องทุนเพิ่มเติม ในเว็ปไซต์ของคณะ ตาม link นี้ได้เลย
แล้วพบกันใหม่นะคะ ^^

สนใจเรียนต่อ University of Leeds ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเรียนต่อและคำปรึกษาจากพี่ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทย ฟรี คลิก