รีวิว MBA Global Business ที่ Coventry University

  • Share this:

แนะนำตัวให้เรารู้จักหน่อยค่ะ

ชื่อ ฟลุ๊ค พงศกร นะครับ ตอนเรียนที่ไทย ป.ตรี จบ mechatronics engineering มาจาก ลาดกระบังครับ แล้วก็ไปต่อ ป.โท MBA Global Business จาก Coventry University ที่ London campus ประเทศอังกฤษครับ

ทำไมเปลี่ยนสายการเรียนจากวิศวกรรมศาสตร์ มาเป็นสายธุรกิจ

อันนี้ตอบตรง ๆ เลย คือ ตอนนั้นจบวิศวะมา ก็คือยังไม่อยากทำงานครับ ยังอยากเรียนอยู่ ตอนแรกก็ยังไม่รู้ว่าจะไปเรียนต่อทางไหนครับ แต่ว่าก็โชคดีที่มีพี่ที่ Hands On คอยให้คำแนะนำ ตอนนั้นพี่เค้าก็แนะนำมาว่าคนที่จบวิศวะมาเค้าไปเรียนต่อสาขาอะไรกันบ้าง ประมาณนั้นครับ แล้วผมก็เอาข้อมูลที่เป็น options ที่พี่เค้าให้มา เอามานั่งดูแล้วก็คุยกับคุณพ่อ แล้วก็เลยตัดสินใจได้ว่า โอเค ตัว MBA Global Business เนี่ย น่าจะเหมาะแล้วก็สามารถเอาไปใช้ได้ในอนาคตได้ครับ

ทำไมถึงเลือกเรียนต่อที่ Coventry University

คือต้องอธิบายเท้าความไปก่อนนะครับ ว่าตอนมัธยมเนี่ยผมเรียน ที่สาธิตจุฬา มันก็ค่อนข้างจะตัวเมืองเนอะ แล้วทีนี้พอตอน ป.ตรี ผมไปเรียนที่ลาดกระบัง มันก็คือคนละ feeling กันเลยครับ คือมันออกไปนอกเมือง หันไปทางไหนก็เจอทุ่งหญ้า มีสนามบินอยู่ใกล้ ๆ อะไรแบบนี้ครับ แล้วผมเป็นคนที่ชอบความ busy ของตัวเมือง ชอบความวุ่นวายครับ ก็เลยเลือกว่าเออเราอยากจะไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัยที่อยู่ในตัวเมือง ในใจเลยก็คืออยากไปลอนดอนนี่แหละครับ ก็เลยลองดูว่าเรามี options ไหนบ้าง ทางพี่ counsellor ของ Hands On เค้าก็ให้ลิสต์เรา และ Coventry เองก็ค่อนข้างจะเป็นมหาวิทยาลัยที่ดังนะครับ แล้วมหาวิทยาลัยก็อยู่ London Zone 1 เลย ก็เลยตัดสินใจไปเรียนต่อที่ Coventry University ครับ

การเตรียมตัวเรียนต่อและบริการจากพี่ ๆ Hands On

ช่วงที่หาข้อมูลก็มีลองคุยกับหลาย ๆ ที่นะครับ แล้วก็ได้ไปคุยกับเพื่อนที่เตรียมตัวไปเรียนต่ออังกฤษ เค้าแนะนำมาว่าพี่ Hands On แนะนำดีมากเลยนะ มีความรู้ ผมก็เลยลองเข้าไปคุยดูครับ วันแรกเราเข้าไปคุยคนเดียวกับเพื่อนคนนี้ ก็ค่อนข้างประทับใจครับ เพราะตอนนั้นคือผมไม่ได้มีข้อมูลอะไรเลยว่า ต้องสอบอะไร ต้องเรียนมหาวิทยาลัยอะไร เตรียมอะไรบ้าง แต่ว่าพี่ที่ Hands On คือช่วยได้เยอะมากครับตอนนั้น ก็ประทับใจ ก็เลยพาคุณพ่อเข้าไปคุย คุณพ่อก็ประทับใจอีกครับ ก็เลยเลือกที่จะปรึกษากับพี่ Hands On ต่อยาวๆ เลยครับ อยู่ที่นู้นมีเรื่องโควิดอะไรก็คุยกับพี่ Hands On ได้ยาว ๆ เลยครับ

คือพี่ Hands On ดูแลผมตั้งแต่เริ่มให้ข้อมูล เตรียมเอกสาร ไปจนถึงการเตรียมเอกสารขอวีซ่า จริงๆ ผมก็คิดว่าผมเนี่ยมีหน้าที่แค่จ่ายเงินค่าเทอมครับ (ยิ้ม) เพราะพี่เค้าป้อนข้อมูลมาทุกอย่างเลย

อ่านบทสัมภาษณ์ รีวิวการให้บริการของพี่ ๆ Hands On ฉบับเต็มได้ ที่นี่

MBA Global Business

คอร์สเรียน MBA Global Business เค้าก็จะสอนหลายอย่างนะครับ คือเราจะรู้หลายอย่างเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ ก็จะมีเรียนพวก international trade, economics, finance คือเราก็จะเรียนหลายตัวเลย

จริง ๆ ผมค่อนข้างชอบทุกวิชาเลยครับ เพราะผมไม่เคยมีความรู้สึกนี้นานแล้ว คือพออยู่ที่นู่นเหมือนเรามี power ในการเรียนครับ อย่างเราเข้าไปในห้องเรียน มันไม่ใช่คลาสเรียนแบบที่เราเรียนที่ไทย แบบมานั่งจด หมดเวลาแล้วง่วงกลับบ้านนอน แต่การเรียนที่อังกฤษคือเรา enjoy กับการเข้าไปนั่ง discuss กับเพื่อน ๆ ในห้อง ไปนั่งถกเถียงกันถึงปัญหาหรือว่าโจทย์ที่อาจารย์เค้าให้มา คือมันไม่มีใครผิดไม่มีใครถูก เรามานั่งถกกันว่าคุณคิดยังไง ในมุมมองของคุณหรือจาก culture ของคุณ คุณคิดยังไง เพราะว่าในคลาสก็จะมีหลายเชื้อชาติที่มารวมกัน แล้วเราก็ได้แชร์ความคิดของเราด้วย ว่าถ้าเป็นเรา เราคิดยังไง ประเทศของเราเป็นแบบนี้ ถ้าเราต้องทำงานระหว่างประเทศนี้กับประเทศนี้ เราก็จะมีการแชร์ culture กันครับ สนุกมากครับ

สำหรับ Size ของคลาสเรียน ก็จะแบ่งเป็นสองแบบนะครับ คือ lecture กับ seminar คลาส seminar ก็จะเล็กหน่อยครับ ก็จะแย่งเป็น 4 กลุ่มย่อย กลุ่มละประมาณ 4-5 คนไม่เกินนี้ครับ ส่วนคลาส lecture ก็จะมีทั้งเล็กและใหญ่ครับ บางคลาสก็ 50 คน มีถึง 100 คนก็มี เพราะว่าบางคลาสเราต้องเรียนรวมกับคณะอื่นหรือสาขาอื่นด้วยครับ อย่างพวกวิชา Finance ก็จะต้องมีเรียนรวมกับสาขาอื่นครับ

ส่วนอาจารย์ก็ ถ้าเรื่องการให้คะแนนผมว่าค่อนข้างโหดนะครับ เพราะว่าตัวเราถามว่าภาษาอังกฤษพอได้ไหม ก็พอได้เพราะว่าเราไปอยู่ที่นู่นไปเรียนที่นู่น ถามว่าจะดีเท่าเจ้าของภาษาไหม ก็คงไม่นะครับ แต่ว่าถ้าพูดเรื่องการสอนทั่วไปในห้องเรียน หรือการถามคำถามต่าง ๆ คืออาจารย์ค่อนข้างจะให้ความช่วยเหลือได้เยอะเลยครับ คือถ้าเราไม่เข้าใจอะไร จะไม่มีการมาว่าเด็กหรืออะไรเลยว่าทำไมเราไม่เข้าใจ แบบนั้นคือไม่มีครับ คือถามเค้าได้ตลอด และถ้าเรายังไม่เข้าใจจริง ๆ นอกห้องเรียนเราก็ยังสามารถถามได้ครับ บางทีก็มีการจัด session แยกให้เราด้วย

จริงๆ คอร์สเรียน MBA มีทริปไปทัวร์ยุโรปของวิชาหนึ่งที่ต้องเรียน และทริปไปแคมปัสหลักที่ Coventry ก็ล่มหมดเพราะ Covid นี่แหละครับ ซัดเรียบ

สนใจเรียนต่อ Coventry University ปรึกษาพี่ๆ Hands On ฟรี คลิก

Coventry University ที่ London Campus

Facilities ต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัย ในมุมของผมคือ ผมเรียนที่ London Campus นะครับ ก็จะเป็น building หนึ่งนะ มันก็อาจจะไม่ได้มีสนามกีฬาเหมือนอย่างที่มหาวิทยาลัยอื่นเค้ามีกันนะครับ แต่ก็จะมีพวกห้องสมุด ห้อง common room มีพื้นที่ให้เราได้นั่งคุย นั่งถกเถียงกันระหว่างเพื่อนนักเรียน หรือว่าบางทีก็จะมีการจองห้องประชุมเพื่อนัดทำงานกัน ก็มีครับ

รีวิวการเรียนออนไลน์ ที่ Coventry University

จริงๆ สำหรับผม สุดท้ายแล้วผมก็ยังคิดว่าการเรียนออนไลน์มันไม่ effective เท่ากับการเรียนในห้องเรียนนะครับ เพราะผมได้ลองมาทั้งสองแบบ โดยส่วนตัวผมชอบเรียนแบบนั่งเรียนในคลาสมากกว่า มันได้เจอหน้ากัน ได้พูดคุยกัน แต่พอมาเป็นออนไลน์มันต้องเป็นหนึ่งคนพูดแล้วที่เหลือฟังถูกไหมครับ มันจะไม่มีการมานั่งเถียงกันครับ แล้วเรามีกันอยู่ 8-9 คน ถ้าเราเรียนในคลาสเราจะเห็นจังหวะเพื่อนว่าเออ คนนี้กำลังจะพูดอะไรแบบนี้ครับ แต่ถ้าออนไลน์มันก็ไม่ได้ ผมว่ามันก็ติดตรงนี้แหละครับ คือเราก็จะแลกเปลี่ยนความคิด หรือคุยกันลำบากมากขึ้น แต่ถ้าถามเรื่องเนื้อหาสาระของการเรียนแล้ว ผมมองว่าการเรียนออนไลน์ ถ้าเรามีวินัยในตัวเองมากพอ ไม่ปิดกล้อง หรือว่าไปทำอะไรอย่างอื่นแล้วเดินออกไปข้างนอกห้อง ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรนะครับ

มหาวิทยาลัยมีการ support เราอย่างไรบ้าง

คือถ้า support เรื่องการลดค่าเทอมอะไรอย่างนี้ไม่มีนะครับ แต่ถ้าเป็นเรื่องการ support ส่วนของ platform ที่ใช้ในการเรียน ตอนนั้นผมจำได้ว่าทางมหาวิทยาลัยก็มีการเปลี่ยนระบบทันทีเลยครับ คือระบบเก่ามันจะไม่ได้ support เรื่องการเข้าไปดูเอกสารมากเท่ากับระบบใหม่ที่ทางมหาวิทยาลัยเปลี่ยนมานะครับ ก็ถือว่ามหาวิทยาลัยค่อนข้างปรับตัวได้เร็วมากถ้าถามผมนะ คือมันทำให้การเรียนราบรื่น ไม่มีสะดุดหรือติดขัดเรื่องอะไรครับ จริงๆ มันจะมีช่วงแรกที่ covid มาใหม่ๆ เลย เพื่อนบางคนก็รีบกลับประเทศเลย แต่ส่วนผม ผมเลือกอยู่ต่อ ก็เค้าก็จะมีการสอนแบบ live ไปเลยก็มีครับ อุปกรณ์หรือเทคโนโลยีต่าง ๆ ก็ค่อนข้างล้ำกว่าเราอยู่แล้วครับ ก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ

รีวิวการใช้ชีวิตในลอนดอน

คือต้องบอกว่าผมไม่ได้คิดภาพไว้ดีกว่าว่าไปถึงแล้วจะเป็นยังไง ผมว่ามันน่าตื่นเต้นดี จังหวะที่ประตูสนามบินเปิดแล้วมันหนาว นี่ก็คืออะไรที่แปลกใหม่ละ เพราะว่าประเทศเรามันร้อนเนอะ บ้านเมืองก็สวยงามครับ ตามฉบับหนังอังกฤษ คือถ้าเคยดู 007 ก็ตามนั้นเลยครับ ก็ค่อนข้างจะประทับใจ คือลอนดอนก็วุ่นวายดีครับ อย่างที่ผมชอบเลย

การใช้ชีวิตที่ลอนดอน ก็ขอเล่าเป็นช่วง ๆ แล้วก็นะครับ อย่างช่วงแรก ๆ ก่อนจะ lockdown ผมก็จะสนิทกับเพื่อนที่มหาวิทยาลัยครับ พอเรียนเสร็จเราก็จะชอบนัดกันครับ นัดกันทำงาน เพราะผมอยู่กับกลุ่มที่เค้าขยันด้วยแหละครับ พอเลิกเรียนก็จะมีนัดกันทำงานที่หอคนที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยที่สุด ไปนั่งที่ห้อง common room ที่หอเพื่อน นั่งทำงานเสร็จก็จะมีปาร์ตี้เล็ก ๆ ตามประสาเด็กวัยรุ่นครับ มีดื่มบ้าง ออกไปช็อปปิ้งบ้าง ที่ Oxford Street ก็ไปกันบ่อยครับ เปลืองเงินกันไปเยอะครับ (หัวเราะ)

พอช่วง lockdown ก็จะเปลี่ยนไปหน่อยครับ ผมก็จะกลับไปอยู่หอซะส่วนใหญ่ ทีนี้ก็จะเริ่มสนิทกับเพื่อนที่หอ ก็จะมีหลายกลุ่ม หลายเชื้อชาติ คนอังกฤษเองก็มีครับ หรือโซนยุโรปก็มีเยอะ เราก็จะเปลี่ยนแนว มาเป็นแนว cooking ทำอาหารกินกัน เราก็จะมีทำอาหารไทย มีแชร์ให้เค้ากินบ้าง ทำพวกผัดกระเพา อะไรง่ายๆ ครับ เค้าก็ทำอาหารของเค้ามาให้เราชิมเหมือนกัน แล้วก็มันจะมีบางช่วงที่ผับเปิด เราก็มีออกไปผับกันบ้าง

แล้วก็มีช่วงที่ตัดสินใจกลับเมืองไทยมาช่วงสั้นๆ ครับ ช่วงที่ covid มันพีคมาก ๆ ที่อังกฤษ ก็กลับมารอบนึง แล้วก็บินกลับไปเรียนครับ ตอนบินกลับไปก็หวังว่าสถานการณ์มันจะดีขึ้น แต่ก็ lockdown เหมือนเดิม แต่ตอนนั้นด้วยความที่ฟลุ๊คทิ้งของไว้เยอะด้วยครับ คือยังไงก็ต้องกลับไปเอาของอยู่แล้ว และไหน ๆ เราก็จ่ายค่านู่นค่านี่ไปหมดแล้ว ก็เลยเลือกกลับไปเรียนที่นู่นครับ เพราะยังไงอยู่กรุงเทพก็ lockdown อยู่ที่บ้านเหมือนกัน ก็ไปอยู่นู่นจนเรียนจบ แล้วก็กลับมาเมืองไทยครับ

ก็ส่วนเพื่อนสนิทคือเยอะเลยนะครับ ทุกวันนี้ก็ยังมี video call คุยกันอยู่เลยครับ แต่ที่สนิทจริงๆ จะไม่ได้เป็นเพื่อนที่มหาวิทยาลัยนะครับ จะเป็นเพื่อนที่อยู่หอพักเดียวกัน เป็นคนบัลแกเรีย คือช่วงนั้นพอดีเป็นช่วง covid บวกกับ lockdown เราก็ต้องนั่งเรียนที่หอพัก เพื่อนๆ ในหอก็จะชอบมานั่งเรียนที่ห้อง common room ด้วยกัน แล้วมันก็จะมีส่วนที่เรารู้ เค้าไม่รู้ เค้าก็จะมาถามผม หรือส่วนที่เค้ารู้และเราไม่รู้ อย่างการใช้ภาษาเวลาที่เราเขียน report ส่งอย่างนี้ครับ บางทีการใช้ภาษาของเราก็ไม่ได้เหมือนกับที่เจ้าของภาษาใช้ เค้าก็จะมาช่วยผมตรงจุดนั้นเพราะเค้าอยู่อังกฤษมา 10 กว่าปีแล้ว ก็ได้ช่วยกันครับ แล้วก็มีไปเที่ยวด้วยกัน ก็เลยจะสนิทกันมากครับ

เรื่องเที่ยว ตอนแรกผมกะว่าจะ focus การเรียนก่อน แล้วค่อยไปเที่ยวนะครับ ก็เลยไม่ค่อยได้ไปเที่ยไหนมาก แต่ก็มีไปสก็อตแลนด์ Edinburgh, Glasgow เพราะว่ามีเพื่อนเรียนที่นั่นครับ ไป Lancaster, Manchester คือส่วนใหญ่ก็จะเป็นการไปเที่ยวหาเพื่อนคนไทยที่เรารู้จักครับ ก็จะได้ประหยัดค่าที่พักเวลาเที่ยวด้วยครับ เพราะว่าเราอยู่ลอนดอน เราช็อปปิ้งบ่อยนะครับ (ยิ้ม)

ฝากถึงน้อง ๆ ที่สนใจอยากเรียนต่อ UK

จริง ๆ ผมก็เรียนจบ ป.ตรี ที่ไทยมาใบหนึ่งเนอะ แล้วก็มาเรียนต่อต่างประเทศ ผมก็มองว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ๆ ถ้า  คนไหนที่ทางบ้านมีกำลังส่งไปเรียน ผมก็มองว่ามันจะเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่คุ้มค่ามากกับเงินที่จ่ายไปครับ ก็ลองคุยกับพี่ Hands On ดูครับ  เพราะบางคนอาจจะเป็นเหมือนผมก็ได้ที่ไม่รู้จะเรียนอะไร ก็พี่ ๆ เค้าก็อธิบายและให้คำแนะนำเราได้ครับ ก็อยากให้ทุกคนได้ไปครับ

 

สนใจเรียนต่อ Coventry University ปรึกษาพี่ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทย ฟรี เพียงกรอกแบบฟอร์มด้านล่าง หรือ คลิก

Enquiry Form

Please provide the following information and we will aim to respond within 48 hours:

Your details
Please enter your first name.
Please enter your last name.
Please enter a valid email address.
Please enter your phone number.
Please select a country you want to study.
Please select a year you want to study.
Please select your preferred branch.

* All fields required (in English)

  • Share this: