Master of Law ที่ Queen Mary University of London

รีวิว Master of Law ที่ Queen Mary University of London

  • Share this:

“ผมสนใจกฎหมายเกี่ยวกับเทคโนโลยี ซึ่งที่ Queen Mary ก็จะมีหลายวิชาให้เลือกเรียน อย่าง Cybercrime, AI Robotics Law, Economic Crime หรือ EU Data Protection ครับ” – นัท, Master of Law, Queen Mary University of London

 

แนะนำตัวให้เรารู้จักหน่อยค่ะ

ชื่อวรายุสครับ ชื่อเล่นชื่อนัท เรียนปริญญาโทกฎหมายเป็น General LLM อยู่ที่ Queen Mary University of London ครับ

Master of Law ที่ Queen Mary University of London

ทำไมถึงเลือกเรียนคอร์สนี้

ก่อนหน้านี้ปริญญาตรีเรียนนิติศาสตร์ที่จุฬาฯ ครับ แล้วก็มาต่อกฎหมายอย่างเดิมเพราะว่าความสนใจของผมคืออยากเรียนเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี ซึ่งไม่ค่อยมีที่ไหนเปิดสอน แต่มีที่ Queen Mary แล้วมีวิชาที่น่าสนใจหลายวิชาครับ

ช่วงที่เลือกคอร์สระหว่างนั้นผลรอผลทุนด้วยก็เลยยังไม่แน่ใจว่าวิชาที่จะเรียนต้องตามทุนกำหนดหรือเปล่า หรือว่าเลือกตามที่เราอยากจะเรียนได้ ผมเลยเลือกแนว general มาก่อน ซึ่ง general ของที่มหาวิทยาลัยนี้มันสามารถเลือกวิชาที่จะเรียนได้หมดเลย ก็ถือว่าดีครับ แล้วสุดท้ายก็ได้เรียนวิชาที่ตัวเองอยากจะเรียนครับ

School of Law จาก Queen Mary University of London ได้รับการรับรองหลักสูตรจาก ก.ต. จำนวน  11 หลักสูตร

การเตรียมตัวเรียนต่อ

จริงๆ ก็ตั้งใจว่าจะทำงานแล้วหล่ะ แต่ที่บ้านก็อยากให้มาเรียนป.โทก่อนก็เลยมาครับ ทีนี้ตอนเตรียมตัวก็พึ่ง Hands On เป็นหลักครับ คือเหมือนตอนแรกไม่ได้ตั้งใจว่าจะมาเรียนปริญญาโทแต่พอที่บ้านอยากให้มาก็โอเค แล้วลองหาข้อมูล หาตามเว็บไซต์เลยครับ ผมก็มีเพื่อนที่เคยเรียนต่างประเทศก็แนะนำว่ามีพี่ๆ ที่เค้าเป็นเอเจนซีจะคอยแนะนำให้แล้วก็ฟรีด้วยนะ ผมก็เลยไปลองหาดูแล้วก็เจอ Hands On จริงๆ แล้วผมก็เจอหลายที่นะ แต่ว่าผมก็ลองไปตามงานต่างๆ ทุกที่เลยนะ ทั้งที่มีงานที่เปิดตามพารากอน แล้วก็พวกตามโรงแรมนะ ผมก็ไปของหลายเอเจนซีเลย แต่ว่าที่รู้สึกประทับใจจริงๆ ก็คือของ Hands On คือพี่ๆ ติดตามดีครับ ช่วยให้คำแนะนำ แล้วตอนนั้นผมก็มีตัวเลือกอยู่ในใจหลายมหาวิทยาลัยหน่อย แต่รู้สึกว่ากับ Hands On เป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยหลากหลายอ่ะ เหมือนมหาวิทยาลัยที่ผมเล็งๆ ไว้ Hands On ก็เป็นตัวแทนหมดเลย ก็เลยถือว่าตรงจุด ดีมากครับ

การบริการจาก Hands On

ก็ Hands On ดูแลตั้งแต่แรกสุดเลย เตรียมตั้งแต่สอบ IELTS แล้วก็ต้องมาเขียน SoP ซึ่งทุกอย่างก็ใช้เวลาพอสมควรครับ แล้วที่ผมชอบอีกอย่างของ Hands On คือเค้ามีจัด event ที่ให้เข้าไปฟังก่อนเตรียมตัวจะบินมาเลยว่าต้องเตรียมพร้อมอะไรบ้าง จะต้องเอาของอะไรแพคมามั่ง ก็คือว่าดีมาก เพราะผมเป็นคนที่ไม่เคยมาเรียนต่างประเทศแล้วก็ไม่รู้จะถามใคร ข้อมูลตรงนี้เลยสำคัญมากครับ

สนใจเรียนต่อ Queen Mary University of London ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเรียนต่อและคำปรึกษาฟรี คลิก

Pre-sessional

ผมเรียน Pre-sessional เต็มสุดของมหาวิทยาลัยเลยครับ เหมือนจะ 13 weeks ได้มั้ง เนื่องด้วยคะแนน IELTS ต่ำ ผมก็รู้สึกว่า Pre-sessional เป็นคอร์สที่ดีมากครับ อย่างแรกเลยมันทำให้เราได้คุ้นเคยกับการใช้ภาษา เพราะว่าเวลาอยู่ที่ไทยชีวิตประจำวันแทบจะไม่ได้พูดภาษาอังกฤษเลยครับ แต่พอมาเรียนที่นี่อย่างน้อยเพื่อนทุกคนเป็นต่างชาติ ก็ได้ฝึกใช้ภาษา ฝึกพูด ฝึกฟัง เป็นพื้นฐานก่อนเลย ก็ทำให้รู้สึกว่าคุ้นเคยกับการมาอยู่ต่างประเทศก่อนสักระยะนึง ได้ปรับตัวก่อนเริ่มเรียน

เนื้อหาในคอร์ส Pre-sessional

จริงๆ เค้าสอนรวมนะครับ ไม่ได้แยกตามคอร์สที่เรียน แต่โดยรวมเค้าจะเน้นการเขียนแบบ Academic writing คือให้เขียนเชิงวิชาการ เราจะต้องเขียนแบบมีระบบในการแสดงความเห็นของเราออกมา ไม่ใช่ว่าอยากจะเขียนหรืออยากจะพูดอะไรก็พูด มันต้องมี Main idea มี Support อะไรอย่างนี้ครับ คือเค้าจะสอนให้เราคิดเป็นกระบวนการมากขึ้น แล้วก็เขียนออกมาเป็นกระบวนการมากขึ้น

ซึ่งมันช่วยเราในคอร์สที่เราเรียนมากๆ ครับ คือถ้าไม่มีคอร์ส Pre-sessional ผมคิดว่ามันจะลำบากมากๆ โดยเฉพาะนักเรียนที่ไม่เคยเรียนปริญญาโทหรือไม่เคยมาเรียนต่างประเทศเลย ยิ่งในไทยเนี่ยเราจะไม่ได้มีการเรียนอะไรแบบนี้ แล้วเราก็จะเขียน essay แบบนี้ไม่เป็น คือต่อให้ภาษาอังกฤษเก่งแค่ไหนแต่ไม่เคยเรียนต่างประเทศเลย ผมคิดว่ายังไงก็ต้องเรียนนะ Pre-sessional

บรรยากาศในห้องเรียน

มันจะมีข้อเสียอย่างนึงคือส่วนใหญ่แล้วจะเป็นคนเอเชีย บางทีก็อาจจะมีคนไทยเยอะ ถ้าเกิดว่าเราติดกับคนไทยมากเกินไปเราก็อาจจะไม่ได้ฝึกภาษาเท่าไหร่ แต่ว่าตัวผมเนี่ยตั้งใจตั้งแต่แรกเลยว่ามาถึงจะพยายามเกาะติดกับเพื่อนต่างชาติให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะได้ใช้ภาษาอังกฤษให้ได้มากที่สุด คือเรารู้ตัวว่าเราจะต้องพัฒนาอีก ผมมาคนเดียวอยู่แล้วก็อาศัยเนียนๆ ว่าใครมาคนเดียวไม่ค่อยได้เข้ากลุ่มกับคนอื่น เราก็เข้าไปหาเค้า สุดท้ายมันก็จะมีกลุ่มที่ค่อนข้างจะ International หน่อย แบบมีหลายๆ ชาติมารวมกัน (หัวเราะ)

Master of Law

มันมี 2 เทอม เรียนเทอมละ 3 วิชา ทั้งหมดก็จะมีแค่ 6 วิชาสำหรับคอร์สนี้ คือเราเลือกเรียนเองได้หมดเลย แต่ก็จะมีเงื่อนไขอยู่ เช่น วิชานี้อาจจะต้องเรียนตัวนี้มาก่อน วิชานี้ต้องเรียนคู่กับตัวนี้ เป็นต้น แล้วก็ต้องดูตารางเรียนอย่าให้ทับกันครับ

แต่ถ้าคนที่มีตัวเลือกในใจเยอะอาจจะต้องรอถามหรือปรึกษา Advisor หน่อยเพราะมีวิชาให้เลือกเยอะมากๆ ครับ แต่ด้วยความที่ผมมีวิชาที่อยากเรียนอยู่ในใจอยู่แล้ว ก็เลยตัด choices ได้ ทำให้เหลือตัวเลือกไม่เยอะครับ ก็เลยเลือกตามนั้นเลย

แล้วเลือกเรียนวิชาอะไรบ้างคะ

Cybercrime ครับ มี 2 parts ครับ ก็คือมีเรียนทั้งเทอม 1 และเทอม 2 เทอมแรกเป็นตัว Substantive offences คือเป็นความผิดข้อหา เช่น มีข้อหานี้ ทำผิดอย่างนี้เป็น hacker ส่วนเทอม 2 ก็จะเป็นในเรื่องของกระบวนการการหาหลักฐานครับเป็น Forensic Investigations ก็สนุกดีครับ

AI, Robotics and the Law ครับ เรียนว่ากฎหมายจะต้องปรับตัวยังไงกับการเข้ามาของพวก AI หรือการใช้หุ่นยนต์พวกนี้ครับ ซึ่งมันค่อนข้างพัฒนาเร็วและกฎหมายต้องตามให้ทัน

ที่เหลือผมไปเลือก Economic Crime กับ EU Data Protection Law ก็เรียนเกี่ยวกับ GDPR เป็นพวกข้อมูลส่วนบุคคล เป็นข้อกำหนดว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่เราให้กับผู้ให้บริการทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นการที่เราใช้ Facebook, Whatsapp หรือใช้ทุกอย่างที่เราต้องกรอกข้อมูล เค้าสามารถเอาข้อมูลเราไปใช้ได้แค่ไหน

ก็ 6 วิชาเท่านั้น ซึ่งตอนแรกก็รู้สึกว่าน้อย แต่พอเรียนไปก็ โอ้วววว พอแล้ว! (หัวเราะ)

ทำไมถึงอยากเรียนกฏหมายที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี

ส่วนตัวแล้วผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรเป็นพิเศษโดยเฉพาะในด้านกฎหมาย ถ้าให้เลือกระหว่างกฎหมายแพ่ง กับ อาญา ผมก็ชอบมาทางกฎหมายอาญามากกว่า หลังจากนั้นก็ลองคิดไปคิดมา  เราก็ดูแล้วว่าเราเรียนอะไรที่น่าจะมีประโยชน์ดีกว่า ก็เลยคิดว่าตัวนี้มันดีเพราะว่ามันใหม่ แล้วในอนาคตยังไงมันก็ต้องได้ใช้ ยังไงเราก็หนีเรื่องเทคโนโลยีไม่ได้แน่ๆ ประกอบกับว่าเราก็เคยเรียนกฎหมายอาญามาก่อน Cybercrime เลยค่อนข้างจะตรง

บรรยากาศในห้องเรียน

การเรียนแต่ละวิชาจะไม่เหมือนกัน แต่ของ Cybercrime จะเป็นแนวบรรยายเป็นหลักครับ

Dissertation ทำหัวข้อเกี่ยวกับอะไรคะ

Cybercrime เลยครับ ทำเกี่ยวกับกฎหมายไทยครับ คือผมโชคดีมากที่ได้ Supervisor เป็นอาจารย์ที่สอนเกี่ยวกับ Cybercrime เลย แล้วแกก็ค่อนข้างมีชื่อเสียงนะครับ อาจารย์ชื่อ Ian Walden แต่ก็อย่างว่าครับ อาจารย์เก่งก็จะค่อนข้างเข้มงวดนิดนึง จริงๆ แกเป็นคนใจดีแหล่ะครับ ช่วยเหลือดี

สนใจเรียนต่อ Queen Mary University of London ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเรียนต่อและคำปรึกษาฟรี คลิก

Queen Mary University of London

คือส่วนตัวผมที่เลือกเรียนที่นี่ก็เพราะมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงทางสาขาวิชากฎหมายอยู่แล้วด้วยครับ ก็ถือว่า Queen Mary เป็นตัวเลือกแรกๆ เลยที่ดูไว้ ยิ่งพอเห็นว่ามีชื่อวิชาที่น่าสนใจอยู่หลากหลายก็เลยตัดสินใจเลือกที่นี่ครับ ก็คิดว่าตัดสินใจไม่ผิดที่มาเรียนที่นี่ครับ

Location

Location ของมหาวิทยาลัยทั้งสอง campus ก็ดีครับ

ที่ Queen Mary วิทยาเขตหลักก็จะอยู่ที่ Mile End ตรงนั้นดี พื้นที่ก็โอเค แล้วก็เดินทางสะดวก อยู่ใกล้กับ underground เดินทางสะดวก นอกจากนี้สิ่งอำนวยความสะดวกก็จะครบครันมากๆ ครับ

สำหรับนักเรียนกฎหมายจะมีอีกวิทยาเขตนึงครับ อยู่ใน Holborn อยู่ในใจกลางกรุงลอนดอนเลยครับ ก็คือจะเดินทางสะดวกสบายมากๆ เช่นกันครับ ตรงนั้นอาจจะมีบ้างวิชาที่คนเยอะ ห้องอาจจะแน่นๆ หน่อย แต่ไม่ได้เป็นทุกวิชาครับ

Facilities

ห้องสมุดก็ดีมากครับสำหรับผม เก้าอี้ที่นั่งเยอะมาก แบ่งโซนชัดเจนว่าโซนไหนเสียงดังได้คุยได้ โซนไหนเงียบ มีคอมพิวเตอร์ให้ใช้ มีห้องที่เป็น Group discussion ให้เราจองได้  อย่างเวลารวมตัวกันกับเพื่อนๆ มาติวกันเตรียมสอบ ก็สะดวกครับ

การบริการของมหาวิทยาลัย

เจ้าหน้าที่เค้าแนะนำดีมากตั้งแต่ตอน Pre-sessional แล้วครับ พาเดินดูรอบมหาวิทยาลัย มีเล่าประวัติ บอกว่าตึกไหนอยู่ตรงไหน นอกจากนี้เค้าก็มีบริการหลากหลาย เช่น Health center, Job center คือปรึกษาได้ทุกเรื่อง มีปัญหาเรื่องเงินหรือว่าอยากหางาน part time ก็ปรึกษาได้ หรือว่าเรื่องสุขภาพรวมถึงปรึกษาปัญหาความเครียดต่างๆ ครับ ผมก็ไปลงทะเบียนไว้ เราก็สามารถไปหาได้เวลาไม่สบายครับ

 

Lifestyle

อยู่ London เป็นยังไงบ้าง

ก็มีสวน มีพิพิธภัณฑ์ ให้เดินเล่นกับเพื่อนครับ ส่วนตัวชอบนะครับ ถ้าจะมีอะไรไม่ชอบคือค่าครองชีพแพง (หัวเราะ) การเดินทางก็สะดวก อากาศก็ไม่ได้ร้อนไม่ได้หนาวเกินไป กำลังดีครับ

เพื่อนคนจีนเค้าจะชอบพวก Hot pot มาก เค้าก็จะทำแล้วเราก็จอยกับเค้า ก็แค่ไปช่วยล้างจานหรือไปช่วยซื้อวัตถุดิบ ถึงเวลาก็กิน (หัวเราะ)

คือผมเนี่ย อย่างที่บอกตอนแรกไปแล้วว่าไม่ค่อยได้ทำอะไรเท่าไหร่ นอกห้องเรียนคือถ้านอกจาก hang out กับเพื่อนก็ไปเล่นฟุตบอลครับ มีไปเตะกับคน local แถวนี้บ้าง แถวๆ มหาวิทยาลัยมีสนามฟุตบอลให้เราเข้าไปเล่นกับเค้าได้อยู่ครับ

แล้วก็มีทำงาน Part-time เพิ่งจะมาทำหลังจากที่เรียนเสร็จหมดแล้วครับ ที่เป็นช่วงทำ dissertation คือคิดว่าถ้ามันว่างเกินไป เราอาจจะรู้สึกว่าเวลาเหลือเยอะแล้วก็จะเฉื่อยชา ก็เลยไปหางาน Part time ทำครับ เป็นร้านอาหารไทยก็โอเคครับ ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีครับ ได้ตังค์ด้วย

ไปเที่ยวไหนมาบ้าง

ได้เที่ยวเยอะสุดก็น่าจะเป็นตอน Pre-sessional แหล่ะครับ เค้าดีอย่างนึงคือเค้าจัด Social programme คือพาไปทัวร์ แรกๆ ก็รอบ London ก่อน ก็เรียกได้ว่าครบทุกที่ครับ ส่วนตัวที่ไปเองก็จะมี Belfast ที่ Northern Ireland

 

สนใจเรียนต่อ Queen Mary University of London ปรึกษาพี่ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทย ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเรียนต่อและคำปรึกษาฟรี คลิก

Enquiry Form

Please provide the following information and we will aim to respond within 48 hours:

Your details
Please enter your first name.
Please enter your last name.
Please enter a valid email address.
Please enter your phone number.
Please select a country you want to study.
Please select a year you want to study.
Please select your preferred branch.

* All fields required (in English)

  • Share this: