สวัสดีค่ะเพื่อนๆ สบายดีกันไหมคะ วันนี้จะพาเพื่อนๆไปเที่ยวเมืองใกล้ๆ กับเมือง Norwich กันค่ะ ซึ่งก็คือเมืองแคมบริดจ์ (Cambridge) นั่นเอง การเดินทางไปเมืองนี้ถ้านั่งรถยนต์จาก Norwich ไปก็ใช้เวลาประมาณชั่วโมงนิดๆ นะคะ แต่วันนี้มุกเดินทางมาด้วยรถไฟค่ะ ค่าตั๋วเดินทางไปกลับก็ประมาณคนละ 40 pounds ประมาณนี้นะคะซึ่งขึ้นอยู่กับช่วงเวลา อันนี้ต้องเข้าไปเช็คในเว็บเอาเองนะคะ ซึ่งถ้านั่งรถไฟคนที่ทำบัตร rail card ก็จะสามารถใช้ส่วนลดได้อีกด้วย เราก็จะนั่งจากสถานี Norwich โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงในการเดินทางค่ะก็จะมาถึงสถานีแคมบริดจ์ ขอแนะนำว่าให้ออกเดินทางแต่เช้านะคะ เพราะจะได้มีเวลาเที่ยวแบบเต็มๆ วัน เพราะมุกไปแบบเช้าเย็นกลับค่ะ และวันนั้นที่ไปอากาศก็เป็นใจมากๆ ค่ะ ท้องฟ้าแจ่มใสดลใจให้ถ่ายรูปจริงๆ เลย
เมืองนี้หลายๆ คนก็คงรู้จักกันดีอยู่แล้วนะคะ เพราะเป็นเมืองขึ้นชื่อที่เวลาเดินทางมาเที่ยวประเทศอังกฤษจะต้องมาเยือน เพราะมีมหาวิทยาลัยชื่อดังตั้งอยู่ที่นี่ด้วย เพราะฉะนั้นการมาเที่ยวเมืองแคมบริดจ์ จึงเป็นการทัวร์เมืองสลับกับชมวิทยาลัยซึ่งบรรยากาศก็จะคล้ายๆ กับ Oxford เพราะที่เมืองนี้มีคอลเลจถึง 30 แห่งเลย เยอะมากกกกกก แต่จากที่มุกไปมาโดยส่วนตัวแล้วมุกชอบเมือง Cambridge มากกว่านะ อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวค่ะ เพราะรู้สึกว่ามีธรรมชาติเยอะมากกว่า อากาศดี ร่มรื่น น่าอยู่สุดๆ แต่ Oxford ดูจะอึดอัดกว่านิดนึง
เมื่อลงสถานีรถไฟแคมบริดจ์แล้วนะคะเราก็ใช้วิธีเดินเที่ยวกันค่ะ (เพื่อความประหยัด อิอิ) ซึ่งก็ดูเหมือนไกลพอสมควรนะคะ แต่ก็สามารถเดินได้อยู่ค่ะ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก็จะเข้ามาสู่เขตใจกลางเมือง ซึ่งระหว่างทางก็จะมี cathedral แล้วก็จะเดินผ่าน college ต่างๆ เชื่อแล้วค่ะว่าของเค้ามีเยอะจริงๆ และช่วงที่เดินมาเราก็จะเห็นนักเรียนส่วนใหญ่เค้าใช้จักรยานกันเยอะเลยค่ะ ระหว่างทางก็มีร้านค้าต่างๆ ก็จะมีทั้งร้านขายของแล้วก็ร้านอาหารค่ะ
สำหรับการเที่ยวเมืองนี้ถ้าจะให้สนุกก็คงต้องใช้เวลาเดินเล่นไปเรื่อยๆ ชมตึกที่มีสถาปัตยกรรมสวยๆ แล้วก็ถ่ายรูปเพลินๆ ค่ะ เพราะมีตึกสวยๆ เยอะมากค่ะ ส่วนใหญ่ก็คงเป็นวิทยาลัยต่างๆ แต่ถ้าใครพลาดมาวันที่ฝนฟ้าไม่เป็นใจนี่ก็น่าเสียดายแย่เลยค่ะ คงต้องเช็คสภาพอากาศให้ดีกันก่อนนะคะ ยิ่งเดินชมเมืองนี้ไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งหลงรักเมืองนี้ขึ้นมาแล้ว ทุ่งหญ้าเขียวขจีกับตึกสวยๆ ดูแล้วสบายตาสุดๆ ไปเลยค่ะ อ่อ แล้วในตัวเมืองของที่นี่ก็มีช็อปต่างๆ แล้วก็ห้างสรรพสินค้าด้วยนะคะ คึกคักเลยทีเดียว ถือว่าเป็นเมืองที่ครบถ้วนสมบูรณ์จริงๆ เลย เหมาะแล้วกับการได้รับตำแหน่งว่าเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวเยอะที่สุด ขนาดมุกมาที่นี่แค่ครั้งแรกก็รู้สึกอยากกลับมาเยือนอีกรอบแล้วค่ะ
เมื่อมาถึงเมืองนี้ถ้าไม่ได้ลงเรือ Punt เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงเนอะ เรือที่นี่ก็เหมือนเรือท้องแบนแบบที่เมืองไทยอ่ะค่ะ 555 แต่แค่มานั่งที่นี่มันได้บรรยากาศมากกว่านั่งเรือแล่นในคลองแสนแสบบ้านเรา ฮ่าๆๆ ส่วนค่าเช่าเรือก็มีหลายราคานะคะถือว่าไม่แพงค่ะ มีแบบคิดเป็นชั่วโมงหรือจะเช่าเหมาเป็นวันก็ได้ค่ะ อันนี้แล้วแต่เราจะเลือกค่ะ พอเราลงเรือปุ๊บก็จะมีคนมาพายให้เรานั่งสวยๆ ชิวๆ ถ่ายรูป ชมวิวไปเรื่อยๆ ซึ่งในน้ำก็จะมีเจ้าเป็ดหัวเขียว แล้วก็หงส์ดำ หงส์ขาวแวกว่ายกันอยู่ในคอยแชะภาพไม่กลัวคนกันเลยทีเดียว และระหว่างทางที่เรานั่งเรือไปเค้าก็บรรยายประวัติที่โน่น ที่นี่มาเก่าแก่แค่ไหน ประวัติเป็นมาอย่างไรด้วยค่ะ
และนี่ก็เป็นส่วนนึงของการไปเยือนเมืองใกล้ๆ อย่างแคมบริดจ์ครั้งแรกของมุกนะคะ รู้สึกประทับมากกับเมืองนี้ อิจฉาคนมาเรียนที่นี่จัง เมืองอะไรก็ไม่รู้อยู่แล้วรู้สึกโรแมนติก ถ้ามีโอกาสคงจะไปอีกครั้งแน่ๆ ค่ะ ขอบคุณเพื่อนๆ ที่เข้ามาอ่านและติดตามนะคะ ไว้คราวหน้าจะมาเล่าเรื่องราวที่อื่นบ้างค่ะ สวัสดีค่ะ
สนใจเรียนต่อ University of East Anglia ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเรียนต่อและคำปรึกษาจากพี่ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทย ฟรี คลิก