Hands On Education Consultants

รีวิว MSc Accounting and Finance ที่ The University of Edinburgh โดย Jan

แนะนำตัวให้เรารู้จักหน่อยค่ะ

Jan: สวัสดีค่ะ ชื่อแจน เรียนอยู่ที่ University of Edinburgh สาขา MSc Accounting and Finance ค่ะ

ทำไมถึงเลือกเรียนต่อคอร์สนี้

Jan: ที่เลือกเรียนคอร์สนี้เพราะว่าตอนปริญญาตรีเรียน Accounting มา แล้วก็เคยทำงานมีประสบการณ์ทำงานในสาย Banking กับมีทำ Audit มาด้วยแล้วก็คิดว่าแบบ Finance ก็คือน่าจะต่อยอดได้ดีก็เลยเลือกสายนี้ ตอนแรกดูเป็นคอร์ส Finance ไว้ค่ะ แต่ว่าพอดูคอร์ส Accounting and Finance ก็ดูแบบมีอะไรที่ relate กับตอนปริญญาตรีมากกว่าก็เลยเลือกคอร์สนี้มาค่ะ

แต่จริง ๆ ก็คือ Accounting and Finance มีแทบทุกมหาวิทยาลัยเลย ทำไมเรามาลงตัวที่นี่

Jan: จริง ๆ ก็สมัครมหาวิทยาลัยอื่นไปด้วยค่ะ แต่ว่าก็ตอนสุดท้ายแล้วก็เลือกโดยรวม ๆ ก็ดูจาก Ranking ดูมหาวิทยาลัยที่ได้มา ได้ offer มาแล้วก็ดูจาก ranking มาก็เลือกอันนี้ที่ ranking สูงสุดค่ะ

สนใจเรียนต่อ The University of Edinburgh ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรี คลิก

การเตรียมตัวเรียนต่อ

รู้จักพี่ Hands On ได้ยังไงคะ?

Jan: รู้จักเพราะว่าตอนประมาณปี 2 เคยไปเรียนคอร์สภาษาอังกฤษที่ London ตอนนั้นก็ติดต่อจากพี่ Hands On ค่ะ ตอนไปเรียนที่อเมริกากับที่อังกฤษมาก่อนหน้านี้ก็ติดต่อที่ Hands On ค่ะ พอถึงเวลาจะมาเรียนต่อ ป.โท อีก ก็ติดต่อพี่ Hands On เหมือนเดิมเลยค่ะ

บริการจากพี่ Hands On

Jan: พี่เค้าก็แนะนำดีมาก แบบให้รายละเอียดทุกอย่าง อย่างตอนแรกแจนจะเลือกที่ Melbourne กับที่อังกฤษ พี่เค้าก็สมัครให้ทั้งสองที่เลย แล้วก็พี่เค้าก็แบบแนะนำทุกอย่างเลยค่ะ เรื่องสอบเรื่องคะแนนต่าง ๆ ที่ต้องใช้ เอกสารพี่เขาก็จะ List มาว่าต้องใช้อะไรบ้างเราก็เตรียมแล้วก็ส่งให้เขา พี่เขาก็สมัครให้หมดเลย เรื่องหอพักอันนี้พี่เค้าก็มีแนะนำเอเจนซี่ให้ด้วย มีครบทุกอย่างเลยค่ะ  อย่างตอนช่วงที่มา UK ตอนนั้นที่มันจะมีมาตรการโควิดอัพเดทตลอด พี่เค้าก็บอกละเอียดเลยว่าต้องทำอะไรบ้าง

MSc Accounting and Finance

รีวิวคอร์สเรียนบ้าง คอร์สนี้เรียนอะไรบ้างคะ?

Jan: คอร์สนี้เทอมแรกจะเป็นแบบ Accounting เยอะกว่า เทอมแรกเรียน 4 ตัว Accounting 3 ตัว มี Finance ตัวนึง แต่ Finance ก็คือจะเป็น Foundations of Finance Theory วิชานี้เด็กก็ feedback ทางมหาวิทยาลัยไปเยอะพอสมควรค่ะ เพราะว่าเนื้อหาเน้นไปทางทฤษฎีเยอะเกิน เพื่อนในห้องบางคนที่ไม่มีพื้นฐาน Finance มาก็อาจจะ suffer นิดนึงถ้าวิชาเทอมสองที่เค้าเลือกมันจำเป็นต้องใช้ background ด้าน finance มาพอสมควร อย่างวิชา Financial Engineering อะไรแบบนี้ค่ะ

ส่วนวิชาอื่นก็โอเคที่เป็น Accounting ก็แบบมีคอร์ส Advanced Management Accounting หรือแบบ Advanced International Financial Reporting บางอันที่เนื้อหาเคยเรียนมาแล้วตอนป.ตรีนะคะ แต่ว่ามันก็ต่อยอดได้ก็เข้าใจดี เรียนรู้เรื่องค่ะ

เทอมสองก็จะมี Finance เยอะขึ้นค่ะ แต่ว่าจะเป็นแบบ optional course ก็คือให้เราเลือกเอง ส่วนใหญ่วิชาเลือกที่มีก็จะเป็นวิชาเรียนรวมกันกับพวก FinTech, Finance อย่างเดียว, หรือ Banking and Finance ก็จะทำให้เราได้เจอเพื่อน ๆ จากคอร์สอื่นเยอะมากขึ้นค่ะ ที่ดีอีกอย่างคือเราสามารถเข้าไปนั่ง sit in ในวิชาที่เราไม่ได้ลงเรียนก็ได้นะคะ อย่างแจนตอนแรกลง Corporate Governance, Statistics for Finance กับ Equity Valuation ไป แต่พอหน่วยกิตเกินก็เลยสลับเอาวิชา Equity Valuation มานั่งเรียน sit in อย่างเดียวค่ะ

แจนคิดว่าเทอมสองได้ความรู้เยอะกว่าเทอมแรกนิดนึง เพราะว่าเหมือนเป็นวิชาที่เลือกเองก็ได้มีเรียนเกี่ยวกับ Finance มากกว่าอย่างที่เราชอบ คือจริง ๆ อาจจะเป็นเพราะว่าแจนเรียน Accounting มาแล้วตอนป.ตรี เทอมแรกมันก็อาจจะมีเนื้อหาที่ซ้ำบ้างแต่เทอมสองก็โอเคขึ้นค่ะ อีกอย่างคือแจนว่าคอร์สนี้คือไม่ได้เน้นในการคำนวณขนาดนั้นเลย ยกตัวอย่างวิชาหนึ่งมันจะชื่อ Current Issues in Accounting จะเหมือนเป็นเนื้อหาเรื่องการอัปเดตมาตรฐาน IFRS อะไรอย่างงี้ค่ะ

แล้ววิชาเลือกที่เราเรียน เนื้อหามันเป็นประมาณไหนบ้างเล่าคร่าว ๆ นิดนึงเผื่อน้อง ๆ ที่เขามาอ่านรีวิวแล้วสนใจ

Jan: อย่าง Behavioral Finance ก็น่าสนใจตรงที่มันจะเกี่ยวกับ Psychology นิดนึง คือถ้าเป็นด้าน Finance จะเอาด้านจิตวิทยาเข้ามาศึกษาได้อย่างไร

ยกตัวอย่างเช่น ตอนเริ่มคลาสเรียนอาจารย์จะถามว่า ถ้ามีคนให้ตั๋วคอนเสิร์ตฟรีแต่วันนั้นเราไม่ว่างเรามีแพลนทำอย่างอื่นหรือเราอยากไปทำอย่างอื่นมากกว่า เรายังจะไปดูคอนเสิร์ตนั้นอยู่ไหม และถ้าเราเป็นคนซื้อตั๋วเองแล้วก็มีอย่างอื่นที่อยากทำวันนั้น เราจะยังไปดูคอนเสิร์ตอยู่ไหม เราจะได้เรียนรู้ว่าการตัดสินใจสองทั้งสองกรณีมันต่างกันยังไง แล้วก็จะเอาเรื่องนี้มาวิเคราะห์หลังจากนั้นว่าพฤติกรรมหรือการตัดสินใจแบบนี้มันจะเกี่ยวข้องหรือส่งผลกับการตัดสินใจในด้านการลงทุนของคนไหม หรือถ้าเป็นเหตุการณ์สมมุติอื่น ๆ เราจะตัดสินใจอย่างไร มันก็เหมือนจะเป็นทฤษฎีมาเรื่อย ๆ ว่ามันมีทฤษฎีอะไรบ้างที่ผ่านมาที่นักลงทุนส่วนใหญ่เขาทำกัน

อีกตัวอย่างหนึ่งก็ได้ค่ะ อย่าง herding theory คือสมมุติว่ามีข่าวเกี่ยวกับหุ้นตัวหนึ่งออกมา ข่าวดังมากจนคนแห่ไปซื้อหุ้นตัวนี้กัน เราจะได้เรียนรู้ว่าเพราะอะไร หรืออะไรที่มันกระทบกับการตัดสินใจใช้เงินลงทุน ก็จะเป็นการอธิบายเชิงจิตวิทยานิดนึงค่ะ วิชานี้จะไม่ได้เน้นคำนวณนะคะ แล้วก็ไม่มีสอบด้วยค่ะ แต่จะเป็น assessment ให้เราไปเขียนเรื่องของตัวเองมาว่าในการลงทุนของเราที่ผ่านมา เรามีอคติด้านไหนบ้าง เขียนอธิบายเป็นเรียงความส่ง วิชานี้ ได้ความรู้และได้มุมมองใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ เรียนแล้วก็สนุกดีค่ะ

อีกอันนึงชื่อ Advanced Accounting Report and Analysis อันนี้ตอนแรกแจนคิดว่ามันจะเกี่ยวกับ Financial ratio, Discount หรือ Cash flow อย่างที่เคยเรียนมาตอน ป.ตรี แต่จริง ๆ คือไม่ใช่เลยค่ะ วิชานี้จะเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับข้อมูลปัจจุบันที่ต้องอัพเดทมากกว่าค่ะ เช่น มาตรฐานของ finance report หรือข้อมูล IFRS ก็มีเหมือนกัน จะเจาะเป็นเรื่อง ๆ ไปค่ะ เช่น Intangible Assets ในปัจจุบันควรมีการทำการรับรู้รายได้ยังไง การบ้านของวิชานี้ก็จะมีให้เราไปฟัง board accounting เค้า debate กันและให้เราสรุปออกมาเป็นรายงานค่ะ แจนคิดว่าวิชานี้ก็คือสามารถใช้ในการทำงานได้ในอนาคตแน่นอน

สนใจเรียนต่อ The University of Edinburgh ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรี คลิก

บรรยากาศในห้องเรียนเป็นอย่างไรบ้างคะ?

Jan: เทอมแรกคือยังมีอาจารย์ที่เป็นแบบโซนฝั่งยุโรปอยู่บ้างแต่คือเทอมอาจารย์ส่วนใหญ่เป็นคนจีนหมดเลยค่ะ เพื่อนในคลาสกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ เป็นคนจีนเหมือนกันและก็มีคนไต้หวัน คนอินเดีย คน UK อยู่บ้าง ส่วนคลาสสัมมนาจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละประมาณ 30 คนค่ะ คอร์สแจนส่วนใหญ่คนที่เรียนอายุน้อยนะคะ ถ้าคนจีนจะมีแบบเพิ่งเรียนจบแล้วก็มาเลย คนอื่น ๆ ก็อายุประมาณไม่เกิน 25 ประมาณนี้ค่ะ โดยรวมก็โอเคนะคะ หลัง ๆ ช่วงที่โควิดดีขึ้นมากก็มีไปกินข้าวด้วยกันบ้างค่ะ

Assignment ต่าง ๆ เป็นยังไงบ้างคะ?

Jan: บางวิชาก็ไม่มีข้อสอบแต่ก็จะเป็นแบบพวกงาน assignment มากกว่า ส่วนใหญ่ assignment ที่เขาให้อ่าน report อ่าน paper มาแล้วเอามา review คือให้เราเขียน reflection ว่าเราได้อะไรบ้างจากเรื่องที่อ่าน คือก็ไม่ได้ยากขนาดนั้นนะคะ แต่การให้คะแนนอาจารย์ที่นี่ก็โหดอยู่เหมือนกันค่ะ ตอนทำเราอาจจะคาดว่าเราได้คะแนนประมาณ 70-80 อะไรอย่างนี้ แต่จริง ๆ เราอาจจะได้ หรือได้น้อยกว่านั้นก็มี แต่โดยรวมก็ถือว่าโอเคที่ผ่านมาแต่งานก็หนักนิดนึง บางวิชาที่ไม่มีข้อสอบก็คือ assignment สองงานไรงี้ส่วนใหญ่จะเป็น 30 เปอร์เซ็นต์ 70 เปอร์เซ็นต์ค่ะ ส่วน presentation ก็มีนะคะ แต่ว่าไม่มีคะแนนมีเป็นงานกลุ่ม เทอมแรกมีหนึ่งงาน เทอมสองมีหนึ่งงานค่ะ

The University of Edinburgh

มหาวิทยาลัยเป็นไงบ้าง?

Jan: ถ้าเล่าในส่วนของตัวตึก Business School ก็น่าอยู่ดีค่ะ ตึกก็อยู่ติด Middle Park สามารถไปเดินเล่นได้ ของกินก็เยอะ ครบค่ะ ตึกอาจจะไม่ได้ใหญ่มาก แต่ว่า facility ก็ครบดีค่ะ มี Business Club ห้องเรียนก็ใหม่ มีมุมอ่านหนังสือ และห้องสมุดก็ใหญ่ดีค่ะ แต่ช่วง Easter ที่ผ่านมาอาจจะคนเหยอะหน่อย เพราะเป็นช่วงที่ต้องส่งงาน แจนก็เลยจะชอบไปอีกตึกแทนค่ะ ชื่อ Old College ที่นี่จะเป็นของ Law school นะคะ มีห้องสมุด มีมุมอ่านหนังสือ ตรงตึกนี้สวยกว่าแล้วก็คนจะน้อยกว่าแจนเลยชอบไปที่นั่น

Career support ต่าง ๆ ละคะ เป็นอย่างไรบ้าง?

Jan: career support จะมี Student Development Team ค่ะ เค้าจะส่งอีเมลมาทุกสัปดาห์เลยว่ามีอะไรอัปเดตบ้าง มีอีเวนต์อะไรให้ไปได้ ช่วงแรก ๆ ก็มีแบบพวกกิจกรรมเกี่ยวกับ resume เขาก็จะสอนวิธีเขียน resume ให้เราค่ะ ช่วงหลัง ๆ ก็จะเป็น career support แบบอื่น ๆ อย่างเช่น เวลามีเปิดรับสมัครตำแหน่งอะไรใหม่ ๆ เขาก็จะส่งมาให้ทุกคน ใครสนใจก็ไปสมัครได้ ก็เห็นมีเพื่อนบางคนในคอร์สสมัครงานพวก Big4 ไปแล้วก็มีบางคนก็ได้งานแล้วนะคะ

เพื่อน ๆ นักเรียนไทยที่นี่เป็นไงบ้าง Thai Society ที่นี่

Jan: Thai Society คือส่วนใหญ่เป็นเด็กป.ตรีค่ะ แจนก็มีเคยไป join บ้าง เป็นงานที่คนไทย ไต้หวัน สิงคโปร์ คนจีนที่ไม่ใช่จีนแผ่นดินใหญ่ไปรวมกัน งานนั้นก็เพื่อนเยอะนะคะ เป็นงาน Party กับอีกงานที่เคยไปเป็นที่วัดธรรมปทีป ก็โอเคค่ะ ไปสวดมนต์ ตักบาตรค่ะ แต่งานอื่น ๆ ของทาง Thai Society ก็เห็นเขาจัดอยู่ทุก week แต่บางครั้งก็ไม่ได้ไป join เพราะว่างานเยอะเลยต้องรีบปั่นงานค่ะ

สนใจเรียนต่อ The University of Edinburgh ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ฟรี คลิก

เมือง Edinburgh ประเทศสก็อตแลนด์

Edinburgh มีอะไรไหนเล่า

Jan: Edinburgh เป็นเมืองสวยนะคะมี Edinburgh Castle ซึ่งยังไม่เคยเข้าค่ะ (หัวเราะ) มี Calton Hill กับ Arthur’s Seat ให้คนไปเดินเล่นได้ ก็คิดว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่เมืองหนึ่ง แล้วก็น่าเที่ยวด้วย

เรื่องความปลอดภัยที่เมืองนี้ก็หายห่วงเลยค่ะ สามารถเดินเล่นโทรศัพท์ได้ แจนยังไม่เคยเจอเคสว่าโดนขโมยอย่างที่เพื่อนเมืองอื่น ๆ เล่า เมืองนี้ก็คือไม่มีอะไรน่ากลัว ตอนกลางคืนก็คือเดินกลับหอคนเดียวได้ค่ะ ยกเว้นคนที่กลัวผีเพราะเมืองนี้เป็นเมืองเก่าเนอะ ถ้าคนที่ไม่กลัวผีก็คือไม่ต้องกลัวอะไรเลยที่เมืองนี้ค่ะ (หัวเราะ) แต่จะบอกว่าที่นี่เป็นเมืองที่ไม่มี China Town นะ คนจีนก็ไม่ได้อยู่ที่นี่เยอะขนาดเมืองอื่น ๆ ค่ะ

มีอะไรอยากแนะนำสำหรับน้อง ๆ ที่สนใจเรียนต่อ UK ไหมคะ?

Jan: ก็คิดว่าก่อนมาเรียนน่าจะต้องดูพวกคอร์ส Syllabus ให้มันดีก่อนว่ามันตรงกับที่เราอยากมาเรียนหรือเปล่า แล้วก็มหาวิทยาลัยนี้มันจะเน้นด้าน research หนักมาก แจนเลยคิดว่าสำหรับคนที่อาจจะไม่ได้ชอบ research ชอบเรียนเป็น Lecture ก็ควรจะลองดูคอร์สแล้วก็เปรียบเทียบกับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ด้วยเพราะว่า research มันก็ค่อนข้างหนักนะบางครั้ง เพราะว่าตอนป.ตรี เราก็ไม่ได้ต้อง research อะไรเลยพอมาเรียน ป.โท ช่วงแรกมันก็รู้สึกเหนื่อย ต้องปรับตัวค่ะ ก็แนะนำว่าลองดูรายละเอียดคอร์สเรียนเยอะ ๆ ค่ะ

 

สนใจเรียนต่อ The University of Edinburgh ปรึกษาพี่ ๆ Hands On ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการประจำประเทศไทยฟรี เพียงกรอกแบบฟอร์มด้านล่าง